สุเทพ เผยมีการติดตาม เสธ.แดง-อริสมันต์
รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ยืนยันไม่เคยขึ้นบัญชีดำคนที่ใกล้ชิดอดีตนายกฯ แต่ยอมรับติดตามพฤติกรรมคนที่เคยมีประวัติก่อความวุ่นวายจริง ย้ำรัฐบาลไม่ได้สั่งการ แต่เจ้าหน้าที่ทำเอง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณากระทู้ถามสด เรื่อง การคุกคามเสรีภาพของประชาชน ที่ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถามนายกรัฐมนตรี สรุปว่า ข่าวการจัดทำบัญชีดำรายชื่อบุคคล 212 คน ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน โดยเฉพาะมีพระเถระผู้ใหญ่ถูกขึ้นบัญชีดำด้วย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งกรรมการสอบสวนหน่วยงานความมั่นคงที่ดำเนินการ เรื่องนี้หรือไม่ และหากพบความผิดพลาด รัฐบาลจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้อย่างไร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า จากการตรวจสอบ รัฐบาลไม่ได้สั่งให้หน่วยงานไปจัดทำบัญชีดำ 212 คน ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตามที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอ้าง ขอยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่คิดจะไปคุกคามประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ผู้อภิปรายส่งบัญชีดำดังกล่าวมาให้ โดยเฉพาะรายชื่อพระสงฆ์ที่ปรากฏอยู่ ซึ่งตนรับที่จะไปตรวจสอบพระสงฆ์ดังกล่าวว่ามีการคุกคามจริงหรือไม่ โดยจะนำข้อมูลกลับมารายงานให้ทราบ อย่างไรก็ตาม ทั้งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้ทำหนังสือชี้แจงมาแล้วว่า ไม่ได้ทำบัญชีดังกล่าว ดังนั้น สิ่งที่ต้องติดตาม คือ พวกท่านทำเองหรือเปล่า ทำที่ไหน ทำอย่างไร รัฐบาลจะพยายามหา โดยหากรู้ชัดเจนจะมาบอกให้ทราบในที่ประชุม
"จะต่อสู้กันอย่างไรก็ได้ แต่อย่าเอาการโกหกมาสู้กัน คนที่ต้องติดตามล้วนแต่เป็นคนที่อยู่ในข่ายสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง เพราะมีประวัติ และเจ้าหน้าที่ได้ดูแลอยู่ เช่น นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เนื่องจากนายอริสมันต์ไปพูดชักชวนให้คนลุกขึ้นมาเผาสถานที่ราชการ โดยได้บันทึกเทป ซึ่งมีข้อความชัดเจน เข้าข่ายผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงต้องทำ ถ้าไม่ทำจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และหากมีหลักฐานก็จะจับกุมดำเนินคดี" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพได้นำรูปนายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือ เคทอง ขึ้นแสดงต่อที่ประชุม โดยระบุว่า เป็นบุคคลซึ่งกำลังติดตามตัว โดยจะนำตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากไปตรวจค้นบ้านแล้วพบเครื่องกระสุน ทั้งนี้ นายพรวัฒน์ เคยถูกศาลปทุมธานีออกหมายจับและได้ประกันตัวไป แต่ก็ไปปลุกระดมอีก และบุคคลนี้มีบัตรประจำตัวโรงเรียนแดงทั้งแผ่นดิน ส่วน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นอีกบุคคลที่ต้องติดตาม แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้สั่งการให้ติดตาม เพราะไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่ต้องติดตามตัวบุคคลที่จะสร้างความเสียหาย ให้ประเทศชาติ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุความวุ่นวาย
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านขอให้ชี้แจงเรื่องการให้ข่าวการขนเงินเข้าประเทศผิดปกติ ในช่วงก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีคนในฝ่ายรัฐบาลคนใดไปพูดว่า เอาเงินจากต่างประเทศมาล้มคดี และขอยืนยันว่า รัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายสร้างความสมานฉันท์ รัฐบาลไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับใคร แต่การดำเนินการทั้งหมดเป็นการปฏิบัติในกรอบของกฎหมาย
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบการขนเงินเข้าประเทศผิดปกติ มีรายงานเข้ามาจริง ซึ่งขณะนี้ก็ยังตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา เพราะการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น.