นักวิชาการ-ภาคเอกชนจับตาความเคลื่อนไหวหลังตัดสินคดียึดทรัพย์
นักวิชาการ มรภ.อุบลราชธานี ระบุแม้ตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ การชุมนุมยังไม่จางหาย เพราะเป็นปัญหาขัดแย้งมานาน ขณะที่ภาคเอกชนเหนือเห็นคล้ายกัน แต่ยังเชื่อมั่นรัฐบาลคุมสถานการณ์ได้
นายสุเชาว์ มีหนองหว้า รองคณบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชาการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และเลขาฯ ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.อุบลราชธานี ให้ความเห็นถึงศาลจะพิจารณาคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ.) ว่า ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นเช่นไร ปัญหาการชุมนุมยังคงยืดเยื้อ เพราะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองยังคงนัดรวมตัวกันเป็นระยะ เพราะเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาเป็นปี ขณะเดียวกันรัฐบาลควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่ประชาชนเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ ครั้งนี้ เพราะการให้ข้อมูลอย่างรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องทำอย่างต่อเนื่อง การให้ข้อมูลก่อนวันตัดสินคดีเพียงไม่กี่วันไม่สามารถสร้างความเข้าใจกับ ประชาชนได้
ด้านนายอนุศิษฎ์ ภูวเศรษฐ กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง กล่าวว่า การตัดสินคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของกลุ่มนักธุรกิจไม่น้อย เพราะมีผลต่อเศรษฐกิจบ้านเมือง เนื่องจากจะมีการชุมนุมของกลุ่มมวลชนทั้งในวันตัดสินคดีและหลังวันตัดสิน โดยเฉพาะการนัดชุมนุมใหญ่ในเดือนมีนาคมนี้ เพราะขณะนี้การท่องเที่ยวเริ่มได้รับผลกระทบ และการลงทุนเริ่มชะลอตัว เพื่อรอดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกันในกลุ่มธุรกิจภาคเหนือส่วนใหญ่ยังเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถ ดูแลสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ด้วยดี