สรุปประเด็นค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” เกี่ยวเว็บพนันหรือเตะตัดขากันก่อนเลือก ผบ.ตร.

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

กลายเป็นข่าวร้อนเริ่มต้นสัปดาห์กันเลยทีเดียว หลังตำรวจไซเบอร์บุกไปถึงบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมหมายค้นและหมายจับ เพื่อขอตรวจค้นปละจับกุมผู้ต้องหา หลังตรวจพบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คนไทยจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะบิ๊กโจ๊กถือเป็นนายตำรวจฝีมือดีที่กำลังมีผลงานโดดเด่น และมีรายชื่อเป็น 1 ใน 4 ตัวเต็งชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่จะพิจารณาแต่งตั้ง ในวันที่ 27 กันยายน 2566 นี้ จนหลายคนก็อดตั้งคำถามไม่ได้ ว่าการบุกบ้านบิ๊กโจ๊กรอบนี้ เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน หรือเป็นการเตะตัดขากันในวงการสีกากีกันแน่

Sanook สรุปเหตุการณ์บุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊กที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดียไทยอยู่ในตอนนี้

ตำรวจบุกค้นบ้านตำรวจ

ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 กันยายน 2566) ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (สอท.) พร้อมชุดคอมมานโด ได้นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าไปตรวจสอบบ้านของบิ๊กโจ๊กและบ้านที่ซื้อไว้ให้ลูกน้องพัก รวมทั้งหมด 5 หลัง หลังตรวจสอบพบว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์

บิ๊กโจ๊กได้ออกมาหน้าบ้านในสภาพชุดนอน เสื้อสีขาว กางเกางขาสั้น ถุงเท้าสีขาว และแสดงท่าทีไม่พอใจ ตอนแรกปฏิเสธไม่ยอมให้ค้นบ้าน พร้อมตำหนิชุดพนักงานสอบสวน ก่อนร้องขอให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมตรวจค้นด้วยตัวเอง กระทั่ง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา (บิ๊กเจี๊ยบ) ผู้บัญชาการ สอท. ได้เดินทางมาถึงหน้าบ้านของบิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กจึงยอมให้กำลังตำรวจตรวจค้นบ้านพัก โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย

จับลูกน้องบิ๊กโจ๊ก

การบุกตรวจค้นบ้านของบิ๊กโจ๊กในครั้งนี้ มีการออกหมายจับตำรวจ 8 นาย ทั้งสัญญาบัตรและชั้นประทวน ซึ่งทั้งหมดอยู่ใต้บังคับบัญชาของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ และการฟอกเงิน เนื่องจากพบเส้นทางการเงินจำนวนหลายล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีของคนกลุ่มนี้

นี่ถือเป็นหนึ่งในภารกิจของชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่ขยายผลจากการจับกุม “มินนี่” เจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ และทำการปูพรมตรวจค้นและปิดล้อม 30 จุดในทั้งหมด 6 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อนจะออกหมายจับพบเรือน 15 ราย และนายตำรวจ 8 รายที่เป็นลูกน้องของบิ๊กโจ๊กนั่นเอง

บิ๊กโจ๊กยืนยันไม่เกี่ยวข้อง

แม้ตำรวจลูกน้องที่ใกล้ชิดจะถูกออกหมายจับ แต่จับบิ๊กโจ๊กไม่ถูกออกหมายจับแต่อย่างใด หลังจากพาตำรวจตรวจค้นบ้านเป็นที่เรียบร้อย และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย บิ๊กโจ๊กก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวชนบริเวณหน้าบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนัน แต่ถ้าหมายจับเป็นชื่อของลูกน้อง ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายและให้ลูกน้องไปชี้แจง ในส่วนของเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บิ๊กโจ๊กชี้แจงว่าเกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องการปราบปรามอย่างเดียว

AFP

เมื่อผู้สื่อข่าวถามบิ๊กโจ๊กว่ามีความหนักใจหรือไม่ เพราะอยู่ในช่วงของการแต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อจาก พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แต่กลับโดนบุกตรวจค้นบ้านในช่วงนี้ บิ๊กโจ๊กก็ระบุว่าไม่หนักใจ และไม่ได้มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นการสกัดกั้น แต่เป็นเรื่องการทำหน้าที่ของ สอท. ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่าในหมายค้นไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นบ้านของบิ๊กโจ๊ก จึงไม่รู้ว่าบิ๊กโจ๊กอาศัยอยู่ภายในบ้าน ส่วนรายละเอียด ทาง สอท. เป็นแค่หน่วยร่วม แต่ไม่ทราบรายละเอียดในการสืบสวนคดีนี้

ดิสเครดิตบิ๊กโจ๊ก

หลังจากนั้น บิ๊กโจ๊กก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งที่สโมสรตำรวจ ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำเกินกว่าเหตุและตัวเองไม่มีคดี แค่ต้องการทำให้เสียชื่อเสียง หรือการไปขอหมายศาลที่ไม่ได้บอกว่าเป็นบ้านของบิ๊กโจ๊กก็เป็นสิ่งที่ผิดปกติแล้ว พร้อมชี้ว่าทั้งหมดเป็น “เรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เป็นการดิสเครดิตและทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง

“เรื่องนี้เป็นการชกใต้เข็มขัด เป็นการดิสเครดิตผมอย่างเห็นได้ชัด มันมีหลายคดีที่งวดแล้ว แต่ไม่อยากกล่าวถึงใคร ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ใครทำผิดว่ากันไปตามกฎหมาย ใครละเมิดอำนาจศาลต้องดำเนินคดี” บิ๊กโจ๊กกล่าว

บิ๊กโจ๊กยืนยันว่ายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และมีการดำเนินคดีกลับทนายความดังที่กล่าวหาว่าบิ๊กโจ๊กมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งนี้ หลายฝ่ายก็มองว่าบิ๊กโจ๊กได้รับมอบหมายให้ทำคดีใหญ่หลายคดี โดยเฉพาะคดี “กำนันนก” ที่ไปเกี่ยวข้องกับนายตำรวจใหญ่หลายนายและหลายฝ่าย จึงเกิดความไม่พอใจกันเองในวงการสีกากี และนำไปสู่การบุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊กนั่นเอง