ผู้การแต้ม เผย ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ได้จังหวะพอดี ทำเสียคะแนนเก้าอี้ ผบ.ตร. พอสมควร
ผู้การแต้ม เผย ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ได้จังหวะพอดี ทำเสียคะแนนเก้าอี้ ผบ.ตร. เผยศาลต้องมีหลักฐานพอสมควรถึงได้ออกหมายจับหรือค้น
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกรณีตำรวจนำหมายศาลค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และออกหมายจับตำรวจ 8 นาย เมื่อวานที่ผ่านมา (25ก.ย.) ว่าตามหลักการที่ตำรวจจะไปขอออกหมายค้น หมายจับ ศาลจะต้องเป็นผู้ออกหมาย ดังนั้นต้องมีหลักฐานพอสมควรที่ศาลพอจะเชื่อได้ว่าผู้นั้นกระทำความผิด อย่างน้อย 70% หรือ 80% ศาลจึงได้ออกหมายจับหรือค้นเข้ามา เวลาเกิดปัญหาเขาก็ต้องไปทำการตรวจค้นตามกฎหมาย
แต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมระดับ รอง ผบ.ตร.ก็ถูกตรวจค้น ก็ต้องไปดูว่าสำนวนนั้นมันเกี่ยวข้องกับ รอง ผบ.ตร.อย่างไร เพราะหากไม่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถจะไปขออำนาจตรวจค้น รอง ผบ.ตร.ได้ เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอน และในกรณีดังกล่าวก็ทำถูกต้องตามขั้นตอน
ส่วนเรื่องความขัดแย้งกันในแวดวงของตำรวจนั้น มองว่าหากมีสาเหตุมาจากการทำงานโดยมิชอบ มันก็อาจมีสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งกันได้ แต่ถ้าพูดถึงงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีการรวบรวมหลักฐานที่ต้องใช้เวลานานพอสมควร และมาออกในจังหวะเวลานี่พอดี ก็อาจส่งผลให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เสียโอกาสในการเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ไปพอสมควร
ส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้นก็ยังเป็นไปเหมือนเดิม เพราะยังไม่มีการออกคำสั่งใดๆ ออกมา
สำหรับความสัมพันธ์ในเรื่องของการเมืองและตำรวจ หรือตำแหน่ง ผบ.ตร. นั้นมีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว เพราะนายกฯ เป็นคนเลือก ผบ.ตร. ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม การเมืองกับตำรวจก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกันอยู่ดี