“วราวุธ” แนะสังคมเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ยกปม "หมอพรทิพย์" สะใจแต่ไม่เกิดผลดีต่อใคร

“วราวุธ” แนะสังคมเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ยกปม "หมอพรทิพย์" สะใจแต่ไม่เกิดผลดีต่อใคร

“วราวุธ”  แนะสังคมเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ยกปม "หมอพรทิพย์"  สะใจแต่ไม่เกิดผลดีต่อใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“วราวุธ” ชี้ หัวใจสำคัญของประชาธิปไตย คือ การเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง หลังเกิดเหตุกับหมอพรทิพย์ ที่ประเทศไอซ์แลนด์

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์กับพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ในประเทศไอซ์แลนด์ ว่า ตนคิดว่าในสังคมประชาธิปไตย คำว่าประชาธิปไตยหัวใจคือการเคารพในความแตกต่างทางความคิด หากคุณคิดอย่างหนึ่ง อีกคนคิดอย่างนึง ต่างคนต่างว่ากันไป นั่นคือประชาธิปไตย ฝ่ายค้านคิดอย่าง ฝ่ายรัฐบาลคิดอย่าง แต่ถ้าหากว่าคุณคิดต่างกันแล้วนำความคิดนั้นไปบูลลี่หรือไปแสดงจริยามารยาทอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่เหมาะสมกับบุคคลอื่นนั้น คุณไม่ต่างอะไรกับเผด็จการเลย

นายวราวุธ กล่าวว่า ดังนั้นแนวความคิดของใครก็แล้วแต่ การจะปฏิบัติต่อคนอื่น หรือแม้แต่คนที่เป็นลูกค้า ในกรณีที่เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบกิจการร้านอาหารกับลูกค้า ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการก็ควรจะมีจิตใจที่มีเซอร์วิสมายด์มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ควรศึกษาแนวทางประชาธิปไตยของประเทศนั้นแล้วใช้เป็นแนวทางในการทำงานจะดีกว่า เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาอย่างที่เห็นก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อใคร และไม่รู้ด้วยว่าจะมีมาตรการทางกฎหมายใดตามมาด้วยหรือไม่

นายวราวุธ กล่าวว่า การทำอะไรที่ไม่ได้ยั้งคิด อาจจะสะใจแน่นอน คนเชียร์ก็เยอะ คนเห็นต่างก็มาก แต่ที่สำคัญจะกระทบกับการประกอบอาชีพของบุคคลนั้น ขอแนะนำผ่านไปถึงทุกๆคน ในการที่จะมีความคิดอะไรที่แตกต่างทางการเมือง เป็นสิ่งที่สามารถคิดได้ แตกต่างได้ แต่หัวใจสำคัญคือ การเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างนั้น ไม่ไปบูลลี่กัน ไม่ว่าจะเป็นในโลกออนไลน์ หรือในโลกแห่งความเป็นจริง ควรจะต้องเคารพในความแตกต่างทางความคิดเห็นเหล่านั้น

“วราวุธ” เหน็บ ก้าวไกลขับหมออ๋อง เป็นแท็กติกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ลั่น เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเมือง บอก ไม่รู้ใครเป็นคนคิด แต่ก็เข้าใจคิด

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนจากพรรคก้าวไกล ออกจากพรรค เกิดเสียงวิจารณ์เป็นแท็กติกทางการเมือง ว่า การที่นายปดิพัทธ์โดนขับออกจากพรรคก้าวไกล ก็ยังต้องหาพรรคการเมืองสังกัดอยู่ได้ ภายใน 30 วัน โดยที่ไม่เสียสิทธิ์การเป็นสส. ซึ่งการทำเช่นนี้ก็เข้าใจได้ ถ้าต้องการรักษาตำแหน่งรองประธานสภาบวกกับสถานะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไว้

“ผมอยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เล็ก ก็ต้องชมว่าการทำแท็กติกนี้ เป็นแท็กติกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเมือง ไม่รู้ใครเป็นคนคิด แต่ก็เข้าใจคิดดีมาก ในการที่จะรักษาสถานะผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภา ผมไม่ขอออกความเห็นว่าดีหรือไม่ เป็นอย่างไร แต่ในทางกฎหมายแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ ส่วนเรื่องของความเหมาะสม การเมืองถ้าไม่ผิดกฎหมายก็อยู่ในวิสัยของสมาชิกแต่ละท่านที่จะดำเนินการ” นายวราวุธ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook