อัยการเริ่มเดินหน้าคดีอาญา พ.ต.ท.ทักษิณ
อัยการเริ่มประชุมพิจารณาดำเนินคดีอาญา "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในคดีที่เกี่ยวข้อง หลังศาลฎีกาฯ มีคำสั่งยึดทรัพย์ ขณะนี้ รอสำเนาคำพิพากษา ส่วนคดีแพ่ง รอตรวจสอบหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย ก่อนให้ อสส.ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนจะมีบุคคลอื่นต้องโดนคดีอาญาด้วยหรือไม่ รอ ป.ป.ช. สรุป
นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เป็นประธานที่ประชุมคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการตรวจ สอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อจาก คตส. มีนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการ คดีเศรษฐกิจและทรัพยากร นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการ ฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และคณะทำงานอื่น ๆ เข้าร่วมหารือ หลังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนวน 46,373 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้คัดค้านที่ 1 - 5 ในคดีดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน โดยใช้เวลาหารือนาน 30 นาที
นายธนพิชญ์ เปิดเผยว่า หลังศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาให้ทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นของแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประสานขอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาสำนวนในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อสส. จึงมอบหมายให้ นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เรียกประชุมคณะทำงาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาจากศาล โดยเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฯ รับว่า จะรีบส่งสำเนาคำพิพากษาให้ทันทีที่จบกระบวนการในชั้นศาลแล้ว
"นอกจากนี้ ยังมีการหารือในส่วนของคดีอาญา จำนวน 5 เรื่อง ซึ่งอัยการและคตส.ยื่นฟ้องไปแล้ว จำนวน 2 คดี คือ คดีแปลงสัมปทานเป็นภาษีสรรพาสามิต และคดีอนุมัติปล่อยสินเชื่อให้แก่รัฐบาลพม่า จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 คดี ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากยังไม่ได้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี" นายธนพิชญ์ กล่าว
นายธนพิชญ์ กล่าวว่า ส่วนอีก 3 คดี ที่ยังไม่ได้ยื่นฟ้องอีก ได้แก่ การแก้สัญญาให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) รับผิดชอบเครือข่ายโรมมิ่ง การแก้ไขลดส่วนแบ่งระบบบัตรโทรศัพท์เติมเงินล่วงหน้า และ การแก้ไขสัญญาส่งดาวเทียม ไอพี สตาร์ ซึ่งคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาไต่สวนของ ป.ป.ช. สำหรับคดีแพ่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานใด ได้รับความเสียหายบ้าง เพื่อมอบหมายให้ อสส.พิจารณาดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
"ส่วนจะมีการดำเนินคดีอาญาบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐาน และคำกล่าวหา สรุปสำนวน พร้อมความเห็นส่งมาให้อัยการเป็นผู้พิจารณา" นายธนพิชญ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี นายธนพิชญ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อัยการสำนักงานต่างประเทศ พยายามดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน คงต้องใช้เวลาในการตามตัว
ต่อข้อถามว่า รู้สึกหนักใจหรือกดดันหรือไม่ ที่จะต้องดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ อีก นายธนพิชญ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า อัยการก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติอยู่แล้ว ไม่รู้สึกหนักใจอะไร