บิ๊กโจ๊ก ก่อนโดนค้นบ้าน เพิ่งไปวัดดังอุดรฯ เผยเหตุสนิท "เฮียแต๋ม" มิตรแท้ยามยาก
บิ๊กโจ๊ก ก่อนโดนค้นบ้าน เพิ่งพาภรรยา พร้อมตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไปไหว้พระวัดดังอุดรฯ เผยเหตุสนิท "เฮียแต๋ม" มิตรแท้ยามยาก
กรณีตำรวจไซเบอร์นำหมายค้นเข้าค้นบ้านพัก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. หลังสโมสรตำรวจ เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายน 2566 เนื่องจากตำรวจ 8 นาย ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทพัวพันแก๊งพนันออนไลน์ และถูกจับกุมเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบบ้านพักทั้ง 5 หลัง ที่บิ๊กโจ๊กและลูกน้องเข้าพักอาศัยเป็นชื่อ เฮียแต๋ม อายุ 63 ปี และภรรยา นักธุรกิจเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี มี 17 สาขา ในภาคอีสานและภาคกลาง
วันที่ 26 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลมาว่า ก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก จะโดนตำรวจไซเบอร์บุกค้นบ้านในวันที่ 25 กันยายน 2566 เพียงวันเดียว ก่อนหน้านั้น วันที่ 24 กันยายน 2566 บิ๊กโจ๊ก และ ดร.ศิรินัดดา หักพาล ภรรยา เดินทางมา จ.อุดรธานี เป็นการส่วนตัว และได้เดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อนาค พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่หน้าอุโบสถ วัดมีชื่อแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุดรธานี
ในภาพวงจรปิดหน้าอุโบสถ พบบิ๊กโจ๊กและคณะ ประกอบด้วย ดร.ศิรินัดดา หักพาล ภรรยาบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.บุญลือ กอบางยาง อดีต รอง ผบช.ภ.4 และภรรยา พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์พิสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล นายเวรบิ๊กโจ๊ก โดยทุกคนสวมชุดไปรเวท เดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อนาค ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน สอบเข้ารับราชการ ค้าขาย เสร็จแล้วเข้าไปกราบสักการะพระพุทธนรสีห์มหามุนี พระประธานในอุโบสถ
พระประดิษฐ์ พระลูกวัด ผู้มาเปิดประตูอุโบสถให้บิ๊กโจ๊กและคณะเข้ากราบสักการะหลวงพ่อนาคและพระพุทธนรสีห์มหามุนี เล่าว่า วัดได้รับการประสานจากตำรวจอุดรธานี ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะเดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อนาค และพระประธานในอุโบสถ ตนจึงได้รับมอบหมายให้เดินมาดูแลความเรียบร้อยในอุโบสถ เมื่อถึงเวลาก็พบรถตำรวจขับนำรถตู้มาจอดในวัด บิ๊กโจ๊กและคณะเดินขึ้นมาบนอุโบสถ ส่วนตนได้ต้อนรับ บิ๊กโจ๊กได้สักการะหลวงพ่อนาค เสร็จแล้วก็ไปสักการะพระประธานในโบสถ์ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าบิ๊กโจ๊กอธิษฐานอะไร เพราะอธิษฐานในใจ และเห็นบิ๊กโจ๊กมาวัดนี้เป็นครั้งแรก เมื่อกราบสักการะเสร็จคณะของบิ๊กโจ๊กก็เดินทางกลับ
ส่วนเฮียแต๋ม อายุ 63 ปี ที่มีกระแสข่าวมีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน 5 หลัง ที่บิ๊กโจ๊กอาศัยอยู่นั้น เฮียแต๋มเป็นนักธุรกิจ มีบริษัทขนส่งใน จ.อุดรธานี มี 17 สาขา หลายจังหวัดในภาคอีสาน และภาคกลาง เฮียแต๋มจะรู้จักและคุ้นเคยกับตำรวจใหญ่ในตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ทั้งระดับใหญ่และเล็ก เพราะเป็นคนมีนิสัยไม่ถือตัว โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นคนที่เปิดเผยตัวหรือออกสื่อ และจะรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มานานมากแล้ว ถึงขั้นสนิทสนมรักใคร่กันเหมือนญาติ เพราะในช่วงที่บิ๊กโจ๊ก เจอมรสุมชีวิต มีคำสั่งให้ไปประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงดังกล่าวมีหลายคนบอกว่าเป็นขาลงของบิ๊กโจ๊ก เพื่อนที่คบหาและลูกน้องบางคนก็หายหน้าไป แต่มีตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และเฮียแต๋มยังคงคบหากับบิ๊กโจ๊กเหมือนเดิม
เห็นได้จากหลายครั้งที่บิ๊กโจ๊กมักจะเดินทางมาหาเฮียแต๋มที่ จ.อุดรธานี เฮียแต๋มยังดูแลบิ๊กโจ๊กเหมือนเดิม พาไปวัดเพื่อทำบุญ พาไปบวชปฏิบัติธรรมในวัดป่า ในยามที่บิ๊กโจ๊กยากลำบาก เฮียแต๋มก็ยังปฏิบัติตัวคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการพิสูจน์จิตใจของเฮียแต๋มที่มีต่อบิ๊กโจ๊ก และเมื่อฟ้าหลังฝนผ่านไป บิ๊กโจ๊กได้กลับมา สตช. ได้เป็น ผช.ผบ.ตร. และเลื่อนเป็น รอง ผบ.ตร. ก็ไม่เคยลืมเฮียแต๋ม เมื่อบิ๊กโจ๊กมีโอกาสเดินทางมาราชการที่ จ.อุดรธานี ก็มักจะนัดพบกับเฮียแต๋มประจำ จึงไม่แปลกใจเลยที่บิ๊กโจ๊กและลูกน้องจะพักอยู่บ้านเฮียแต๋มที่กรุงเทพฯ เพราะเฮียแต๋มและบิ๊กโจ๊กรักกันเหมือนญาติพี่น้อง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริษัทขนส่งของเฮียแต๋ม ตั้งอยู่ริมถนนอุดรธานี-สามพร้าว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี พบด้านหน้าสำนักงานและโกดังขนาดใหญ่ มีรถบรรทุกส่งสินค้าจอดอยู่ในโกดังจำนวนมาก ซึ่งบริษัทขนส่งของเฮียแต๋มมีทั้งหมด 17 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ภาคอีสานและภาคกลาง ส่วนด้านหลังเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ซึ่งพนักงานยังมาทำงานตามปกติ แต่ไม่พบเฮียแต๋ม ทราบแต่เพียงว่า เฮียแต๋ม กับภรรยาอยู่ที่บริษัทโชว์รูมรถแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งเฮียแต๋มทำธุรกิจขนส่งสืบต่อจากพ่อและแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เป็นธุรกิจสีขาว ไม่ยุ่งกับธุรกิจสีเทา เฮียแต๋มเป็นคนมีน้ำใจโอบอ้อมอารี สามารถตรวจสอบได้