สาวตกใจ เจอเส้นสีดำขึ้นที่ขา คิดว่าเป็นโรคร้าย ก่อนมาเฉลยทำชาวเน็ตถึงกับลั่น
หญิงคนหนึ่งพบว่าจู่ ๆ ก็มีเส้นสีดำยาว ๆ ปรากฏขึ้นที่ขาของเธอ ไล่จากต้นขาถึงน่อง หลังจากเธอโพสต์ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต ก็มีคนชี้ว่าอาจเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพ สุดท้ายความจริงพลิก 180 องศา กลับกลายเป็นเรื่องฮาของชาวเน็ต
เว็บไซต์ HK01 รายงานว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน ชาวเน็ตหญิงคนหนึ่งโพสต์บน Xiaohongshu อินสตาแกรมเวอร์ชั่นจีน โดยบอกว่าจู่ ๆ มีเส้นสีดำปรากฏขึ้นที่ขาของเธอ ตั้งแต่ต้นขาถึงน่อง และเนื่องจากเธอมีผิวขาวเส้นสีดำจึงดูเด่นชัดมาก
หญิงสาวบอกว่า เส้นสีดำนี้เธอพยายามเช็ดแรงแค่ไหนก็ลบไม่ได้ซึ่ง ทำให้กังวลว่าอาจเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงโพสต์ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต และถามว่าในกรณีนี้ควรไปรักษาที่แผนกไหนของโรงพยาบาล
ชาวเน็ตบางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า พวกเขาก็เคยประสบกับเส้นสีดำคล้าย ๆ กัน ซึ่งเกิดจากเมลานินและฮอร์โมนของพวกเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ตั้งครรภ์ และถามผู้โพสต์ว่าเธอท้องหรือไม่
ชาวเน็ตบางคนบอกว่าผู้โพสต์อาจมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งหมายความว่าหากเส้นยาวไปถึงหัวใจ ชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตรายเมื่อใดก็ได้ และชี้ให้เห็นว่าเธอต้องไปโรงพยาบาล นี่ไม่ใช่อาการปกติแน่นอน และแนะนำให้ไปตรวจสุขภาพที่แผนกผิวหนัง
แต่ชาวเน็ตบางคนก็คิดว่าไม่เกี่ยวกับสุขภาพ เลยกลับถามเธอว่าเคยใส่กางเกงรัดรูปมาก่อนหรือเปล่า ถ้าทิ้งไว้สักพักรอยตะเข็บกางเกงจะหายไป หรือบางทีสีของกางเกงอาจตกใส่ บางคนก็เดาว่าเป็นสีย้อมผม
อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ยืนยันว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถลบร่องรอยของเส้นสีดำได้
ล่าสุด ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาอัปเดตสถานการณ์อีกครั้งว่า "ระหว่างวันเช็ดออกมากแค่ไหนก็ไม่หลุด ใคร ๆ ก็เอาแต่บอกว่าเป็นสีย้อม กลับบ้านแล้วล้างออกด้วยน้ำ แต่ล้างออกไม่ได้ และรีมูฟเวอร์ก็ใช้ไม่ได้ผลเช่นกัน แต่หลังจากใช้นิ้วถูแรง ๆ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เส้นสีดำค่อย ๆ หายไป"
"ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประกาศให้ชาวเน็ตทราบด้วยความอับอายอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นโคลน ขออภัยทุกคนที่ทำให้เข้าใจผิด"
ซึ่งเมื่อรู้ว่าสถานการณ์พลิกกลับแบบ 180 องศา ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากหัวเราะ และยังสงสัยว่าโคลนกลายเป็นเส้นสีดำได้อย่างไร ชาวเน็ตบางคนคาดเดาว่าอาจเป็นเพราะของเหลวหนืด เช่น ชานม นม หรือเครื่องดื่ม ไหลลงบนขา ก่อนจะจับตัวจนกลายเป็นเส้นสีดำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตยังดีใจที่สุดท้ายผู้โพสต์ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องพบกับสถานการณ์ที่น่าอับอายมากยิ่งขึ้นไปอีก
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ