เอแบคโพลล์ชี้ปชช.อยากให้ ทักษิณ ยอมรับคำพิพากษาคดียึดทรัพย์
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย "เอแบคเรียลไทม์โพลล์" เรื่อง ความหวัง กับ ความกลัวของสาธารณชนคนไทย ภายหลังคดียึดทรัพย์ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กรณีศึกษาประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 จำนวน 1,308 ครัวเรือน พบว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่ง หรือ ร้อยละ 56.7 มองว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ควรยอมรับผลการพิพากษา เพราะการตัดสินของศาลถือว่าถูกต้อง และยุติธรรมแล้ว คำพิพากษาชัดเจนทุกกรณีทำให้ภาพลักษณ์ดีขึ้น เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง และไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอีกต่อไป ขณะที่ ร้อยละ 32.6 มองว่า ควรยื่นอุทธรณ์ เพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ถ้าคิดว่าไม่ผิดจริงควรยื่นอุทธรณ์ และอยากให้ต่อสู้ต่อไป
เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ควรเร่งรณรงค์ให้คนไทยทำ ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ พบว่า ร้อยละ 94.0 อยากให้คนไทยรักและให้อภัยต่อกัน ร้อยละ 92.0 ให้คนไทยมีน้ำใจเกื้อกูลต่อกัน ร้อยละ 89.4 ช่วยกันดูแลพัฒนาชุมชนของตนเอง ร้อยละ 88.8 รณรงค์ให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ร้อยละ 86.9 รณรงค์ให้เจ้าหน้าที่รัฐมีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนเกินครึ่ง หรือ ร้อยละ 51.7 ยังคงมีความกลัว และกังวลต่อเหตุการณ์วุ่นวาย ที่จะเกิดขึ้นอีกในสังคมไทย ขณะที่ร้อยละ 48.3 เลือกที่จะมีความหวังก้าวต่อไปข้างหน้าในชีวิต