ศาลเผยตัดสิทธิ์ ช่อ พรรณิการ์ แม้โพสต์ก่อนเป็น สส. เพราะยังปล่อยให้เห็นว่อนเน็ต

ศาลเผยตัดสิทธิ์ ช่อ พรรณิการ์ แม้โพสต์ก่อนเป็น สส. เพราะยังปล่อยให้เห็นว่อนเน็ต

ศาลเผยตัดสิทธิ์ ช่อ พรรณิการ์ แม้โพสต์ก่อนเป็น สส. เพราะยังปล่อยให้เห็นว่อนเน็ต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฏีกาเผยแพร่คำพิพากษาคดีหนึ่งเมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) ที่เผยถึงสาเหตุที่ตัดสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้งของนางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส. พรรคอนาคตใหม่ ว่าแม้โพสต์ดังกล่าวเขียนขึ้นก่อนการเป็น สส. แต่เมื่อนางสาวพรรณิการ์เป็น สส. กลับยังปล่อยให้โพสต์นั้นอยู่ในบัญชีเฟซบุ๊กของตัวเองและคนทั่วไปยังเห็นโพสต์นี้

"ผู้คัดค้าน (น.ส.พรรณิการ์) ยังคงปล่อยให้ภาพถ่ายและข้อความดังกล่าวปรากฎอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์บัญชีการใช้งานเฟซบุ๊กในลักษณะเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถข้าถึงได้ พฤติการณ์ของผู้คัดค้าน (น.ส.พรรณิการ์) เป็นการแสดงออกถึงการไม่เคารพและเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 6 มาตรา 50 (1) และมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 6" ศาลฏีกา ระบุ

"การที่ผู้คัดค้าน (น.ส.พรรณิการ์) ไม่ลบหรือนำภาพถ่ายและข้อความดังกล่าวทั้งหมดออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทั้งที่สามารถกระทำได้เพื่อไม่ให้ปรากฎอยู่และเพื่อไม่ให้บุคคลใดสามารถเข้าถึงภาพถ่ายและข้อความทั้งหกกรณีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย"

นอกจากตัดสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งแล้ว นางสาวพรรณิการ์ยังถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีกด้วย

คดีนี้เป็นการตัดสินว่านางสาวพรรณิการ์ฝ่าฝืนหลักจริยธรรมหรือไม่

ส่วนคดีที่ตัดสินว่าโพสต์เหล่านี้ผิดหรือไม่ผิดนั้น ก่อนหน้านี้ศาลอาญาเคยยกฟ้องไปแล้วเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าโพสต์เหล่านี้ไม่ได้เป็นการนำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และไม่ได้ทำให้สังคมตื่นตระหนกตามที่อัยการซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีนี้กล่าวหา

สส.ต้องจริยธรรมสูง-คนไทยมีหน้าที่รักษาสถาบัน

อย่างไรก็ตาม คดีล่าสุดนี้ ศาลฎีการะบุด้วยว่าการเป็น สส. จะต้องมีจริยธรรมที่สูงกว่าประชาชนทั่วไปและต้องระวังการใช้โซเชียลมีเดียอย่างยิ่ง และคนไทยจะต้องพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์

"ผู้คัดค้าน (น.ส.พรรณิการ์) มีเชื้อชาติและสัญชาติไทย นอกจากมีหน้าที่ตามมาตรา 50 (1) อันเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยแล้ว ผู้คัดค้านในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังต้องยึดถือปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมเพื่อรักษาเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งและความเชื่อถือศรัทธาของประชาชน ย่อมต้องระมัด ระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์มิให้มีภาพถ่ายหรือข้อความพาดพิงหรือแสดงออกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่ไม่เหมาะสมหรือมิบังควร เนื่องจากพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ เป็นมิ่งขวัญและศูนย์รวมความสามัคคีของปวงชนชาวไทย โดยกล่าวถึงพระมหากษัตริย์ว่า 'ในหลวง' 'พ่อหลวง' หรือ 'พ่อของแผ่นดิน' เป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย ปวงชนชาวไทยมีความรักและความภาคภูมิใจในองค์พระมหากษัตริย์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดมา"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook