ทักษิณลั่น3วันยังไม่ตายรอดูครบ10วัน
กต.แจ้งคำพิพากษา ทักษิณไปทั่วโลกแล้ว นพดล เผย ทักษิณ อยู่ดูไบอุทธรณ์แน่
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.53 นายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ว่า ขณะนี้ ยังต้องรอคัดสำเนาคำพิพากษาฉบับเต็มจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคาดว่า ไม่เกินสัปดาห์นี้น่าจะได้รับเอกสารทั้งหมด ซึ่งทีมทนายความต้องนำมาวิเคราะห์เหตุผลที่ศาลฎีกา ฯ วินิจฉัยแต่ละประเด็น โดยมีเวลา 30 วันในการดำเนินการ แต่หากไม่ทันก็อาจต้องขอศาลขยายเวลา
"แม้การอุทธรณ์จะไม่ง่าย แต่เราก็จะดำเนินการทุกวีถีทาง ที่เรามีสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งประเด็นหลักของนายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทาที่ชี้ให้เห็นคือ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หุ้นอย่างแท้จริง" ทนายความระบุ
นายกิตติพร ยังปฏิเสธกรณีที่มีข่าวระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 1 ใน 5 ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากที่ศาลฎีกา ฯ สั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินถูกอายัดบัญชีเงินฝากอีกกว่า 6,000 ล้านบาทว่า เท่าที่ทราบไม่มีการอายัดบัญชีอีก เพราะ คตส. ได้มีคำสั่งอายัดไว้แล้วในคดียึดทรัพย์นี้ ซึ่งขณะนี้บัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบรรณพจน์ ผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านคดียึดทรัพย์ที่ 1-5 ยังคงอยู่นิ่งในธนาคารแต่ละแห่ง โดยรอเริ่มกระบวนการบังคับคดีตามคำสั่งศาลฎีกาฯ ที่ให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินซึ่งจะตามขั้นตอนต้องมีการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน บังคับคดีดำเนินการ
ทักษิณลั่น3วันยังไม่ตายรอดูครบ10วัน
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวิดีโอลิงค์ ทางสถานี "พีเพิลชาแนล" เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 มีนาคม ว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่แช่งตัวเองและยังมีชีวิตอยู่ หากโกงจริงป่านนี้คงตายโหงไปแล้ว ขอให้ทุกคนติดตามชมว่า ในวันจันทร์หน้าครบ 10 วัน ดูว่าจะยังออกมาพูดคุยกับพี่น้องได้อีกหรือไม่ ตามที่ได้ฝากโครง"ศรีปราชญ์" ไว้ถือว่าเป็นการแช่ง เพราะไม่มีปัญญาไปล้างแค้นใคร มีแต่ความเข้มแข็งสู้ต่อไป ไม่คิดล้างแค้นแต่ขอแช่งพวกที่กลั่นแกล้ง ยืนยันว่าที่ออกมาพูดไม่ใช่ใจอ่อน มั่นใจสิ่งที่ทำ ที่งดโฟนอินช่วงนี้เพราะต้องเรียกสติกลับมาไม่อยากให้เกิดอารมณ์ ยอมรับว่าเป็นมนุษย์หัวใจทำด้วยเนื้อมีความรู้สึก
กต.แจ้งคำพิพากษาแม้วไปทั่วโลกแล้ว
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทันทีที่ทราบผลการพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งเอกสารสรุปประเด็นสำคัญๆ 5 ประเด็นเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีให้กับสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ไทย และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยทั่วโลก เพื่อให้เป็นข้อมูลในการชี้แจงต่อต่างชาติ นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ของต่างประเทศในไทย อาทิ สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ องค์การระหว่างประเทศ หอการค้า และสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศจะไม่แปลคำพิพากษาคดีทั้งหมด เพราะหากมีคำร้องขอให้ทำสำนักงานอัยการสูงสุดเท่านั้นที่จะดำเนินการ
สำหรับการติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นั้น นายพนิช กล่าวว่า เอกอัครราชทูตยูเออีประจำประเทศไทยแจ้งให้ทราบว่า ได้สอบถามกับผู้ใหญ่ของยูเออีแล้วเห็นว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เก็บตัวอยู่ในบ้านพัก ไม่ได้ออกไปใช้วิดีโอลิงก์นอกสถานที่ หรือเคลื่อนไหวปลุกระดม ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กงสุลใหญ่ไทย ณ ดูไบ ติดตามความเคลื่อนไหว หากมีสิ่งผิดปกติหรือมีการเคลื่อนไหวปลุกระดมก็ให้รีบแจ้งกลับมาทันที นอกจากนี้ยังทราบว่าหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษามีผู้ใหญ่ในครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ 2-3 คนเดินทางไปพบ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นภรรยาและลูกๆ หรือไม่ นายพนิชตอบว่า มีไปบ้างและไม่ครบ แต่ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับทางยูเออี
นพดลเผย ทักษิณ อยู่ดูไบอุทธรณ์แน่
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ว่า ขณะนี้กำลังประชุมเตรียมการกันอยู่ ยังมีเวลา 30 วัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยื่นเรื่องอุทธรณ์แน่นอน โดยซึ่งมีประเด็นค้างคาใจ เรื่องการยอมรับคำสั่งของคณะผู้ยึดอำนาจ และประเด็นการออกนโยบาย 5 มาตรการ เช่น การออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพาสามิต เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าดำเนินการโดยชอบแล้ว
ดังนั้นจะต้องผูกพันไปทุกองค์กรด้วย โดยนโยบาย 5 มาตรการที่ออกมาไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอยู่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อทำธุรกิจละแวกนั้นโดยสุขภาพกาย และจิตใจยังคงแข็งแรงปกติดี