พีกกก สาวแอบบ่นแม่ผัว ขี้ตืดเอา "เมล็ดมะละกอ" ให้หลานกิน แต่เห็นบิลช็อก แพงมาก!!!
สาวเงิบ เห็นแม่สามีป้อนเมล็ดมะละกอให้หลานกิน แอบบ่นในใจว่าขี้เหนียวจริงๆ แต่พอเห็นบิลก็อับอาย เข้าใจผิดเองทั้งหมด
เว็บไซต์ phunuphapluat รายงานเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เล่าว่าแม่สามีเป็นคุณครูที่เกษียณอายุแล้ว ดังนั้นปัจจุบันพ่อแม่สามีจึงอาศัยอยู่บ้าน ดูแลต้นไม้และบ้าน พวกเขามี 2 คน คือสามีของเธอ และลูกสาวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีฐานะการเงินที่ดีจนสามารถส่งเงินมาให้ที่บ้านใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ พ่อแม่สามีก็มีเงินบำนาญของตัวเองด้วย ชีวิตโดยทั่วไปจึงถือว่าไม่ลำบาก
อย่างไรก็ตาม เธอและสามีมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำธุรกิจ การเลี้ยงลูก 2 คนต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่แม่สามีไม่เคยให้เงินมาจุนเจือเลย ถ้าเธอเปิดปากขอเงินกู้ก็จะให้ยืม แต่เมื่อถึงเวลาต้องชำระคืนก็ต้องจ่ายคืนเต็มจำนวน การที่รู้ว่าแม่สามีประหยัดแต่ไม่มีน้ำใจกับลูกๆ หลานๆ ทำให้เธอแอบรู้สึกไม่พอใจมาโดยตลอด แต่เรื่องราวที่เธอเพิ่งได้พบเจอมาล่าสุด ทำให้มุมมองต่อแม่สามีเปลี่ยนไป
โดยปกติเธอและสามีจะผลัดกันไปรับลูกจากโรงเรียน แต่ในวันที่ทั้งคู่ต่างยุ่งกับงานก็ต้องโทรไปรบกวนให้แม่สามีไปรับแทน และหลังเลิกงานเธอก็รีบไปบ้านพ่อแม่สามีทันทีเพื่อรับลูกๆ พากลับบ้าน แต่พอไปถึงก็เห็นลูกทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในครัว พูดคุยและหัวเราะอย่างมีความสุขกับคุณย่า ในขณะที่กินขนมปังซึ่งมีเมล็ดสีดำๆ โรยอยู่ด้านบน
เธอตกใจมากและรีบถามทันที "โอ้ ทำไมหนูถึงให้กินเมล็ดมะละกอ ใครให้กินเมล็ดมะละกอได้ยังไง?" พอได้ยินเธอพูดแบบนั้น ลูกทั้งคู่ก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา ก่อนที่ลูกชายจะเอ่ยถามว่า "แม่ไม่รู้จักเหรอ? ทำไมแม่ถึงเรียกว่าเมล็ดมะละกอ? แม่เป็นสาวบ้านนอกจริงๆ ใช่ไหม" จากนั้นก็มองเธอยิ้มๆ และทานอาหารต่อไปตามที่เขาพอใจ
เธอไม่เข้าใจปฏิกิริยาของลูกๆ และเริ่มไม่แน่ใจว่าแม่สามีให้ลูกกินอะไรกันแน่ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ลูกชายก็รีบซ่อนมันไว้พร้อมทั้งบอกว่า "หนูจะไม่ปล่อยให้แม่กิน นี่เป็นของหายากที่หนูอยากกินมานานแล้ว หนูเพิ่งไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกับคุณย่า คุณย่าซื้อให้หนู"
เมื่อถึงตอนนี้แม่สามีจึงอธิบายว่า "ตอนที่แม่พาหลานกลับมาจากโรงเรียน แล้วพาไปซุปเปอร์มาร์เก็ต หลานพูดว่าสิ่งนี้หายากและล้ำค่ามากเขาเจอในหนังสือเรียน และเพื่อนที่เป็นคนรวยในชั้นเรียนต่างบอกว่ามันอร่อย และหลานก็อยากลองกินบ้าง แม่เลยซื้อมันให้ เมื่อกลับมาถึงบ้านหลานก็ดูชอบกิน และแม่ก็มีความสุข"
สิ่งที่แม่สามีพูดทำให้เธอสงสัยมากขึ้นไปอีก ว่าย่าซื้ออะไรให้หลานกิน และเป็นเงินเท่าไหร่ เพราะทั้งบอกว่าหายากและล้ำค่า แต่ปกติแม่สามีจะขึ้นชื่อเรื่อง "ตระหนี่" แล้วทำไมถึงเอาเงินไปซื้อของแพงให้หลานกินล่ะ?
และเมื่อเธอเห็นใบเสร็จรับเงินก็แทบเป็นลม เมล็ดสีดำเล็กๆ ที่เธอคิดว่าเป็นเมล็ดมะละกอเหล่านี้ กลายเป็นไข่ปลาสเตอร์เจียน หรือไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 อาหารจานที่หรูหราที่สุดในโลก แม่สามียอมจ่ายเงินมากกว่า 1 ล้านเวียดนามดอง (ประมาณ 1,500 บาท) เพื่อซื้อไข่ปลาขวดเล็กขนาด 20 กรัม ให้หลานชายได้กิน ซึ่งทำให้เธอตกใจมาก ถึงขนาดต้องมองบิลชัดๆ และอ่านซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจ
และด้วยความข้องใจเธอจึงถามแม่สามีไปตรงๆ ว่า "ทำไมแม่ถึงซื้อของแพงๆ ให้หลานกิน ฉันเสียดายเงินจังเลยแม่" ซึ่งคำตอบที่ได้รับมาทำให้เธอมองแม่สามีแตกต่างออกไปจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่าเธอคิดผิด แม่สามีไม่ได้ขี้เหนียวและไม่รักลูกหลาน แต่จริงๆ แล้วใช้เงินไปทำสิ่งที่จำเป็น แม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับคนเป็นคุณย่า ตราบเท่าที่หลานๆ ชอบก็โอเค
โดยแม่สามีบอกว่า ไม่มีอะไรต้องเสียดาย ถ้าอาหารอร่อยก็ไม่เสียใจ โดยเฉพาะอาหารที่หลานชายชอบ และยังช่วยให้เขามองเห็นสิ่งที่เรียนรู้ผ่านหนังสือด้วยประสบการณ์จริงของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนพูดถึง ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งสองทาง