ทักษิณ ลั่นไม่ยอมถูกยึดทรัพย์ ต้องนิรโทษกรรม ขู่บี้ให้ตายปีนี้ 'เละตุ้มเป๊ะ'

ทักษิณ ลั่นไม่ยอมถูกยึดทรัพย์ ต้องนิรโทษกรรม ขู่บี้ให้ตายปีนี้ 'เละตุ้มเป๊ะ'

ทักษิณ ลั่นไม่ยอมถูกยึดทรัพย์ ต้องนิรโทษกรรม ขู่บี้ให้ตายปีนี้ 'เละตุ้มเป๊ะ'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทักษิณ ระบุหากอยากปรองดอง คนแอบสั่งการต้องเลิกสั่งการ ให้นิรโทษกรรม เลิกเอาชนะคะคาน ลั่นไม่ยอมถูกยึดทรัพย์ ขู่หากบี้ให้ตาย ปี53 เละแน่

เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วีดีโอลิ้งค์เปิดใจกรณีคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ในการเสวนาทิศทางประเทศไทยปี 53 จัดโดยกลุ่มกรุงเทพ 50 ว่า ตนฟังคนที่ไปลงทุนในประเทศไทยก็บ่นว่า เมื่อก่อนเราเคยมีนักธุรกิจในโครงสร้างนอมินีมานาน แต่ตอนหลังพอมีเรื่องที่จะเล่นงานผม ก็พยายามไปเล่นงาน บ.กุหลาบแก้ว ตอนหลัง พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกฯก็ตามเล่นเรื่องนี้ พอเริ่มจะวุ่นเพราะเป็นโครงสร้างที่ปล่อยไว้นานเพราะนั่งทับไว้ ครั้งที่ 2 ก็บ่นว่ามีเรื่องแคปปิตอลคอนโทรล 3.เรื่องยึดสนามบิน เลยสรุปว่าการเมืองไทยเล่นกันแรง สมัยก่อนจะไม่ข้ามเขตมาเรื่องเศรษฐกิจ แต่เดี๋ยวนี้ข้ามเขตมาเศรษฐกิจ จนถึงกระบวนการยุติธรรม ถ้าประเทศไทยยังไม่สามารถจะนิ่งเรื่องนี้ได้การลงทุนก็จะหายไป ผลงานเศรษฐกิจไตรมาส 4 ความจริงหากจีดีพีขึ้น ตัวเลขต้องขึ้น แต่นี่ติดลบ เห็นชัดว่าความไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าลงทุน ยังอยู่กับเหตุการณ์การเมือง ซึ่งไตรมาส 1 ของปีนี้จะได้โมเมนตัมจากไตรมาส 4 แต่ครึ่งปีหลังเรามีปัญหาแน่นอน เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาอยู่ ต่างชาติก็บ่นเรื่องมาบตาพุด ว่านายกฯแคร์เอ็นจีโอมากไป

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ม.190 ของรธน. ที่ตั้งขึ้นมาเพราะตอนที่ผมเป็นนายกฯได้เดินเรื่องเอฟทีเอไปหลายที่ ผลสุดท้ายก็เอาตามผมหมด สุดท้ายก็ออก ม.190 มาเพื่อเบรคผม ซึ่งมีทางที่จะแก้ไขได้แต่ต้องตัดสินใจมากกว่านี้ ที่ นายปานปรีย์ พูดว่า 1.4 ล้านล้านเมกกะโปรเจคของรัฐบาลนั้น เอามาจากเมกกะโปรเจคผม เราตกลงจะชำระเงินต่างประเทศเป็นข้าวไม่ใช่เงิน

บ้านเราที่มันยุ่ง เพราะต้นเหตุเกิดจากไม่เดินตามกติกาที่เกิดจากคนมีบารมี เริ่มจากให้พรรคการเมืองบอยคอตการเลือกตั้งเริ่มจากยุบสภา เปรียบทหารว่า เป็นม้าที่ไม่ต้องฟังจ๊อคกี้ บีบให้กกต.ลาออก หากไม่ออกก็ต้องจำคุก มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมให้องคมนตรีเดินสายสื่อ เสริมกำลังเงินให้พันธมิตรฯ ให้พันธมิตรฯปลอมตัวยึดสนามบิน ต้นเหตุเกิดจากการไม่พอใจผม กระบวนการสองมาตรฐานเต็มไปหมด รัฐบาลจึงไม่สนใจกระบวนการยุติธรรม เพราะเอื้อให้กับตัวเอง ถ้าคนไม่เข้าใจมิติยุติธรรม ใช้แต่มิติกฎหมาย ก็จะให้เกิดความไม่สงบสุขเกิดขึ้น ผมเห็นว่า ปี 53 รธน.50 ถูกแก้แน่จะถอยหลังกว่านี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องความแตกแยกสีเหลือง สีแดง หากไม่มีความปรองดองบ้านเมืองคงแย่กว่านี้ ทางที่ดีที่สุดคือสร้างความปรองดอง คนที่แอบสั่งการต้องเลิกสั่งการอย่าคิดเอาชนะคะคานทางการเมือง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเศรษฐกิจแม้จะกินบุญเก่ามาระยะหนึ่ง ขอเรียนว่า 4 ปีซ่อมของผมทำไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน 4 ปีสร้างถูกทุบ วันนี้นักธุรกิจไทยยังโตไม่พอจึงต้องมียุทธศาสตร์ ส่งออกที่เราโตขึ้น แต่เป็นการโตส่งออกเข้าจีนอย่างเดียว และโตในอาเซียน ซึ่งจีนเป็นฟองสบู่เมื่อปีที่แล้วปีนี้จึงขจัดอย่างแรง ดังนั้นเศรษฐกิจไทย ปี53 ยังเข้าตำราทุนนิยมอยู่ ถ้ารัฐบาลยังไม่มียุทธศาสตร์ปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจคงไปได้ยาก

เมื่อถามว่าใกล้จะถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์นอนหลับดีหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยังนอนหลับ รู้ว่าผมและครอบครัวไม่ได้ทำอะไรผิด ทรัพย์สินมีมาก่อนเป็นนายกฯ ทั้งหมดนี้มาจากหุ้นตัวเดียว เมื่อเรามั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรผิด ผู้พิพากษาส่วนใหญ่มีชื่อเสียงมานาน ถ้าเกิดมีการผิดเพี้ยน ผมก็เตรียมทางออกไว้โดยได้ปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ถ้าไม่ได้รับความยุติธรรมต้องเสาะแสวงหากันเจอ ถ้ารังแกและกลั่นแกล้งกันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

ถามว่า ในช่วงระยะเวลานี้ และหลังตัดสิน มีเงื่อนไขอะไรที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตอนที่เลือกตั้งพรรคไทยรักไทย คนที่เลือกเพราะชอบ พอปี 48 คนก็เลือกเพราะรัก แต่พอผมโดนปฏิวัติและตั้งกรรมการสอบสวน คนก็สงสาร แต่ตอนหลังคนก็เจ็บใจแทน ก็เริ่มออกมา ผมมั่นใจว่าคนเสื้อแดงรักสันติเว้นแต่ว่ารัฐบาลส่งคนปลอมเข้าไปเหมือนเมื่อเหตุการณ์พัทยา หรือนำรถแก๊ซไปจอดที่คิงพาวเวอร์ ถ้ารัฐบาลรักสันติด้วยก็ไม่มีอะไร

ถามว่า หลังตัดสินคดี หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจะนำขึ้นศาลโลก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คนวิจารณ์ไม่ได้เปิดตำราดูก็เข้าใจว่าเวิร์ลคอร์ดเป็นเรื่องของเสตท ซึ่งสามารถขึ้นศาลโลกได้ และเคยมีกรณีอยู่แล้วที่ฟ้องรัฐบาลมาเลเซีย สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คตส.ประกอบไปด้วยคนที่เป็นปฏิปักษ์กับผม เมื่อร้องขอให้เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน และยังมีหลักนิติธรรมสากล ต้องมีกระบวนการพิจารณาที่ผ่านสภา ไม่ใช่คณะปฏิวัติ และรธน.ปี 50 ในบทนำเขียนว่าจะคุ้มครองสิทธิประชาชน และยอมรับพันธกรณีที่มีอยู่แล้วกับต่างประเทศ จึงแสดงให้เห็นว่าเรากำลังทำผิดต่อศาลโลก

ถามว่า มีข้อเสนออะไรที่จะทำให้เกิดความปรองดอง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เหตุเกิดจากอะไรก็ต้องดับที่นั่น หากจะยกเลิก เริ่มต้นกันใหม่ นิรโทษกรรม หันหน้าเข้าหากันทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่ให้ผมยอมถูกยึดทรัพย์ ถ้าจะบี้กันให้ตายไปข้าง บอกได้เลยปี 53 เละตุ้มเป๊ะ

"ผมเกรงว่าผู้ที่มีอำนาจสั่การอยู่ข้างหลังยังไม่เลิกสั่งการ ปัญหาเกิดขึ้นเพราะไปบังคับระบบไม่ให้เดิน ถ้าหากคนที่เคยแอบสั่งการมานั่งคุยกับผม ทุกอย่างจบได้ ประชาชนก็จะมีความสุข แต่วันนี้ไม่คุย คิดว่าจะบี้ให้ตาย ถามว่าบี้อีกนานหรือไม่จะตาย เพราะยังมีตัวแทนอยู่ เสื้อแดงเห็นสภาพรัฐบาลทำงานอย่างนี้รับไม่ได้ ถ้ายุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่คิดว่าคงจะดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง ฟันธงเลยว่าปี 53 มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแน่นอน เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้อยู่ แต่จะเป็นรัฐบาลแบบไหนผมไม่รู้ อาจจะมีรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลย้ายข้าง หรือรัฐบาลผลจากการยุบสภา หรือไม่ผมไม่รู้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา หากเลือกใช้องค์กรที่ตนเองได้ประโยชน์ ความสงบไม่เกิด" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook