ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในชิลีทะลุ 700 คน

ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในชิลีพุ่งแตะ 708 คน เมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต

ประธานาธิบดีมิเชล บาเชเลต ของชิลี กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอยู่ที่ 708 คน และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่รัฐบาลของเธอยอมรับว่า ล้มเหลวในการแจ้งเตือนภัยคลื่นสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ ให้ประชาชนทราบ

สถานีโทรทัศน์ของทางการชิลี รายงานว่า เฉพาะในหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมจากคลื่นสึนามิ พบร่างผู้เสียชีวิตกว่า 300 ศพ โดยคลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวพัดถล่มใส่เมือง และหมู่บ้านตามแนวชายฝั่งทะเล ทำให้ชาวบ้านจมน้ำ และกวาดเอาบ้านไปทั้งหลัง ข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐ รายงานว่า คลื่นสึนามิขนาดใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นมีขนาด 2.6 เมตร

รัฐบาลชิลี ประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล หรือเคอร์ฟิว ใน 2 เมืองที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหนักที่สุด คือเมืองเมาเล ทางภาคกลาง และเมืองกอนเซปซีออน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของชิลี ซึ่งมีความหวั่นวิตกเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา และปืนน้ำแรงดันสูงไล่กลุ่มคนร้ายที่ออกปล้นสะดม นอกจากนี้ ทางการยังระดมกำลังทหารมาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยด้วย ส่วนทหารอากาศเริ่มใช้เครื่องบินลำเลียงอาหาร และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้รับความเสียหายหนัก ซึ่งถูกตัดขาดจากแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของชิลี สร้างความเสียหายแก่ทางหลวงสายหลัก เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีบ้าน และอาคาร 1.5 ล้านหลังถูกทำลาย และได้รับความเสียหายอย่างหนัก คาดว่า ความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จะอยู่ที่ราว 15,000-30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 495,000 -990,000 ล้านบาท) หรือราวร้อยละ 10-15 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของชิลี.