ล้วงหัวใจ "นุ่น-ท็อป" รีวิวเส้นทางชีวิตคู่ 16 ปี เคยมีช่วงเวลาที่เสียน้ำตาด้วยเหมือนกัน

ล้วงหัวใจ "นุ่น-ท็อป" รีวิวเส้นทางชีวิตคู่ 16 ปี เคยมีช่วงเวลาที่เสียน้ำตาด้วยเหมือนกัน

ล้วงหัวใจ "นุ่น-ท็อป" รีวิวเส้นทางชีวิตคู่ 16 ปี เคยมีช่วงเวลาที่เสียน้ำตาด้วยเหมือนกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพราะนานๆ ทีจะมีโอกาสได้เจอกับคู่รักสายกรีน อย่าง ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ที่ควงแขนกันมาร่วมอีเวนต์ใหญ่ของคนรักษ์โลก ในงาน ความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตร เปิดตัวแคมเปญ React For Change ลองเปลี่ยนโลก เพื่อให้เหล่านักเรียนและคนที่สนใจได้ทำชาเลนจ์ กับภารกิจ 3 RE

บรรดาสื่อมวลชนก็เลยไม่พลาดที่จะชวนทั้งคู่มาอัปเดตเรื่องราวความรักให้ได้ฟังกันสักหน่อย ว่าตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีที่ผ่านมานั้น ท็อป-นุ่น ต้องผ่านโมเมนต์สุข ทุกข์ และดูแลหัวใจกันอย่างไรบ้าง รวมถึงเรื่องที่หลายคนยังคงแอบลุ้น อย่างแพลนมีทายาท ซึ่งทั้งสองคนก็ยังคงยืนยันคำตอบหนักแน่นว่า จะยังคงไม่มีตามที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้...

วันนี้นุ่นตัดผมสั้นมาในลุคใหม่ ?
นุ่น - (หัวเราะ) คือก่อนหน้านี้เพื่อนโทรมาเห็นภาพเราถ่ายคู่กับพี่ท็อปแล้วดูแก่มาก หมายถึงเรานะ จากรูปนั้นมาเพื่อนเลยบอกว่าเธอต้องไปทำผมด่วน ไม่งั้นสามีเธอจะเบื่อ เราก็ไม่เข้าใจสไตล์ คิดว่าเขารักธรรมชาติ คงชอบแบบสวยธรรมชาติ แต่เพื่อนบอกว่าเธอชะล่าใจได้ไง เลยบอกขอตัวไปทำธุระแปปนึง และอีกอย่างพี่ท็อปพออายุเยอะขึ้นแล้วดูเฟี้ยวขึ้น เพราะว่าเพื่อนทักแรงเลยทำให้เสียเซลฟ์

พอเห็นลุคใหม่ของภรรยาเป็นยังไงบ้าง ?
ท็อป - ผมไปดูถึงร้านตัดผมเลย (หัวเราะ)

นุ่น - ไม่มีรีเควสอะไรเลย บอกช่างแค่ว่าอะไรก็ได้ แค่ว่าต้องให้พี่ท็อปตะลึง ส่วนตัวชอบผมสั้นอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้คือการเปลี่ยนลุค แบบว่าไม่ได้เข้าร้านทำผมนานมากแล้ว

ท็อป - ไม่ได้รู้สึกว่าเขาสวยน้อยลงเลย ที่ผ่านมาคือโอเคมากๆ แต่เขาคงมั่นใจมากขึ้น แต่พอเห็นที่ร้านตอนไปรับก็รู้สึกน่ารักดี และมารู้ตอนหลังเขาเฉลยว่าเพราะเพื่อนทัก

มีวิธีกำจัดความเครียดยังไง ?
นุ่น - คือจะตอบให้ เขาเป็นผู้ชายมีบุญมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ศีรษะถึงหมอนนับแค่ 10 เขาก็ไปแล้ว บางทีเรานอนไม่หลับ จะบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนก่อน หันไปอีกทีคือหลับแล้ว

ตื่นมาเคยคิดไหม ว่าภรรยาจะแกล้งตอนหลับ ?
ท็อป - ไม่เคยคิดนะ หรือต้องระวังไหมเนี่ย

เคยมีเหตุการณ์อะไรที่ให้ต้องเสียน้ำตากันไหม ?
ท็อป - เคยมีตอนที่ยังไม่แต่งงาน ตอนเป็นแฟนกัน และไปเที่ยวญี่ปุ่น เราก็บอกเขาว่าขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนแปปเดียว ก็ออกไปประมาณ 5 ทุ่ม น่าจะกลับมาถึงห้องประมาณตี 4 พอได้ จังหวะที่เปิดประตูเข้าห้องแล้วแสงไฟมาสาดเข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือหน้าคุณนุ่นแล้วน้ำตาหยด เหมือนแบบว่าผู้กำกับสั่งเลย อันนั้นโหดสุดแล้ว ใจร่วงไปเลยและรีบไปนอน

เหมือนว่าทางภรรยาจะไม่สบายใจหรือเปล่า ?
ท็อป - ครั้งนั้นเป็นครั้งเดียวที่ทำ ที่หนีเที่ยวแล้วกลับดึกไปหน่อย พอมาตอนหลังก็ขอตรงๆ จะไม่มีเห็นน้ำตาแล้ว วันนั้นมันเป็นภาพติดตา

แล้วเคยมีอาการโมโหไหม ?
นุ่น - คือขอใช้พื้นที่สื่อนะคะ เพราะจริงๆ เป็นผู้ถูกกระทำ ฉันไม่เคยได้ด่าใคร ไม่เคยเกรี้ยวกราดใส่ใครเลย มันแค่ในละคร ชีวิตจริงมีแต่คนโขกสับ ทุกคนต้องคิดว่าเราข่มสามีแน่เลย ฉันไม่เคยได้ทำสิ่งนั้นกับใคร เลยต้องเอาทุกสิ่งไปลงในละครหมด อยากบอกว่าเราคือผู้ถูกกระทำท่านหนึ่ง

เป็นคนกลัวภรรยาไหม ?
ท็อป - มันจะเป็นจังหวะเกรงใจ แต่เวลาหงุดหงิดมากมันก็หยุดไม่อยู่เหมือนกัน ก็ใส่สุดในคำพูดคำจา แต่ไม่ได้มีคำหยาบนะ เหมือนเป็นการระบาย

แล้วมีวิธีรับมือยังไง ?
นุ่น - ถ้าเอาเรื่องจริงนะ คือจับลมหายใจที่ปลายจมูก แค่นั้นเลยค่ะ เพื่อเรียกสติตัวเอง ส่วนพี่ท็อปไม่ต้องเติมเชื้อไฟปล่อยเขาไปก่อน ทำให้ตัวเองหูดับไป ถ้ายิ่งต่อความมันจะยิ่งไม่จบไม่สิ้น อย่างที่บอกชีวิตจริงโดนกระทำสุดๆ

รู้สึกยังไงที่ได้ภรรยาไม่วีนเลย ?
ท็อป - ผมโชคดีครับ และก็ผิดไปแล้วกับหลายเรื่องที่ทำมา ขอโทษต่อสาธารณะด้วยนะครับ (ยกมือไหว้)

เวลาทะเลาะกันจัดการยังไง ?
ท็อป - มันต้องผ่านเวลานิดนึง แบบว่าถ้าเราเดือดมาเลย ทะเลาะกัน พูดจาแรงๆ ใส่กัน และพอเราได้หลับ พอตื่นมามันจะดีขึ้น และนุ่นเขาจะรอผมดาวน์ลง และผมจะมาขอบคุณนะที่เมื่อวานใจเย็น พร้อมขอโทษ

มันรุนแรงขนาดไหน ถึงต้องขอโทษกัน ?
นุ่น - ส่วนมากเราจะเคลียร์กันมากกว่าด้วยเหตุผล มันเป็นชีวิตคู่ที่พื้นฐานแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เพราะอารมณ์มันมีช่วงขึ้นลง แต่เหตุผลมันจะทำให้เราอยู่กันได้นาน ยังลองนับเล่นๆ ว่าเป็นแฟนกันมา 8 ปี แต่งงาน 8 ปี รวมเป็น 16 ปี ที่เราอยู่ด้วยกันมา เหตุผลทำให้เราอยู่กันได้โดยไม่บอบช้ำกันและกัน

เรียกว่าเป็นสามีตัวอย่างได้ไหม ?
ท็อป - เมื่อกี้ขอโทษไปเยอะ ไม่น่าจะเป็นได้ มันไม่น่าจะดีเท่าไหร่

วันครบรอบนี่จำกันแม่นไหม ?
ท็อป - ถ้าเขาบอกว่าใช่ มันก็ใช่อ่ะ ผมจำไม่ได้จริงๆ ขอสารภาพ

นุ่น - ใช่ค่ะ ครบ 8 ปี

ท็อป - แต่จำได้ว่าขอเขาแต่งงานวันที่ 1 มกราคม เพราะตั้งใจแล้ว ถ้าอันนี้จำได้แน่ๆ

เคล็ดลับอะไรที่ทำให้อยู่กันมานาน 16 ปี ?
นุ่น - เราว่าคู่ไหนที่มีปัญหา มันจะมีจังหวะนึงที่บอกว่าไม่เอาแล้ว แต่ด้วยเหตุและผลจะทำให้อยู่ด้วยกันได้ คุยกันด้วยภาษาที่วุฒิภาวะที่ดี ใช่เหตุและผลคุยกันตอนที่อารมณ์ยังไม่ฟุ้งกระจาย มันจะเคลียร์ปัญหาได้ดีที่สุด

ยังคิดที่จะมีลูก เพื่อให้ครอบครัวสมบูรณ์ไหม ?
นุ่น - ถ้าตอนนี้ก็ไม่คิดแล้วค่ะ เพราะคิดว่าคู่เราคงไม่เหมาะกับการมีลูก ด้วยพฤติกรรมเราเอย ความสนใจด้วย แต่คิดกันว่าอยากเลี้ยงแมว แต่ยังไม่ผ่านด่านใครเลยที่บ้าน ซึ่งมันยากกว่าการมีลูกอีก 

ท็อป - ตอนนี้ทำได้แค่ซื้อตุ๊กตาแมวจากญี่ปุ่นมาเล่นแทน ในขณะดูทีวี เป็นการซ้อมเล่นๆ ไปก่อน

ไม่คิดจะใจอ่อนบ้างหรอ ?
ท็อป - ผมว่ามันเป็นการสื่อสารตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว ผมให้นุ่นเขาตัดสินใจว่าอยากมีหรือไม่อยากมี เพราะบ้านผมเขายังไงก็ได้แล้วแต่ และพอนุ่นเขาบอกแบบนี้ก่อนแต่งงาน ซึ่งมันดีนะเพราะถ้าเราไม่คุยกันก่อน แล้วเราดันอยากมีเขาไม่อยากมีมันจะกลายเป็นปัญหา ส่วนแมวคือที่คอนโดห้ามเลี้ยงสัตว์ คือไม่อยากผิดกฎเท่าไหร่ คงต้องรอซื้อบ้านก่อนและค่อยคิดเรื่องแมว

กำลังดันคุณแม่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ใช่ไหมอ?
นุ่น - ใช่ค่ะ กำลังดันคุณแม่ ตอนนี้นอกจากสิ่งแวดล้อม สิ่งที่กำลังสนใจคือผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้าน และคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะเราออกมาทำงานข้างนอก แต่ถ้าคุณแม่เขาเกษียณต้องอยู่แต่บ้าน เลยไม่อยากให้ช่วงเวลาผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ เลยไม่รู้จะทำอะไรเลยชวนแม่เป็นอินฟลู ส่วนเราเป็นโปรดักชั่นให้เพื่อให้เขาสนุกและได้พูดในเรื่องที่เขาสนใจคือเรื่องผู้สูงอายุ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การทำกิจกรรม เพราะเรานานๆ กลับไปหาเขาจะมีความตื่นเต้น เลยคิดว่าช่วงเวลาสำคัญในช่วงที่ว่างคืออยู่กลับครอบครัว

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ ล้วงหัวใจ "นุ่น-ท็อป" รีวิวเส้นทางชีวิตคู่ 16 ปี เคยมีช่วงเวลาที่เสียน้ำตาด้วยเหมือนกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook