ไอซ์ของกลางหาย 1 กก. ที่แท้สิบเวรขโมยไปเสพ ผกก.บุกจับคาบ้านพักตำรวจ

ไอซ์ของกลางหาย 1 กก. ที่แท้สิบเวรขโมยไปเสพ ผกก.บุกจับคาบ้านพักตำรวจ

ไอซ์ของกลางหาย 1 กก. ที่แท้สิบเวรขโมยไปเสพ ผกก.บุกจับคาบ้านพักตำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไอซ์ของกลางหาย 1 กก. ที่แท้สิบเวรขโมยไปเสพ ผกก.บุกจับคาบ้านพักตำรวจ พบประวัติพัวพันยาเสพติด

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.เมืองนครพนม รับรายงานว่า มีของกลางยาไอซ์ จำนวน 50 กิโลกรัม ที่ได้จากการตรวจยึดของด่านศุลการกรนครพนม หลังขบวนการค้ายาเสพติดมีการลักลอบนำเข้ามาทางด่านสชายแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำของกลางมาเก็บรักษาที่โรงพัก สภ.เมืองนครพนม

แต่มีการตรวจสอบ ว่าของกลางยาไอซ์หายไป จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จนกระทั่งมีการสอบสวน ทราบว่ามี ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำแหน่งสิบเวร ที่ดูแลเวรยาม ฉวยโอกายขโมยของกลางหายไป จึงตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันชัดเจน ก่อนที่จะเข้าตรวจค้นจับกุม ข้าราชการตำรวจที่ก่อเหตุพร้อมยึดของกลางที่บ้านพักตำรวจ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ ดาบตำรวจ สกลนคร  อายุ 51 ปี ตำแหน่งสิบเวร สภ.เมืองนครพนม จบโรงเรียนตำรวจภูธร 4 ขอนแก่น รุ่น 27 เมื่อปี 2540 ภูมิลำเนาเป็นคน จ.ยโสธร มารับราชการตำรวจ ที่ จ.นครพนม

ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลของกลางว่า มีของกลางยาไอซ์ จากหน่วยงานศุลกากรนครพนม ตรวจยึดมาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อเก็บของกลาง ระหว่างการดำเนินคดี ที่ โรงพัก สภ.เมืองนครพนม แต่พบว่ามีการตรวจนับแล้ว หายไป จำนวน 1 ถุงน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จากทั้งหมด จำนวน 50 ถุง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยของกลางยาไอซ์ มีการตรวจยึดนำสังพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ภายหลังการสอบสวน และตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธ เดินเข้าออกในห้องเก็บของกลาง เชื่อว่าเป็นคนก่อเหตุขโมยของกลาง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบค้นบ้านพักแฟลตตำรวจ เลขที่117/66 บ้านน้อยใต้ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม พบของกลางยาไอซ์ เก็บไว้ในกระปุกพลาสติก ในห้องครัว แต่ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงว่า มีการนำไปจำหน่ายหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ของกลางยังครบ แต่ตรวจสอบปัสสาวะ พบสารเสพติด เจ้าตัวสารภาพว่าเสพ และทำไปเพราะติดยาเสพติด

อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนโดยละเอียดดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด พร้อมวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากพบเกี่ยวข้องดำเนินคดีทุกราย เบื้องต้นแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง และเสพยาเสพติด ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook