ลุ้นคดีดังยึดทรัพย์7.6หมื่นล้าน จับตา5ชม.อันตราย

ลุ้นคดีดังยึดทรัพย์7.6หมื่นล้าน จับตา5ชม.อันตราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.-ทหารเข้าพร้อมรับมือตู่ปูดระวังบึ้ม-รัฐประหาร!

 

ศาลฎีกาพร้อม ตัดสินคดีประวัติศาสตร์ยีดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ทั่วประเทศรอลุ้นระทึก เฝ้าจับตาดูแบบไม่กระพริบ รัฐบาลสั่งช่อง 11 จัดถ่ายทอดสดทักษิณนอแถลงเปิดใจ หลังฟังคำพิพากษา ขณะที่ ประวิตร กำชับทหาร ตบเท้าพร้อมอยู่ในที่ตั้ง เทพเทือก ยังไม่ประกาศใช้กฎหมายพิเศษ โวลั่นมีหลักฐานเด็ด โอนเงินจากเมืองนอก อยู่ในบัญชีใคร แต่อ้างความมั่นคงเปิดไม่ได้ ปณิธาน ย้ำไม่ประมาท จับตาใกล้ชิด 5 ชั่วโมง ช่วงเวลาอันตราย เผยช่วงชุมนุมใหญ่ 12-14มี.ค. สั่งปิดภารกิจนายกฯ หวังความปลอดภัย สภากาชาดสั่งสำรองเลือดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว จตุพร ปูดอีกระวังบึ้ม-รัฐประหาร วอนชาวบ้านช่วยจับตา 26 ก.พ. ปิดกรุงเทพฯ ปล้น ใครรอรับค่าสินบน

 

หลายฝ่ายรอลุ้นระทึกการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการวางมาตรการดูแลสถานการณ์การชุมนุมหลังกลุ่มเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12-14 มี.ค.นี้ว่า ไม่จำเป็นต้องประกาศกฎหมายพิเศษ ถ้าหากการชุมนุมนั้นไม่ละเมิดสิทธิของประชา ชนคนอื่นไม่ทำลายสถานที่ราชการ หรือไม่บุกรุกสถานที่ราชการ ไม่ขัดขวางการดำเนินชีวิตตามปกติของประชาชนทั่วไปก็สามารถ ชุมนุมได้ ไม่มีปัญหาอะไร

 

* ลุ้นฟังคดีประวัติศาสตร์

 

ต่อข้อถามว่า มองว่าที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศชุมนุมล่าช้าออกไปเป็นเพราะกระแสตกลงไปหรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ตนคิดว่าอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะกระแสตกหรือกระแสขึ้นทั้งหมด แต่ตนคิดว่าในการตัดสินคดีในวันที่ 26 ก.พ. ประชาชนทั่วประเทศจะได้ฟังคำพิพากษา ซึ่งต้องถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีการพิจารณาพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับการยึดทรัพย์สินของนักการเมืองตั้ง 7 หมื่นกว่าล้านบาท ที่แล้วมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เคยพิพากษายึดทรัพย์ข้าราช การ นักการเมือง เพียงแค่ 100-200 ล้านบาทเท่านั้น แต่คดีนี้เป็นคดีใหญ่ ดังนั้นประชาชนทั้งหลายก็จะได้ศึกษาจากคำพิพากษา เมื่อฟังคำพิพากษาแล้วทุกคนก็ควรยอมรับคำพิพากษา ถ้าทุกคนยอมรับในอำนาจอธิปไตยนี้ บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย

 

* วอน แม้ว ยอมรับกฎหมาย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตัดสินของศาลในวันที่ 26 ก.พ. แม้แผ่นดินกลบหน้าจะยังไม่ยอม นายสุเทพ กล่าวว่า สักวันหนึ่งคนไทยก็คงจะฉุกใจคิดได้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับ ชีวิตความเป็นอยู่ของไทยโดยส่วนรวม พ.ต.ท.ทักษิณ จะเลือกวิธีการต่อสู้อย่างไรก็ได้เป็นสิทธิ เพียงแต่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเคารพกฎหมาย ยอมรับกฎหมาย ถ้าให้คนไทยทั้งประเทศ เคารพกฎหมาย แต่ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวที่ไม่ยอมเคารพกฎหมาย อย่างนี้ก็ไป กับคนอื่นไม่ได้

 

* เทือกฉะพวกป้ายสีรัฐบาล

 

ต่อข้อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดง บอกว่า ตอนนี้ทางรัฐบาลเตรียมการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำลายส่วนราชการต่าง ๆ หรือการเผาแล้วโยนความผิดไปให้กลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่ม นปช. นายสุเทพ กล่าวว่า ใครที่เป็นคนพูดอย่างนั้นเป็นคนโกหก รัฐบาลจะไปทำไม รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย รัฐบาลจะไปสร้างเหตุร้ายขึ้นมาทำไม คนที่พูดนั้นโกหกหรือไม่ก็ตั้งใจที่จะทำ แล้วก็พยายามบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์ ยืนยันว่าตนไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน

 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ากลุ่มเสื้อแดงจะใช้กลุ่มรถแท็กซี่ไปปิดล้อมศาลฎีกาในวันที่ 26 ก.พ. นายสุเทพ กล่าวว่า เราก็เตรียมการป้องกันไว้แล้ว ใครทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดี ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

 

* มีหลักฐานโอนเงินจากนอก

 

ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้ตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องการตั้งกองกำลังติดอาวุธภายในประเทศ ว่า การให้ข่าวของนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ทุกครั้งไม่เคยบิดเบือน เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา

 

นอกจากนี้นายสุเทพ ลุกขึ้นชี้แจง ด้วยว่า คนที่พูดเรื่อง กองกำลังติดอาวุธคนแรก คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ. แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หลังเดินทาง กลับจากดูไบ ว่าจะตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น ผบ.สส. จากนั้นจึงมีสื่อมวลชนมาถามตนและนายปณิธาน จึงตอบไปตามความจริง ส่วนการลักลอบขนเงินเข้ามาในราชอาณาจักร นั้น ผมมีข้อมูลและมีเอกสารอยู่ในมือจริงว่าโอนเงินมาที่ใคร จำนวนเท่าไหร่และให้ใครบ้าง แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงไม่สามารถนำมาพูดในที่นี้ได้

 

* ปณิธาน ชี้ระดมม็อบไม่ทัน

 

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิ การนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงเลื่อนการชุมนุมใหญ่จากช่วงหลังวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปเป็นระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.นี้ เท่าที่ประเมิน เห็นว่าน่าจะมาจากกลุ่มดังกล่าวเตรียมการไม่ทัน เพราะรัฐบาลได้วางมาตรการตั้งรับเป็นอย่างดีทำให้การระดมมวลชนไม่เป็นไปตามแผน โดยแกนนำคนเสื้อแดงหวังใช้ผู้ชุมนุมในเขต กทม.และ ปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งระดมได้หลักแสนเท่านั้น แต่ผู้ชุมนุมในต่างจังหวัดระดมมาไม่ทันที่สำคัญยังเกิดความแตกแยก ทางความคิดในหมู่แกนนำ ที่บางส่วนเห็นว่าไม่ควรเคลื่อนไหวขัดแย้งกับศาล

 

* สั่งจับตาพิเศษหลังตัดสิน

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งก่อนและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยเฉพาะช่วงเวลา 4-5 ชม. หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนบางส่วนสนใจและมีอารมณ์ขึ้นสูงสุด เชื่อว่าจะมีการหยิบคำพิพากษาไปเป็นเงื่อนไขอย่างแน่นอน แต่อาจหาเงื่อนไขอื่นมาประกอบด้วย เช่นแผนระดมรถปิกอัพ 1 แสนคันเข้า กทม.ก็เป็นส่วนหนึ่งของการระดมคนจากต่างจังหวัดเข้า กทม.เท่านั้น เพราะถ้าใช้คนแต่ใน กทม. อย่างเดียว จะได้ยอดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

 

เมื่อถามว่าเหตุใดผู้พิพากษาบางคนเก็บตัวในเซฟเฮาส์ นายปณิธาน ตอบว่า เป็นมาตรการปกติเพราะผู้พิพากษาบางคนอาจเดินทางไม่สะดวก ยืนยันว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นมาตรฐาน

 

* ปิดภารกิจนายกฯ12-14มี.ค.

 

ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. รัฐบาลจะดำเนินการตามแผนที่เรียกว่าแผนปฏิบัติการหลังคำพิพากษา เป็นเวลา 2 วัน ที่จะทำต่อเนื่องจากแผนปฏิบัติการช่วงเวลาระหว่างคำพิพากษา ที่จะเน้นการประสานงาน และตั้งศูนย์ดูแลสถานการณ์ตามสถานที่สำคัญ ๆ โดยเฉพาะบริเวณศาลฎีกา ซึ่งหลังคำพิพากษาจะมีการประเมินเพื่อกำหนดมาตรการดูแล บ้านพักผู้พิพากษาและดูแลสถานการณ์อื่น ต่อไป นายปณิธาน กล่าวและว่า ขณะนี้นายกฯ อยู่ระหว่างการประเมินว่าจะปิดภารกิจ ระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค. นี้ เป็นความลับเพื่อความปลอดภัยนายกฯ

 

* ตร.ระดมรับมือเต็มพิกัด

 

ที่ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. เปิดเผยการเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยศาลฎีกาวันที่ 26 ก.พ. ว่า ในช่วงสายที่ผ่านมาหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดลงตรวจพื้นที่โดยรอบก่อนจะมอบพื้นที่ให้บก.น.1 ซึ่งได้เตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย, เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน และตำรวจจราจร เข้าดำเนินการต่อไป โดยในช่วงเที่ยงจะมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่ศาลฎีกา มีพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และตั้งแต่เวลา 06.00 น. (25 ก.พ.) จะเพิ่มความเข้มในมาตรการดูแลความเรียบร้อย โดยการเพิ่มกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนเป็น 3 กองร้อย นอกจากนี้ได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการจัดเตรียมกำลังไว้คอยสนับสนุนได้ตลอดเวลา

 

* ปิดกั้นถนนรอบศาลฎีกา

 

ส่วนบรรยากาศที่ศาลฎีกา สนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะเริ่มปิดถนนหับเผย โดยมีการวางกองกำลังทั้งตำรวจ สายตรวจสน.ชนะสงคราม สายตรวจ 191 และสห.คอยตรวจตราบริเวณโดยรอบศาลฎีกาตลอดเวลา 24 ชม. พร้อมตั้งจุดสกัดตามบริเวณต่าง ๆ และยังทำการตรวจรถและผู้ที่เข้า-ออกอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้านครหลวง ให้ช่วยเหลือนำรถกระเช้ามาช่วยเสริมติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิดกว่า 20 ตัวมาติดเพิ่มในจุดอับเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก เมื่อทราบว่ามีสื่อมวลชนนำแผนผังรายละเอียดการเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ศาลฎีกาไปเผยแพร่

 

* ศาลยุติธรรมพร้อมรับมือ

 

นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมก่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทว่า จนถึงวันนี้ถือว่า เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรมและศาลฎีกา ทุกคนพร้อมเต็มที่ในการรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีเชื่อว่าน่าจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้กำชับให้เข้มงวดตรวจสอบ บุคคลเข้า-ออก จะเปิดประตูด้านหน้าถนนหับเผยเพียงฝั่งเดียว เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและดูแลความปลอดภัย

 

ด้านนายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าคุณหญิงพจมานและบุตรทั้งสองจะเดินทางไปศาลไปฟังคำพิพากษาเองหรือไม่ อย่างไรก็ดีทั้งหมดก็ไม่ได้หวั่นวิตกอะไร ซึ่งช่วงแรก ๆ คู่ความอาจจะรู้สึกเครียด เพราะต้องอดทนการเตรียมตัวสู้คดีเพราะที่ผ่านมาการฟ้องคดีใช้เวลานับตั้งแต่ คตส. อายัดทรัพย์ไว้ ตั้งแต่ปี 50 ก็ใช้เวลาร่วม 2 ปี

 

* เปิดขั้นตอนบังคับคดี

 

นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ถ้าศาลมีคำพิพากษาเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าจำเลยมาศาล จำเลยต้องสืบทราบคำสั่งศาล ถ้าไม่เดินทางมาในวันรุ่งขึ้นพนักงานอัยการจะยื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำบังคับ คือ ให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เช่น ศาลมีคำสั่งให้โอนเงินบัญชีนี้เป็นของแผ่นดิน ก็ต้องโอนเข้ากระทรวงการคลัง ถ้าภายใน 30 วัน แต่ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ พนักงานอัยการซึ่งเป็นผู้ร้องนี้ต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งเจ้าพนัก งานบังคับคดี เพื่อบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล เมื่อได้คำบังคับมาแล้วต้องส่งมอบให้ ป.ป.ช. จากนั้น ป.ป.ช.ต้องดำเนินการนำยึดบัญชีให้โอนเงินทั้งหมดเป็นของกระทรวงการคลัง ถ้าทรัพย์สินเป็นที่ดินต้องเอาขายทอดตลาด โดยการบังคับคดีต้อง ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 10 ปี

 

* ช่อง 11 จัดถ่ายทอดสด

 

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต. ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ก่อนศาลอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ในเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.พ. ตนได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ ประสานสถานีวิทยุต่าง ๆ ถ่ายทอดสดเสียงการอ่านคำพิพากษา นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ทำรายการพิเศษ โดยจะเชิญนักกฎหมาย ทั้งจากอัยการคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงยุติธรรม อาจารย์มหาวิทยาลัย ฯลฯ มาให้ข้อมูลเรื่องขั้นตอน เพื่ออธิบายถึงข้อเท็จจริงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพื่อให้ชาวบ้านที่ไม่ได้ติดตามหรือสับสนกับคำพิพากษาได้เข้าใจคำตัดสินมากขึ้นและป้องกันการบิดเบือน จากนั้นวันที่ 2 มี.ค.จะเรียกประชุมตัวแทนสื่อรัฐ เพื่อพูดคุยถึงการจัดทำสกู๊ปชี้แจงคำตัดสิน ตั้งแต่วันที่ 2-14 มี.ค.

 

* มท.ตั้งวอร์มรูมเกาะติด

 

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขประชาชนจากต่างจังหวัดที่จะเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ. แต่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็มีการตั้งวอร์รูมดูแลสถานการณ์อยู่ คาดว่าสถานการณ์จะไม่เกิดความรุนแรง เพราะคนเสื้อแดงก็บอกแล้วว่าจะไม่ออกมาร่วมชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนก็ต้องมีความรับผิดชอบ อย่าทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ประชาชนก็มีความเป็นห่วงเท่า ๆ กัน

 

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวง มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหม พันธุ์ แกนนำเสื้อแดง ระบุว่ากระทรวงมหาด ไทยแจก ซีดีล้มเจ้า นั้นยืนยันว่ากระทรวงไม่ดำเนินการตามที่นายจตุพร กล่าวหา ทั้งนี้สาระสำคัญอย่าไปดูว่าใครแจก แต่ให้ดูเนื้อหาที่ปรากฏเป็นจริงตามที่ปรากฏหรือไม่มากกว่า

 

* ประวิตรยังไม่ใช้กม.พิเศษ

 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้เตรียมมาตรการ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรจะต้องฟังการพิจารณาตัดสินของศาลฎีกา ส่วนการประชุมสภากลาโหมไม่ต้องมีการสั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนชุมนุมใหญ่เป็นวันที่ 12 มี.ค. พร้อมปิดการจราจรเส้นสนามหลวง-ถนนราชดำเนิน เรื่องนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเตรียมการไว้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรจะไม่ใช้กฎหมายพิเศษจะใช้เพียงกฎหมายปกติเท่านั้น

 

* กำชับทหารพร้อมในที่ตั้ง

 

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมว่า ที่ประชุม พล.อ.ประวิตร รมว. กลาโหม ขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระ ทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้ติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ รวมทั้งย้ำเตือนให้กำลังพลเพิ่มความเข้มข้น ในการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาตลอด 24 ชม. พบเห็นสิ่งใดผิดปกติให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบทันทีเท่าที่มีการประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ

 

* สภากาชาดสำรองเลือด

 

พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์ บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ฉุกเฉินในวันที่ 26 ก.พ.ว่า สภากาชาดไทยได้เตรียมโลหิต (เลือด) สำรอง เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนอกจากการใช้อีก 400 ยูนิต ส่วนโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้เบิกเลือดไปเก็บสำรองไว้ก่อนหน้านี้แล้วตามขนาดของโรงพยาบาล นอกจากนี้ทางสภากาชาดไทยเกรงว่า หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจนมีความต้องการใช้เลือดจะมีผู้คนเดินทางมาเพื่อบริจาคเลือดเป็นจำนวนมาก จึงได้เตรียมบุคลากรเป็นการภายในเพื่อรองรับการเข้ามาบริจาคเลือดไว้ด้วย การเตรียมพร้อมน่าจะทำให้วางใจได้ระดับหนึ่ง ขณะนี้ทางแพทย์ยังใช้แผนเอราวัณ 1-2

 

*ตู่ปูดระวังบึ้ม-รัฐประหาร

 

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวแกนนำเสื้อแดง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อ แดง ยืนยันว่าในวันที่ 26 ก.พ.กลุ่ม นปช.จะ ไม่เดินทางไปชุมนุมที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะเกรงว่าจะถูกนำไปโยงจนมีการสร้างสถานการณ์ตามที่รัฐบาลพยายามประโคมข่าว และตนได้รับรายงานจากการข่าวว่าจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดในช่วง 1-2 วันนี้เพื่อจะเชื่อมโยงไปถึงการตัดสินคดียึดทรัพย์ และโยงถึงการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะมีการนำกองกำลังทหาร 53 กองร้อยเข้ามาจุดนี้สามารถพลิกให้เป็นการปฏิวัติได้ทันที จึงได้สั่งการให้ทุกกลุ่มระมัดระวังแล้วหากเกิดอะไรขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ

 

* ตัดแดงสยามไม่เกี่ยวนปช.

 

นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่ม แดงสยาม จะนัดชุมนุมที่สนามหลวง ไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. ใครทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบเอง และขอปฏิเสธว่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ไม่ใช่การ์ดของ นปช.เพราะ นปช.มีกา์ดของตัวเองอยู่แล้ว ขณะนี้รัฐบาลได้วางแผนใช้ช่อง 11 ประโคมข่าวบิดเบือนคดียึดทรัพย์เหมือนกับรู้ผลการตัดสินล่วงหน้าเป็นการวางแผนสะสมอารมณ์ประชาชน แต่ตนไม่สนใจเพราะในวันที่ 14 มี.ค.จะเป็นเวลาของพวกตน ซึ่งอาจจะพูดไม่ได้ว่าจะมีการปิดเกมรัฐบาลในวันดังกล่าว ซึ่งจะมีการดาวกระจายในลักษณะที่ไม่เหมือนที่ผ่านมา โดยแต่ละจุดที่จะไปจะมีผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 3-5 หมื่นคนไปเฉพาะสถานที่สำคัญ

 

* จับตานอมินีรับค่าสินบน

 

แกนนำ นปช. กล่าวต่อด้วยว่า อยากให้ประชาชนติดตามดูด้วยว่าหลังจากการตัดสินคดียึดทรัพย์แล้ว จะได้เห็น นอมินี ที่จะออกมารับเงินสินบน 25 เปอร์ เซ็นต์ เพราะ คตส. ร่างระเบียบไว้ว่าจะต้องรับสินบนภายใน 1 เดือนหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาซึ่งไม่ได้เป็นความลับ เราจะได้กระชากหน้ากากคนพวกนี้ และทรัพย์ที่ได้จะถือเป็นทรัพย์ที่ร้อนใครเอาไปจะเผาไหม้ตัวเอง เพราะเป็นการปล้นกลางแดด โดยขอตั้งชื่อภาพยนตร์ว่า 26 ก.พ.ปิดกรุงเทพฯ ปล้น ส่วนที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตือนว่าพวกตนจะเป็น 3 คุก นั้น ตนว่าที่หนักกว่า 3 คุกน่าจะเป็น 3 ตุ๊ด มากกว่าเพราะทำให้ประเทศมีปัญหา

 

* ทักษิณเปิดใจหลังตัดสิน

 

ที่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์ วอยซ์ ทีวี ซึ่งมีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้บริหารนั้น มีรายงานว่าจะเกาะติดบรรยากาศจากดูไบ พร้อม ถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ www.voicetv.co.th ตั้งแต่เวลา 09.00 น. (26 ก.พ.) เป็นต้นไป โดยมี น.ส.ตวงพร อัศววิไล อดีตผู้ประกาศชื่อดังจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เป็นผู้ดำเนินรายการ ทั้งนี้นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ในเวลา 20.30 น. ของวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งคาดว่าจะมีคำตัดสินเสร็จสิ้นแล้ว พ.ต.ท. ทักษิณ จะเปิดใจผ่านรายการวิทยุ ทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิลด์ ถึงผลการตัดสินคดี ส่วนแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรนั้น คาดว่าจะมีการเผยแพร่ในวันที่ 27 ก.พ.นี้

 

* บิ๊กจิ๋วนำทีมลุ้นฟังที่พรรค

 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงถึงความเคลื่อนไหวของพรรคใน วันที่ 26 ก.พ.ว่า พรรคเพื่อไทยได้นัดหมายให้ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค ไม่ว่าจะเป็นพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ รวมถึงอดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน มารวมตัวกันที่พรรคเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้กำลัง ใจพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว โดยได้นัดหมายกันตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึงการอ่านความพิพากษาเสร็จสิ้น

 

* คนรักเชียงใหม่จัดบวงสรวง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลส อ.เมือง จ.เชียง ใหม่ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วยอาจารย์เทพธีรกรณ์ พรเรืองรอง ผู้เชี่ยวชาญทางพิธีกรรมล้านนา ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่กว่า 500 คนร่วมประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดิน ตามแบบพิธีกรรมล้านนา เพื่อให้ปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้รอดพ้นจากคดียึดทรัพย์ นายเพชรวรรต กล่าวว่า ในวันการพิจารณาตัดสินเราจะไม่มีการเคลื่อน ไหวใด ๆ จะรอฟังผลการตัดสินแบบสงบ จากนั้นค่อยดูท่าทีว่าผลออกมาอย่างไร และค่อยประสานแกนนำจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป

 

* ตีนตบตามจองเวรนายกฯ

 

ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาร่วมงาน 80 ปีวันวิทยุกระจายเสียงไทย กล่าวปาฐกถาเรื่อง บทบาทสื่อวิทยุในทศวรรษใหม่ โดยที่บริเวณด้านหน้าสถานีได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 20 คนได้ มาชุมนุมถือตีนตบตะโกนโห่ไล่นายกฯ และเมื่อนายกฯปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้วรีบเดินทางออกจากด้านหน้าสถานี ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ไล่ของกลุ่มเสื้อแดงที่มา ดักรออยู่ แต่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เนื่องจากมีตำรวจคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

 

* เสธ.แดงเตือนระวังมือที่ 3

 

ด้านพล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะสร้างความรุนแรงในวันที่ 26 ก.พ.นี้ว่า เป็นการวิเคราะห์ที่ผิดหมด ตนรู้เรื่องนี้ดี เพราะเพิ่งกลับจากการเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา จากที่ตนได้ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอฟันธงว่าท่านไม่เคยพูดกับตนสักคำว่า ให้ใช้กำลัง พูดอยู่คำเดียวว่า ต้องขอความยุติธรรมจากศาลโลก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ท่านจึงไม่เคยคิดที่จะใช้กำลัง ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยืนยันได้เลยว่า ไม่ใช่ฝีมือของคนเสื้อแดง แต่เป็นฝีมือของมือที่สาม หรือรัฐบาลทำเอง เพื่ออ้างความชอบธรรม

 

* ตร.ผวายิงเอ็ม79ป่วนเมือง

 

ช่วงค่ำวันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้ง ว่า ทางสันติบาลได้จัดตำรวจนอกเครื่องแบบเดินตรวจในรัศมี 300-400 เมตร รอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันคนร้ายหรือผู้ไม่หวังดียิงอาวุธวิถีโค้งเข้ามาในสำนักงานตำรวจฯเพื่อหวังสร้างสถานการณ์ก่อนการอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ ด้านพล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจได้ร้องขอกำลังสารวัตรทหารจาก 3 เหล่าทัพ จำนวน 100-200 นายเพื่อมาช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน 5 จุดสำคัญ คือ ศาลฎีกา รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล สวนจิตรลดา และบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยจะมีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยไปจนถึงช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้

 

ขณะที่นายพงษ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. ได้สั่งปิดโรงเรียน 4 แห่งได้แก่ รร.วัดพระเชตุพน รร.วัดมหาธาตุ รร.วัดมหรรณพ และรร.วัดราชนัดดา เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและครูอาจารย์ เนื่องจากอยู่ใกล้กับสำนักงานศาลฎีกาฯ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook