เงินบาทขยับแข็งค่าก่อนอ่อนแรงลงท้ายสัปดาห์
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดเงินที่ยังมีอยู่มาก ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ ปักษ์ใหม่ในวันพุธ รวมทั้งมีการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วง สิ้นเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) ยังคงหนาแน่นทั้งสัปดาห์ที่ร้อยละ 1.15 ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตร แบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะ 1, 7 และ 14 วัน ปรับตัวใกล้ระดับร้อยละ 1.25 อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เงินบาทในประเทศ (Onshore) ขยับแข็งค่าก่อนอ่อนแรงลงท้ายสัปดาห์ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ แม้นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐ มีทิศทางอ่อนค่าลง หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านได้ออกมากล่าวย้ำถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำของ สหรัฐอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ที่รายงานในระหว่างสัปดาห์ ก็ออกมาอ่อนแอกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม เงินบาทกลับมาปรับตัวในกรอบแคบๆ ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค หลังจากที่ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการคลังของกรีซ ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินเอเชียโดยรวม สำหรับในวันศุกร์ เงินบาททรงตัวที่ระดับประมาณ 33.06 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 33.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และที่สำคัญนักลงทุนจับตาปัจจัยการเมืองในคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าตั้งแต่วันที่ 1-5 มี.ค.53 คงจะมีการทยอยไหลกลับของสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินหลังผ่านสิ้นเดือน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับร้อยละ1.25 ภายใต้ภาวะสภาพคล่องในตลาดเงินที่น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก น่าจะทำให้ค่าเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ประเด็นทางการเมืองในประเทศ อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของ ธปท. และทิศทางของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐอาจขึ้นอยู่กับประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตการคลัง ของกรีซ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย