คาดเดือนมีนาคมขาดแคลนน้ำรุนแรง
ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรคาดตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จะเริ่มขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ แต่ฤดูฝนจะมาเร็วขึ้นหลังจากปรากฏการณ์เอลนิญโญ่อ่อนตัวลงแล้ว
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ว่าดูจากปริมาณน้ำสำรองของปี 52 ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ปัญหาคือ ความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัว ทำให้โครงสร้างการกักเก็บน้ำไม่เพียงพอ โดยขณะนี้กรมชลประทานต้องจัดสรรน้ำสำหรับฤดูแล้งเพิ่มขึ้นจาก 4 พันล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2541 เป็น 8 พันล้านลูกบาศก์เมตรในปีนี้ ในขณะที่จำนวนเขื่อนยังเท่าเดิม และหากยังมีการใช้น้ำแบบนี้ต่อไป คาดว่าตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป หลายพื้นที่จะขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรอย่างแน่นอน แต่ยังมีข่าวดีว่าฤดูฝนปีนี้น่าจะมาเร็วขึ้นประมาณปลายเดือนเมษายน เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนิญโญ่ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะทำให้ฝนทิ้งช่วงถึงกลาง ปีได้ผ่านช่วงรุนแรงที่สุดไปแล้ว ซึ่งมีผลให้เกิดวงจรเล็กๆ กลางทะเลจีนใต้ที่ทำให้เกิดฝนตกในประเทศไทยเพิ่มขึ้น หรือเกิดฝนหลงฤดูที่ช่วยบรรเทาความแห้งแล้งลงได้บ้าง
ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้งในระยะยาว นายรอยล กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์การบริหารส่วนตำบลจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมใน การจัดระบบจัดการน้ำของชุมชน เช่น การสร้างระบบกักเก็บน้ำเล็กๆ สำหรับชุมชน โดยให้ชุมชนบริหารจัดการกันเองในรูปแบบแก้มลิง หรือสระย่อย ซึ่งได้ผลมาแล้วในหลายพื้นที่ของภาคอีสาน.