แม่เลือดเย็น ใช้น้ำทรมานลูก 1 ขวบ ไม่หนำใจจับยัดช่องฟรีซ เพื่อ "ทดสอบ" ปฏิกิริยาผัว

แม่เลือดเย็น ใช้น้ำทรมานลูก 1 ขวบ ไม่หนำใจจับยัดช่องฟรีซ เพื่อ "ทดสอบ" ปฏิกิริยาผัว

แม่เลือดเย็น ใช้น้ำทรมานลูก 1 ขวบ ไม่หนำใจจับยัดช่องฟรีซ เพื่อ "ทดสอบ" ปฏิกิริยาผัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ใช้วิธี "วอเตอร์บอร์ดดิ้ง" ทรมานลูกน้อย ก่อนยัดใส่ช่องฟรีซ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผัว หมอดูคลิปแล้วบอกอันตรายถึงชีวิต

หญิงชาวโอเรกอน วัย 30 ปี ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 วัน ฐานทารุณกรรมลูกชายวัย 1 ขวบ ราดน้ำใส่จนเกือบหายใจไม่ออก ก่อนจับยัดไว้ในช่องแช่แข็ง ทำการ “ทดสอบ” ที่โหดร้าย เพื่อเรียกร้องความสนใจ ว่าสามีจะใส่ใจหรือไม่....

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า พบเหตุการณ์ทารกถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย ระหว่างการออกตรวจสวัสดิการ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2565 หลังจากได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีทารกถูกแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง เมื่อไปถึงอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า “ฉันกำลังจะแสดงให้คุณเห็นเดี๋ยวนี้เลย คุณไม่ต้องการเขาเหรอ? ให้ฉันทำให้คุณดู เกี่ยวกับเจ้าเด็ก f-king ตัวน้อยนี้ ฉันไม่ได้สนใจ f-k เลย”

และตามหลักฐานจากวิดีโอคอลที่พ่อของเด็กชายบันทึกไว้ แสดงภาพเหตุการณ์ขณะที่ผู้เป็นแม่กอดรัดลูกชายของตัวเองไว้ พร้อมๆ กับทำ "วอเตอร์บอร์ดดิ้ง" เทน้ำราดรดบนศีรษะและใบหน้าของเขา ส่วนเด็กก็พยายามกลั้นหายใจเมื่อน้ำไหลลงมาตามจมูกและใบหน้า

วอเตอร์บอร์ดดิ้ง (waterboarding) หรือเรียกกว่าว่า "การจมน้ำบก" วิธีทรมานแบบสำลักน้ำ โดยจับเหยื่อมัดไว้แล้วปล่อยให้น้ำตกกระทบใส่ใบหน้า ทำให้ขาดอากาศหายใจ และตกอยู่ในภาวะใกล้ขาดออกซิเจน เป็นวิธีที่ถูกนำมาใช้ทรมานนักโทษเพื่อสอบสวนให้ยอมพูดความจริง

อัยการยังได้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปให้กุมารแพทย์พิจารณา ก่อนได้รับคำยืนยันว่าเด็กอยู่ในสภาวะที่หายใจลำบาก และจะไม่สามารถหายใจได้หากมีน้ำไหลเข้าจมูก และเสริมว่าการกระทำนี้อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง ถือเป็นการคุกคามต่อชีวิตของเด็กชาย

อย่างไรก็ดี ทางด้านแม่ของเด็กชายอธิบายให้ตำรวจฟังว่า เธอไม่ได้พยายามทำร้าย หรือมีเจตนาจะฆ่าลูกชายของตัวเอง ด้วยการทำให้เขาจมหรือสำลักน้ำ หรือแม้กระทั่งวิธีการนำเขาไปแช่ในช่องแช่แข็ง แต่ยอมรับว่าเธอจงใจนำลูกไปแช่น้ำด้วยความเคียดแค้นต่อพ่อของเด็ก เธอเสียใจมาก และทำไปทั้งหมดก็เพื่อทดสอบพ่อของเด็กเท่านั้น เพราะคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้พ่อของเด็กกลับมาที่อพาร์ตเมนต์

สุดท้าย ในวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เธอถูกตั้งข้อหากระทำผิดทางอาญา 2 กระทง บวกกับการทำให้บุคคลอื่นตกอยู่ในอันตรายโดยประมาท นอกจากนี้ ยังถูกตั้งข้อหาขโมยข้อมูลส่วนตัว และฐานยุ่งเกี่ยวกับพยานในคดี ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 วัน และคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook