ฝันร้ายนักท่องเที่ยว สาววัย 21 สัมผัสร่างกาย จนท.สนามบินดูไบ เจอคุก 1 ปี ไม่ได้กลับบ้าน
กลายเป็นฝันร้าย สาววัย 21 “แตะ” ร่างกาย จนท.สนามบินดูไบ เจอคุก 1 ปี ไม่ได้กลับบ้านเกิด
ข่าวช็อก นักท่องเที่ยวสาวเจอคุก 1 ปี เหตุจับไหล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินดูไบ นี่ถือเป็นการเตือนนักท่องเที่ยวหลายล้านคน เกี่ยวกับกฎระเบียบที่เข้มงวดในดูไบ เมืองหลวงของเอมิเรตแห่งดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
ตามรายงานของ Daily Mail ระบุว่า “ราดาห์ สเตอร์ลิง” นักเคลื่อนไหวทางสังคมในดูไบ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่ากฎหมายที่บังคับใช้กับเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อ “เอลิซาเบธ โปลันโก เดอ ลอส ซานโตส” เป็นตัวอย่างที่ดีว่าวันหยุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจจบลงด้วย "ฝันร้าย" ได้อย่างไร โดยเตือนว่าการเดินทางไปดูไบอาจกลายเป็น "ตั๋วเที่ยวเดียว" เพราะต้องจบลงที่การเข้าคุก
จากข้อมูลพบว่า เด็กสาวอายุ 21 ปี จากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถูกกล่าวหาว่า "ทำร้ายและดูหมิ่น" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบิน ระหว่างการแวะพักที่สนามบินดูไบเป็นเวลา 10 ชั่วโมง หลังจากที่เธอได้รับการผ่าตัด และกำลังเดินทางจากตุรกีไปยังสหรัฐฯ พร้อมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อชุดทางการแพทย์ที่ต้องสวมหลังการผ่าตัด ปรากฏแจ้งเตือนบนอุปกรณ์คัดกรองความปลอดภัยที่สนามบิน เธอจึงถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้าบางชิ้นออก เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่ได้ทีสิ่งผิดกฎใดๆ ซุกซ่อนอยู่ภายในตัว อย่างไรก็ดี เธอพยายามแจ้งว่าเธอสวมเหล็กพยุงที่มีสายรัดอยู่ และได้รับคำสั่งให้สวมมันตลอดเวลา แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อถูกลากไปที่ห้องส่วนตัว และสั่งให้ถอดเหล็กพยุงออก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่า "ถูกละเมิด"
ทำให้เธอต้องพยายามขอความช่วยเหลือ แต่การตัดสินใจที่จะ "แตะเบาๆ" ที่แขนของเจ้าหน้าที่ศุลกากรหญิงคนหนึ่งเพื่อเรียกความสนใจ กลับทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายอย่างหนัก ถูกกล่าวหาทันทีว่า "ทำร้ายและดูหมิ่น" เจ้าหน้าที่ และถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ
หลังจากการสู้รบเกิดขึ้นภายในสนามบิน เธอได้จ่ายค่าปรับทันทีและคาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวไป แต่กลับถูกห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อรอการพิจารณาคดีของศาล เมื่อคดีของเธอถูกยื่นอุทธรณ์โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร ความล่าช้าทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานในเป็นเวลาหลายเดือน ขณะเดียวกันก็ต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล เพื่อจ่ายค่าที่พักและค่าธรรมเนียมทางกฎหมายในประเทศที่ร่ำรวยแห่งนี้
แทนที่จะต้องแวะพักเครื่อง 10 ชั่วโมงตามที่วางแผนไว้ เธอกลับต้องทนทุกข์ทรมานนานหลายเดือน ถูกห้ามไม่ให้เดินทางกลับบ้าน และในสัปดาห์นี้เพิ่งถูกตัดสินจำคุก 1 ปีหลังลูกกรง แม้จะจ่ายค่าปรับ 10,000 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 1 แสนบาท) ก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อมีการลดโทษลง เธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอจะได้กลับมาพบกับแม่ของเธอในนิวยอร์กอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับมาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกครั้ง
"เราคิดว่ามันจะเป็นเมืองที่ทันสมัยและล้ำสมัยกว่านี้ แต่เราคิดผิดโดยสิ้นเชิง" เด ลอส ซานโตส กล่าว
เธอยังบอกด้วยว่าแม่ของเธอตกอยู่ในอาการช็อคและทรมาน กังวลมากและเอาแต่ร้องไห้ และแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะได้รับแจ้งว่าเธอจะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ แต่คดีที่ดำเนินอยู่ของเธอ และระบบกฎหมายของดูไบที่คาดเดาไม่ได้ ทำให้เธอกลัวว่าจะต้องถูกกักขังในเรือนจำ Al Awis อันโด่งดัง
สถานการณ์ที่ยากลำบากของเด็กสาววัย 21 ปีรายนี้ นำไปสู่การเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ พร้อมทั้งเตือนนักเดินทางคนอื่นๆ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในประเทศตะวันออกกลางแห่งนี้ ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2023 นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันอีกคน “เทียร์รา อัลเลน” ก็ถูกตัดสินจำคุกในดูไบ หลังจากถูกกล่าวหาว่าตะโกนใส่พนักงานเช่ารถ
“ราดาห์ สเตอร์ลิง” กำลังรณรงค์ให้ปล่อยตัวเอลิซาเบธ “กรณีของเอลิซาเบธ และเทียร์รา อัลเลน เป็นตัวอย่างของสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันในดูไบ” เธอกล่าว
“ผู้คนใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อโฆษณาเมืองที่มีเสน่ห์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าทางการไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่รุนแรงเพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ปลอดภัยสำหรับทุกคน นักท่องเที่ยวเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาอันเป็นเท็จ และไม่มีหลักฐาน ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องเข้าคุก พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกแผนการขู่กรรโชกเหมือนที่เราเห็นจากเจ้าหน้าที่สนามบิน บริษัทเช่ารถ คนขับแท็กซี่..."
“สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก การเดินทางไปดูไบอาจเป็นตั๋วเที่ยวเดียว” เธอกล่าวเสริม