ลูกใจสลาย แม่ตาย 3 เดือน พ่อทนคิดถึงไม่ไหวขอตามไปอยู่ด้วย เผยคำสั่งเสียสุดท้าย

ลูกใจสลาย แม่ตายไป 3 เดือน พ่อทนคิดถึงไม่ไหวจบชีวิตตาม เผยคำสั่งเสียสุดท้าย ขออยู่ด้วยกัน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 กันยายน 2566 ในขณะที่ ร.ต.อ กิตติกวินท์ อุมาฐิติพงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ. หนองหาน จ.อุดรธานี กำลังปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรประจำวันอยู่นั้น ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายผูกคอเสียชีวิต ในป่าบ้านผักตบ ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย 

หลังจากรับแจ้ง พนักงานสอบสวนเวร จึงได้รีบรุดออกไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรรพ.หนองหาน และมูลนิธิส่งเสริมธรรมจุดบริการหนองหานรุดไปตรวจสอบ ที่เหตุเป็นป่าละเมาะใกล้ก้บบ้านผู้ตาย บริเวณใต้ต้นสะเดา เจ้าหน้าที่พบศพชายทราบชื่อต่อมาคือ นายวรกิตต์ อายุ 48 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอตัวเองกับกิ่งสะเดาสูงประมาณ 4 เมตร ใกล้เคียงกันพบบันไดอลูมิเนียมยาวประมาณ 2 เมตรล้มอยู่กับพื้น เสียชีวิต มากว่า 2-3 วัน สภาพศพขึ้นอืด เริ่มส่งกลิ่น

ด้าน น.ส ณัฐริกา อายุ 27 ปี ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่าพ่อมีอาชีพรับจ้างก่อสร้างบ้านทั่วไป ส่วนแม่ เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา พ่อจะพูดคิดถึงแม่ที่ตายไปตลอด อยากไปอยู่ด้วยกัน อยากตายตามแม่ไป กระทั่ง เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 เวลาประมาณบ่าย 2 โมง พ่อได้บอกตนว่าจะไปหาปู หาปลา จากนั้นก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้  หลังจากที่พ่อหายตัวไป ตนได้ไปนิมนต์พระที่ตนนับถือมาดูหมอ พระได้บอกว่าพ่อไม่ได้จมน้ำ แต่พ่อได้ผูกคอตายแล้ว อยู่ไม่ไกลบ้าน ตนจึงออกตามหาจนได้กลิ่นเหม็น สุดท้ายก็มาพบพ่อผูกคอเสียชีวิตแล้ว โดยก่อนหน้านั้นพ่อก็ได้เขียนจดหมายลาตายเอาไว้ด้วย

สำหรับ การเขียนลาตายของนายวรกิตต์ เขียนใส่กระดาษสมุดหน้ากลาง มีใจความสั่งเสียลูก ให้ลูกดูแลกัน รักกันส่งเสียน้องให้เรียนให้จบ ขอโทษลูกๆ ที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ตนเองไม่เข้มแข็ง และพูดถึงการจัดการเรื่องงานศพของตัวเอง ให้นำศพไปไว้ที่วัด 1 คืน แล้วจัดการเผาในวันต่อมา ให้นำกระดูกไปไว้รวมกันกับกระดูกของเมีย จะขอไปอยู่กับเมียที่ตายไปก่อนหน้านี้ 

จากการตรวจที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอย การต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาติ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป