ช่อ พรรณิการ์ โดนถอนสิทธิลงสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต ปมโพสต์พาดพิงสถาบัน
ศาลฎีกา สนามหลวง อ่านคำพิพากษาเมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) ให้ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของนางสาวพรรณิการ์ วานิช ตลอดไป และไม่ให้มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีก
คำพิพากษานี้เกิดขึ้นหลังจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ ช่อ พรรณิการ์ จากการโพสต์ภาพและข้อความลงเฟซบุ๊ก ที่ตนเชื่อว่ากล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในแง่ร้าย
ต้นปี 2565 กรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่านางสาวพรรณิการ์ ที่เคยเป็น สส. พรรคอนาคตใหม่ เข้าข่ายละเมิด "มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561" จึงส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาต่อ
การตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวยังเป็นการซ้ำเติมโทษทางการเมืองที่นางสาวพรรณิการ์เผชิญอยู่แล้ว จากการยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อปี 2563 ที่มีการตัดสิทธิทางการเมืองของนางสาวพรรณิการ์และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ เป็นเวลา 10 ปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน พ.ค. ปีนี้ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เคยยกฟ้องคดีที่อัยการยื่นฟ้องนางสาวพรรณิการ์ว่าละเมิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์พาดพิงสถาบันกษัตริย์มาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นศาลมองว่าข้อความที่นางสาวพรรณิการ์โพสต์ไม่ใช่การนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และไม่ได้ทำให้สังคมตื่นตระหนก
นางสาวพรรณิการ์ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตจากการถูกตัดสินว่าทำผิดจริยธรรม ทั้งที่การกระทำตั้งต้นอาจไม่ผิดหรือยังไม่ถูกตัดสินว่าผิด เพราะก่อนหน้านี้ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคสุดท้าย ก็ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตเช่นกัน จากการผิดจริยธรรมร้ายแรงจากการเลี้ยงไก่ในที่ดิน ส.ป.ก.