"วิโรจน์" แฉเดือด โกงสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน 220 ล้าน มีวิธีเลือกเหยื่อสุดอำมหิต

"วิโรจน์" แฉเดือด โกงสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน 220 ล้าน มีวิธีเลือกเหยื่อสุดอำมหิต

"วิโรจน์" แฉเดือด โกงสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน 220 ล้าน มีวิธีเลือกเหยื่อสุดอำมหิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก้าวไกลเปิดอีก! "วิโรจน์" แฉปัญหาสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน ตำรวจผู้น้อย 423 นาย ถูกสวมสิทธิ์และปลอมแปลงเอกสาร ฝาก ผบ.ตร.คนใหม่ แก้ปัญหาอย่างจริงจัง

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวถึงปัญหาของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จ.ลำพูน นายตำรวจชั้นผู้น้อย ชั้นประทวน กว่า 423 ราย ได้รับความเสียหายรวมกันกว่า 220 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น

โดย สส.ลำพูน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายตำรวจสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งได้กู้หนี้ 4 แสนบาท ทว่ามูลค่าหนี้กลับเพิ่มขึ้นเป็นล้านบาท จากคนไม่เคยกู้ ก็กลายเป็นผู้กู้ และหลายคนอยู่ในช่วงใกล้เกษียณราชการ ทำให้ขวัญกำลังใจหดหาย ทั้งนี้ หวังว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่จะช่วยคลี่คลายปัญหา

ด้านนายวิโรจน์ ยังเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้แจ้งความไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 2566 อีกทั้งคณะกรรมการสหกรณ์ก็เป็นนายตำรวจระดับสูง จึงไม่มั่นใจว่าผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ และต้องตกเป็นหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อหรือไม่

ขณะนายวิทวิสิทธิ์ กล่าวว่า นายตำรวจ 423 นาย ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ ถูกสวมสิทธิ์และปลอมแปลงเอกสาร โดยขีดฆ่ามูลหนี้เดิม เปลี่ยนยอดเงิน แล้วปลอมลายเซ็นต์ทับ ทำให้ยอดหนี้จาก 4 แสนบาทกลายเป็น 7.8 แสนบาท ทั้งที่เมื่อตรวจสอบเงินกู้จริงใน statement ก็มีแค่ 4 แสนบาท โดยได้แจ้งความไว้ตั้งแต่เดือน ก.พ. ผ่านมา 9 เดือน ยังไม่มีความก้าวหน้า และยังพบว่ากรรมการสหกรณ์ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของตัวเองอีก โดยจะดำเนินการแบ่งหลักฐานที่ได้รับมาเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งจะส่งประธานสภาฯ ให้ สตช. ติดตามเรื่องนี้ และอีกส่งให้ประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหวังจะคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย

ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ยังฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ให้เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา เพื่อเป็นการมอบของขวัญให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ คิดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์น่าจะรู้ผล

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เชื่อว่าเรื่องทุจริตดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นแค่ใน จ.ลำพูน เท่านั้น แต่ผู้ทุจริตอาจจะเชื่อมโยงกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้า ผบ.ตร. ใส่ใจกับเรื่องนี้จะได้ใจผู้ใต้บังคับบัญชนว่ามีความทุ่มเทแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมทั้งมองว่าจงใจเลือกเหยื่อ กำลังเกษียณ ถือว่ามีความอำมหิต เพราะผู้เสียหายอยู่ในวัยที่อาจไม่ถนัดในการใช้แอปฯ เพื่อตรวจสอบยอดหนี้ตัวเอง

ส่วนกรณีนี้เป็นเรื่องของตำรวจตัดตำรวจ ขอถาม ผบ.ตร. ว่า โกงแม้แต่เพื่อนตำรวจด้วยกัน แล้วประชาชนจะหวังพึ่งอะไรได้ พร้อมเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยมีการยึดทรัพย์เจ้าหน้าที่ซึ่งกระทำการทุจริตไปเพียง 16 ล้าน ทั้งที่มูลค่าความเสียหายมีกว่า 220 ล้านบาท ขอให้อย่ารอ สส.ก้าวไกล ผบ.ตร. สามารถตรวจสอบได้ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook