สุเทพ ชี้กลุ่มก่อวุ่นวายเดินเกมทั้งใต้ดินบนดิน

สุเทพ ชี้กลุ่มก่อวุ่นวายเดินเกมทั้งใต้ดินบนดิน

สุเทพ ชี้กลุ่มก่อวุ่นวายเดินเกมทั้งใต้ดินบนดิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สุเทพ" สั่งเพิ่มกำลังทหาร-ตำรวจตั้งจุดตรวจ-สายตรวจลาดตระเวนทั้งรถจักรยานยนต์ เดินเท้า สั่ง ผบ.ชน.ถ้ากำลังไม่พอให้ประสานขอทหารเพิ่มทันที ยืนยันกฎหมายปกติยังดูแลสถานการณ์ได้ ไม่ฟันธงฝีมือใครหรือมือที่สาม แต่เชื่อเป็นกลุ่มเดียวกันที่เดินเกมทั้งใต้ดิน บนดิน และทำเงินไปพร้อมกัน คาดสถานการณ์จะรุนแรงกว่า เม.ย.52 วอนประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยยอมรับว่า คิดเกรงอยู่เช่นกันว่า เมื่อผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ออกมาแล้ว จะมีการกระทำที่กระทบต่อความสงบสุขของบ้านเมือง จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย แม้เจ้าหน้าที่จะระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้ว จึงให้ตำรวจขอกำลังเสริมจากกองทัพ โดยตั้งจุดตรวจและสายตรวจตามจุดต่าง ๆ แต่ก็ยังเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ได้สั่งการให้เพิ่มจุดตรวจ ชุดลาดตระเวนสายตรวจทั้งรถจักรยานยนต์และเดินเท้ารวมทั้งการหาข่าวด้วย

"ขอกราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยกรุณาช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย ลำพังเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เตรียมการไว้อาจจะไม่เพียงพอ บ้านเมืองกว้างใหญ่ เรารักษาจุดที่สำคัญ คนก่อเหตุก็อาจจะไปก่อเหตุในจุดที่หลงหูหลงตาเจ้าหน้าที่ แต่ถ้าประชาชนช่วยกันให้ข้อมูล หรือเห็นอะไรผิดสังเกต ให้รีบแจ้งเบาะแส ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็วขึ้น และผมอยากจะวิงวอนไปยังผู้ที่กระทำการว่าไม่ควรจะทำ โดยเฉพาะในช่วงวันมาฆบูชา มันไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคนเราจะต่อสู้กันเพื่อเพียงเอาแพ้เอาชนะ และทำให้บ้านเมืองยับเยินเสียหาย มีวิธีการต่อสู้ที่ดีกว่านี้อีกหลายวิธี หากทำอะไรที่รุนแรงเช่นนี้ ผมคิดว่าไม่ได้ผลหรอกครับ นอกจากจะทำให้บ้านเมืองเสียหายแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ ยอมรับไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของใคร แต่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด และขณะนี้มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ ส่วนกรณีที่ระเบิดไม่ทำงานก็อาจจะได้ลายนิ้วมือแฝง ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการแกะรอยอยู่ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด และเมื่อถามว่า การที่ผู้กระทำการมุ่งสร้างความเสียหายไปที่ธนาคารกรุงเทพ เพื่อเชื่อมโยงไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษหรือไม่ นายสุเทพ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เพราะไม่อยู่ในฐานะที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใครได้ ทำได้เพียงแต่ระมัดระวังและดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยมากที่สุด แต่ขอให้ประชาชนไล่เรียงลำดับเหตุการณ์เอาเอง เพื่อมองว่าคนทำมุ่งประสงค์อะไร

เมื่อถามย้ำว่า ให้น้ำหนักไปที่กลุ่มมือที่สามหรือเฉพาะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมือที่สาม สี่ ห้า ก็เป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่เคยถูกขึ้นบัญชีดำไว้ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องไปดำเนินการ และว่า "เฉพาะบางคนเราเห็นแล้วว่ามีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจ เราก็พยายามติดตามตรวจสอบ ซึ่งก็มีไม่กี่คน แทบจะนับชื่อเรียงตัวกันได้ และเป็นข่าวอยู่ทุกวัน โดยพวกนี้จะดำเนินการทั้งบนดินและใต้ดิน และทำเงินไปพร้อมๆ กัน" นายสุเทพกล่าว

ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงและนักวิชาการระบุว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์นี้เอง เพื่อใช้กฎหมายพิเศษดำเนินการกับผู้ชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรที่เสียหายกับบ้านเมืองแน่นอน สามัญชนสามารถใช้วิจารณญาณไตร่ตรองได้ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แล้วจะสร้างสถานการณ์ให้เกิดปัญหาขึ้นทำไม ที่กล่าวว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์เพื่อถือเป็นเหตุประกาศกฎหมายควบคุมกลุ่ม ผู้ชุมนุม ขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะเคยกล่าวไว้แล้วว่า หากการชุมนุมไม่ฝ่าฝืนกฎหมายก็จะไม่ระงับยับยั้ง เพราะถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าทำเรื่องผิดกฎหมายก่อกวนความสงบสุขบ้านเมือง สร้างความเดือดร้อนก็ต้องแก้ไข และหากอยู่ในวิสัยที่สามารถใช้กฎหมายธรรมดาก็ควรใช้ เว้นแต่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่พัทยาและเหตุการณ์ เดือนเมษายน 2552 จึงจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯ

นายสุเทพ กล่าวว่า การติดตามสถานการณ์ต้องทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติและสงบสุขเช่นเดิม เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเข้มข้น เช้าวันนี้ (28 ก.พ.) ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ไปบ้างแล้ว และสั่งการให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พิจารณาว่าจำเป็นต้องเพิ่มในจุดใดบ้าง หากกำลังไม่พอให้ขอกำลังทหารทันที เป้าหมายของรัฐบาลคือประชาชนต้องปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เพราะทุกคนทำงานอยู่แล้ว โดยแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นกันตลอด หากจำเป็นจึงจะเรียกประชุม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ ตนสามารถสั่งการและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องขอมติที่ประชุม

"ผมมั่นใจว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.)ได้แน่นอน เพราะดูจากลายนิ้วมือ และเชื่อว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนรับจ้างก่อเหตุ โดยใช้มอเตอร์ไซต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก ผมเชื่อว่าเหตุการณ์จะรุนแรงมากกว่าเดือน เม.ย.52 เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะนำไปอ้างในการฟ้องศาลโลก แต่ผมก็จะระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้น ส่วนที่มีหลายฝ่ายให้ยุบสภานั้น ผมเห็นการยุบสภาไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะต้องไปแข่งกันอีกในสนามเลือกตั้ง" นายสุเทพ กล่าว

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า เป็นความขัดแย้งในรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า คนเหล่านี้พูดโกหกทุกวัน พูดโกหกบ่อยๆ และพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ โดยไม่มีข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน ทุกคนเชื่อฟังรัฐบาล รับคำสั่งจากรัฐบาลและช่วยกันทำงานให้ชาติบ้านเมือง เมื่อถามย้ำกรณีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องนายกรัฐมนตรีปรับเปลี่ยนรองนายก รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนถูกทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลืองไล่ทุกวัน แต่ประชาชนกรุณาให้กำลังใจ จึงจะทำงานต่อไป ไม่หวั่นไหว ส่วนจะต้องปรับยุทธวิธีให้เข้มข้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทำงานอย่างแข็งแรง โดยดูได้จากหลังคำพิพากษาของศาล ได้สั่งการทันทีให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย ทุกคนก็ทราบดี บางครั้งหลายคนอาจจะนึกในใจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตนก็ระมัดระวัง การเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการต่างๆ ต้องไม่ให้กระทบกับประชาชน ไม่ให้รู้สึกอึดอัด ทุกอย่างต้องพอดี

ต่อข้อถามว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษคุมการชุมนุมวันที่ 12-14 มีนาคม หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น จะพยายามแก้ปัญหาในระดับปกติให้ได้ก่อน สถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ ฝ่ายรัฐต้องใช้ความอดทนอดกลั้นให้มาก และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนละตาสองตาก็จะช่วยได้ คงไม่ถึงขนาดต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง จนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ทุกคนต้องพยายามช่วยกัน บังเอิญเราโชคไม่ดี มีแต่คนคิดร้ายกับบ้านเมืองมาร่วมสมัยแบบนี้ ก็ต้องพยายามช่วยกันแก้ไข

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook