"วุ้นเส้น" เผยคำพูดหวานโมเมนต์ "นิกม์" คุกเข่าขอแต่งงาน คาดได้ฤกษ์แต่งปีหน้า

ขึ้นแท่นเป็นว่าที่เจ้าสาวป้ายแดงอีกคน สำหรับนักแสดงสาวสวย วุ้นเส้น วิริฒิพา ที่เพิ่งถูกแฟนหนุ่ม นิกม์ ธนะภูมิกุล คุกเข่าขอแต่งงานในบรรยากาศโมแมนติก ที่ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดมีโอกาสเจอ วุ้นเส้น จึงให้เล่าโมเมนต์ความพิเศษวันนั้น

โดย วุ้นเส้น เผยว่า "โมเมนต์วันถูกขอแต่งงานจริงๆ ตนก็มีความสงสัย เราเดินทางไปทำงานที่ฝรั่งเศสกัน คือเพื่อนมาถามเยอะมากว่าไปทริปนี้เขาจะขอตนก็มั้ย เราก็บอกไปว่าไม่มีอะไรที่น่าสงสัย เขาจะรู้ไซส์แหวนได้ยังไง สุดท้ายคิดว่าเขาไม่น่าจะขอทริปนี้ เขาไม่มีความลนเลย เราอยู่ด้วยกันตลอด เราไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว เพราะมาทำงานด้วย ด้านเพื่อนก็เชียร์ตลอด แต่ที่จับสังเกตได้อีกอย่างคือตอนไปถึงแล้ว เพื่อนถามว่าเตรียมชุดขาวมามั้ย คือมีอะไรที่โป๊ะเยอะมาก แค่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง"

"วันนั้นคือเขาพูดน้อยมาก แทบไม่พูดเลย ขอแต่งงานเลย คือเราถ่ายรูปทำงานอยู่ แล้วตากล้องก็บอกให้มาถ่ายคู่กัน เราก็โอเค ตอนแรกเราใส่ชุดดำ แล้วเขาก็บอกให้เปลี่ยนเป็นอีกชุดนึง เขาบอกว่าต้องถ่ายซ่อม ตนก็ยอมเปลี่ยน จนได้มาถ่ายด้วยกัน เรากอดเอวเขา ความรู้สึกเหมือนเจอกล่องอะไรที่กระเป๋า เขาก็เลยตัดสินใจพูดเลย เขาบอกว่า เขาอยู่กับเรามา 4 ปีแล้ว เขามีความสุขทุกวันเลย(เขิน) หลังจากนี้อยากใช้ชีวิตกับเรา จากนั นเขาก็ลงไปคุกเข่า ก็แอบรู้สึกเซอร์ไพรส์ ตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาทำมาก เราก็ตอบโอเคไปในที่สุด จนมารู้ทีหลังว่าจริงๆ เขาอยากพูดมากกว่านี้ แต่จำอะไรไม่ได้เลย"

"ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เพื่อนเชียร์ 100% เราเลยคิดว่าเขาคงทำอะไรให้เพื่อนเราประทับใจ ทั้งยังบอกถูกต้องเลยคนดีต้องคู่กับคนดี เราดีใจมากที่ทุกคนคอยเชียร์ รู้จักตัวตนของเราและของนิกม์ และเราเข้ากันได้ ไม่มีปัญหากัน คบกันมีแต่เรื่องดีๆ หลังจากนี้ก็มีคุยกัน แต่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะแต่งเมื่อไหร่ คิดว่าไม่ใช่ปีนี้ อาจจะปีหน้า ส่วนเรื่องผู้ใหญ่จริงๆ เขาคุยก่อนที่จะขอแต่งงานอีก ทุกคนเก็บเป็นความลับมาตลอด เขาคงไม่อยากบอกทีหลัง แต่จริงๆ เราว่าอายุขนาดนี้แล้วพ่อแม่ไม่ว่าอะไรหรอก"

"ถามว่าน้ำตาลไหลมั้ย เขาก็มี เราก็มี ตนก็บอกว่าอย่าเพิ่งเดี๋ยวฉันไม่สวย แต่ก็รู้สึกว่าอยากเป็นโมเมนต์ที่ไม่ต้องร้องไห้อะไร อยากให้ทุกอย่างแฮปปี้ รู้ว่าทุกคนเชียร์ ช่วงนี้แฟนหนุ่มถ่ายรูปดูดีขึ้น เพราะเขาลดน้ำหนักลงนิดนึง บอกสำหรับเรา 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้คาดหวังจะต้องแต่งงาน เราโฟกัสกับงานเยอะ มีเขาเป็นกำลังใจ แต่ก็ต้องขอบคุณที่เขาอยากให้เกียรติเรา อยากให้เรามีความสุขกว่านี้ เราเหมือนได้เพื่อนสนิทเพิ่มมาอีกคน เขาคุยได้ทุกเรื่อง เติมเต็มกันและกัน เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร"

"มีแต่คนถามเรื่องได้คนนี้จากพระแม่ลักษมีมั้ย จะบอกว่าตนไม่เคยขอความรักเลย เพราะรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ต้องใช้ความสามารถของเรา หรืออีกด้านพระแม่อาจจะประทานให้เราก็ได้ เพราะทุกวันนี้เรามีความสุขดีกับคนนี้ เรานับถือท่านอยู่แล้ว แต่จะขอเรื่องงาน เรื่องธุรกิจมากกว่า ตนแซวนิกม์ว่าเป็นเขาหรือเปล่า ที่เป็นฝ่ายขอเรามา เขาก็บอกก็ไม่แน่นะ"