จับครบแล้วลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 8 นาย ผบ.ตร. เชื่อไม่ใช่ความขัดแย้งบิ๊กตำรวจในองค์กร

จับครบแล้วลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 8 นาย ผบ.ตร. เชื่อไม่ใช่ความขัดแย้งบิ๊กตำรวจในองค์กร

จับครบแล้วลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 8 นาย ผบ.ตร. เชื่อไม่ใช่ความขัดแย้งบิ๊กตำรวจในองค์กร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับครบแล้ว ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 8 นาย "บิ๊กเด่น" ผบ.ตร. ยันให้ความเป็นธรรม เชื่อไม่ใช่ความขัดแย้งบิ๊กตำรวจในองค์กร

(25 ก.ย.66) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) เปิดเผยกรณีการระดมกำลังกวาดล้างเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ ที่ได้เข้าค้นรวม 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้ต้องหาร่วม 23 คน เป็นตำรวจซึ่งเป็นทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 8 นาย ว่า คดีนี้ตำรวจนครบาล 5 จะรับผิดชอบดูแลสำนวนคดีการสอบสวน เนื่องจากย้อนไปเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ขณะนี้สามารถติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 17 คน จากทั้งหมด 23 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ จับกุมครบแล้ว 8 นาย ยังขาดพลเรือนอีก 6 คน

ส่วนขั้นตอนจากนี้ จะติดตามจับกุมกลุ่มที่เหลือ โดยพนักงานสอบสวนจะทำบันทึกจับกุมแล้วคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล สำหรับการประกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่รับรายงานคำให้การของผู้ต้องหา แต่ยืนยันว่าชุดปฏิบัติการ มีหลักฐานดำเนินคดี ซึ่งได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมานานกว่า 2 เดือน จนทราบแหล่งที่พักอาศัยของผู้ต้องหา ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีการขอหมายค้นจากศาล ตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านรวม 4-5 หลัง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย และหลังหนึ่งที่ตรวจค้น ชื่อผู้ครอบครองไม่ใช่ รอง ผบ.ตร.

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังต้องรอรายงานผลการตรวจค้นว่าได้พยานหลักฐานใดเพิ่มเติม จากนี้หากพบพยานหลักฐานจะขยายผลสืบสวนจับกุมต่อไป

ส่วนกรณี รอง ผบ.ตร. ตั้งทีมกฎหมายเพื่อเตรียมดำเนินคดีกลับต่อชุดจับกุม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนและรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอจนนำไปสู่การออกหมายจับ

ทางด้าน พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์​ กิตติ​ประ​ภั​สสร์​ ผู้​บัญชาการ​ตำรวจ​แห่งชาติ​​ หรือ​ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจไซเบอ​ร์นำหมายเข้าตรวจค้นบ้านพัก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์​ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ มีส่วนเกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.การพนัน นายกรัฐมนตรีได้กำชับในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ว่า ยังไม่ได้กำชับ แต่มีการรายงานนายกรัฐมนตรีในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากท่านติดภารกิจ

เมื่อถามถึงกรณีตั้งคณะกรรมการเพื่อมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์​ กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นแต่ต้องรอนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนนายตำรวจที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนหรือไม่นั้น ผบ.ตร. ระบุว่าต้องรอดูผลจากการสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่ามีรายงานอย่างไร

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ค่อนข้างกระทบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ อย่างที่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องจากการขยายผล จากตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และขยายผลมีการออกหมายจับที่ศาล ทั้งหมด 23 หมาย มีตำรวจ 8 หมายพลเรือน 15 หมาย จับกุมตรวจค้นตามหมายจับวันนี้จึงเป็นการจับกุมตรวจค้นตามหมายจับ ส่วนรายละเอียดตนจะให้ผู้ที่รู้เรื่องดีที่สุด เมื่อค้นทุกจุดแล้วจะมีการแถลงอีกครั้งหนึ่ง



เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับพันตำรวจโทวสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว หรือเครือข่าย "เมฆ รามา" ผบ.ตร. ระบุว่า อันนี้ยังไม่ได้ยิน แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ มินนี่ เจ้าของเว็บพนันรายใหญ่

สำหรับ คลิปที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไปร่วมงานเลี้ยงกับมินนี่ และทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ผบ.ตร. ระบุว่า ยังไม่ได้ดู เนื่องจากเมื่อเช้าตนประชุมอยู่กับนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า การไปร่วมงานแบบนี้ในทางส่วนตัวมีความผิดหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังนะ เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม เรื่องนี้ต้องมีการสอบสวน และเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนทุกเรื่อง ถึงแค่ไหนแค่นั้นก่อนตามข้อมูลของฝ่ายดำเนินการสอบสวน

เมื่อถามว่าการบุกค้นบ้านพัก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เมื่อเช้าเกี่ยวข้องกับการสรรหา ผบ.ตร.คนใหม่ในวันที่ 27 กันยายนนี้หรือไม่ ผบ.ตร. ระบุว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นการทำงานจากการขยายผล และเรื่องนี้ก็ยังไม่เกี่ยวกับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่อาจจะเกี่ยวกับลูกน้องของท่านต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งในองค์กรตำรวจระหว่าง 2 ตำรวจใหญ่หรือไม่ ผบ.ตร.ระบุว่า ตนเชื่อว่าไม่ เป็นเรื่องของหลักฐานไปถึงใครเท่านั้นเองมันมีคดีตั้งต้นอยู่ก็สอบสวนไป

เมื่อถามว่า สังคมมีการมองว่าคดีนี้เป็นการตัดแข้งตัดขาถึงเล่นกันแรงขนาดนี้นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างเช่น การเสียชีวิตของ ผู้กำกับเบิ้ม พันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ตอนแรกก็มีข่าวว่าเป็นการฆาตกรรมตนก็ไปตรวจสอบด้วยตนเอง สอบถามจาก กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แล้วพยานหลักฐาน ซึ่งไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ใช่เป็นข่าวลือ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง ตำรวจที่อยู่ในงาน ใครจะผิดใครจะละเว้น ใครจะให้การเท็จหรือไม่ ก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง และเป็นไปตามข้อกฎหมาย ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน เราไม่อยากพูดก่อน

เมื่อถามย้ำว่าสังคมมองว่าเป็นการขัดแข้งขัดขาของตำรวจใหญ่กันเองใช่หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนขอชี้แจงตามข้อเท็จจริง เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอยู่ วันนี้ไปค้นหลายจุดมาก และจะขอสรุปในช่วงบ่ายว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ขอให้รายงานกลับมาที่ตนก่อน ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีนี้รับผิดชอบโดยนครบาล ต้องดูว่าจะมีความต้องการให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนในระดับ ตร.หรือไม่ เพราะมีความเกี่ยวพันกับผู้ต้องหาหลายคนหลายจุด หากมีการเสนอมาตนก็จะรีบพิจารณา

ส่วนตำรวจที่ออกหมายจับทั้งหมด 8 นาย เส้นทางการเงินมีมูลค่าสูงแค่ไหน ผบ.ตร.ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจน

เมื่อถามว่า หากหลักฐานสาวไปถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะต้องมีการสอบสวนเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ข้อเท็จจริงถึงขนาดนั้นขอให้ได้รับรายงานที่ชัดเจนก่อน ทั้งนี้ได้รับรายงานมาเมื่อเช้าและยังไม่แน่ใจว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร เพียงแต่ต้องการจับบุคคลตามหมายจับ อันนี้บ้านใครตนยังไม่ทราบเลย ซึ่งเขารายงานมาเมื่อเช้าว่ามีการเข้าไปตรวจค้น การตรวจค้นเป็นไปตามหน้างาน มีหนังสือขออนุญาตซึ่งจะต้องไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงกับหัวหน้าชุด

ผบ.ตร. ยืนยันว่า ตนยังไม่ได้คุยกับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เนื่องจากติดภารกิจ ส่วนจะต้องมีคำสั่งย้ายพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มาช่วยราชการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือไม่ ย้ำว่า ยังขออนุญาตตรวจสอบให้ดีก่อน​ เพราะวันนี้ตนก็ยุ่งตั้งแต่เช้า​

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรในช่วงใกล้เกษียณอายุราชการแต่ก็ยังมีเรื่องราวปัญหามากมาย​ ผบ.ตร.ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ส่วนเรื่องดังกล่าวจะต้องจบก่อนเกษียณ​ วันที่​ 30 กันยายนนี้เลยหรือไม่​ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์​ กล่าวว่า​ อ่อ คงไม่ขนาดนั้น

เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่เนื่องจากคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับบิ๊กตำรวจ​ ผบ.ตร.​ กล่าวว่า​ ทุกคดีย่อมมีความหนักใจทั้งนั้นแหละ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ พร้อมย้ำว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือใคร​ แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ และตนก็ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี​ เนื่องจากท่านรีบกลับไปก่อน

เมื่อถามว่าเว็บพนันออนไลน์เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง โดยครั้งนี้จะดำเนินการจริงจังหรือไม่ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์​ ไม่ได้ตอบคำถามและเดินทางกลับในทันที

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ก่อนที่ผบ.ตร.จะให้สัมภาษ​ณ์​ เมื่อเห็นสื่อมวลชนดักรอหน้าห้องรับประทาน​ตึกสันติไมตรีหลังใน​ ได้ถอยกลับเข้าไปตั้งหลักภายในห้องโดนได้พูดคุยกับพลตำรวจตรีอาชยนต์​ ไกรทอง​ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ก่อนออกมาให้สัมภาษ​ณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook