นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อ
นายกรัฐมนตรี เชื่อหลังศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ยังมีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ คตม.จะติดตามดูแลสถานการณ์ใกล้ชิด ส่วนการดำเนินการกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในขั้นต่อไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ไม่ปล่อยให้คดีหมดอายุความ ระบุรัฐบาลจะไม่ยุ่ง เกรงถูกครหากลั่นแกล้งทางการเมือง พร้อมเผย เตรียมนำเงินที่ถูกยึดเข้าคลังไปทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บันทึกเทปรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในสัปดาห์นี้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์และผู้สื่อข่าวหนังสือ พิมพ์ เป็นผู้สอบถาม ส่วนใหญ่สอบถามถึงการทำงานของรัฐบาลหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองมีคำตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีความยุ่งยากกว่าเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้ คงมีคนที่พอใจและไม่พอใจ แต่ทุกคนต้องยืนอยู่ในระบบของศาล เชื่อมั่นและยอมรับคำตัดสินของศาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่ายังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะดูแล โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) จะดูแลเรื่องนี้ สถานการณ์หลังจากนี้คงไม่ต่างอะไรจากเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) มากนัก ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงจะรุนแรงหรือเบา ขึ้นอยู่กับมวลชนว่า มาร่วมชุมนุมประท้วงมากน้อยเพียงใด คิดว่ามีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดว่าจะใช้ความรุนแรง ดังนั้น การทำความเข้าใจคำวินิจฉัยของศาลให้ประชาชนทราบ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และคำตัดสินดังกล่าวมีผลกระทบกับประเทศชาติอย่างไร ถ้าการวินิจฉัยเห็นว่าประเทศชาติได้รับความเสียหาย ก็ต้องไปดูว่าจะดำเนินการอย่างไร
"เชื่อว่าคนไทยยังต้องการเห็นความสงบของบ้านเมือง ซึ่งมีกระบวนการทางรัฐสภาและกระบวนการที่ถูกต้องเข้ามาตรวจสอบรัฐบาล เช่น ฝ่ายค้านสามารถตรวจสอบรัฐบาลในขั้นตอนของสภาฯ ได้ ระบบที่ถูกต้องจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศชาติ แม้ว่าจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหว แต่ถ้าชุมนุมอย่างสันติก็คงไม่เป็นไร ขณะนี้มีคนบางกลุ่มพูดถึงความรุนแรง รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะไปใช้ความรุนแรง โดยรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานต่อไป" นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่ เมื่อผลของคดียึดทรัพย์ระบุว่า มีการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการ ในส่วนของรัฐบาลจะขอความเห็นทางด้านกฎหมายจากอัยการ ส่วนการจะดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณและคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ทุกอย่างให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และตามสิทธิของแต่ละหน่วยงานที่พึงมี ซึ่งคำตัดสินเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) บอกชัดแล้วว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบ จึงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบการดำเนินการต่อไปได้ จึงต้องการให้หน่วยงานและอัยการเป็นผู้สรุปว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
"ถ้ารัฐบาลไปดำเนินการ จะทำให้ถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่ถ้าไม่มีหน่วยงานใดทำอะไรเลย ก็ต้องชี้แจงเหตุผลมา และผมจะเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละด้านที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบดูแล ไม่ปล่อยให้หมดอายุความ เช่น เรื่องการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เรื่องนี้ได้มอหมายให้กระทรวงไอซีทีไปดูก่อนหน้านี้แล้ว ขอให้มั่นใจว่าไม่มีเรื่องการละเว้นแน่นอน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า คำพิพากษาของศาลในคดียึดทรัพย์ไม่ส่งผลในเรื่องของการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเป็นเรื่องของทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทางดูไบจะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีหรือไม่นั้น ดูไบได้เคยบอกกับรัฐบาลไทยว่าไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปสร้างปัญหาทางการเมือง ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบในด้านนี้ก็ติดต่อดูไบเป็นระยะ และเมื่อมีความเคลื่อนไหวอะไรที่กระทบต่อการเมืองซึ่งเป็นผลมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็แจ้งไปทางดูไบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับคำตัดสิน เพราะอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และประชาชนส่วนหนึ่งเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเอาความรู้สึกตัวเองมาวัดไม่ได้ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เคยชนะมาหลายคดี ทั้งที่ยังมีข้อกังขาของประชาชน ดังนั้น ทุกคนควรเคารพคำตัดสินของศาลและกฎกติกาของสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่าศาลถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศาลไม่ใช่เครื่องมือของใคร ถ้าถูกใช้เป็นเครื่องมือมาทำลายล้างกัน ทำไมศาลไม่ยึดทรัพย์ทั้งหมด แต่ศาลได้แจกแจงรายละเอียดทุกขั้นตอน ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะไปยื่นศาลโลก เป็นสิทธิที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้ ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าถูกปล้นทรัพย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดแบบนี้มาหลายครั้ง รัฐบาลนี้ไม่ได้ไปปล้นทรัพย์ใคร และที่ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์นั้น เพราะเห็นว่ากระทำความผิดจริง จึงยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัฐบาลกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความเสียหายให้กับแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินคงคลัง รัฐบาลจะนำเงินดังกล่าวไปใช้อะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ารายได้เกินเป้า เราจะลดการกู้เงินที่เคยวางแผนไว้
"เมื่อมีเงินเก็บได้เกินเป้า เราก็จะใช้เงินตัวนั้นในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้กับประชาชนโดยไม่ต้อง ใช้เงินกู้ เราก็จะทำโครงการที่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะนี้เราอยู่ในช่วงทบทวนเรื่องการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะปกติ เดินหน้าแก้ไขปัญหาต่อไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว