ปรากฏการณ์เอลนิโญส่งผลกระทบให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีประสบกับปัญหาภัยแล้ง อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้นและฝนทิ้งช่

ปรากฏการณ์เอลนิโญส่งผลกระทบให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีประสบกับปัญหาภัยแล้ง อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้นและฝนทิ้งช่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปรากฏการณ์เอลนิโญส่งผลกระทบให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีประสบกับปัญหาภัยแล้ง อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้นและฝนทิ้งช่วง คาดรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา นายโชตินรินทร์ เกิดสม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันปรากฏการณ์เอลนิโญมีแนวโน้มแรงขึ้น ส่งผลกระทบทำให้อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนมีแนวโน้มสูงกว่าปกติ และปริมาณฝนโดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าปกติ ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ยังมีระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำยังไม่ได้เท่าที่ควร ทำให้ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร สร้างความเดือดร้อนต่อการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยในปี 2553 นี้ คาดว่าจะมีพื้นที่ประสบภัยแล้งทั่วทั้ง 19 อำเภอ รวม 124 ตำบล 838 หมู่บ้าน เบื้องต้นขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้ง ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์ปฏิบัติการฯ ระดับอำเภอ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ รถบรรทุกน้ำให้พร้อมใช้งานและพอเพียง พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนาจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำ และใช้น้ำอย่างประหยัด นายณรงค์ รัชชะ อายุ 64 ปี เกษตรกรชาวสวนผลไม้และสวนยางพารา หมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สภาพอากาศในระยะนี้ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเริ่มแห้งเฉาโดยเฉพาะผลไม้ ที่ใบร่วงโรยและบ้างก็ยืนต้นตายเนื่องจากขาดแคลนน้ำ แม้จะมีระบบประปาหมู่บ้านช่วยบรรเทาก็ตาม แต่หากมีการใช้น้ำพร้อมกันหลายๆ หลายครัวเรือน ก็จะทำให้ปริมาณน้ำลดน้อยลงและไหลเบา ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งหากภาวะฝนทิ้งช่วงเกิดขึ้นเป็นเวลานานและอุณภูมิพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในวงกว้างอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook