"เสนาหอย" รับสุดใจหาย "วิลลี่" ขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัย เตรียมย้ายประเทศ

"เสนาหอย" รับสุดใจหาย "วิลลี่" ขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัย เตรียมย้ายประเทศ

"เสนาหอย" รับสุดใจหาย "วิลลี่" ขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัย เตรียมย้ายประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิลลี่ แมคอินทอช ควงเพื่อนซี้ เสนาหอย ประกาศเตรียมตัวย้ายประเทศ เพื่อนรักจะใจหายขนาดไหน ขณะที่ วิลลี่ ขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัยแล้ว ส่วนสร้างบ้านใหม่ยึดหลักฮวงจุ้ย 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะสร้างให้ใครอยู่? ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

จะย้ายประเทศจริงมั้ย?

วิลลี่ : ผมแค่จะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศที่อเมริกา เพราะว่ามีญาติอยู่ที่นั่น จะหาโรงเรียนอยู่ที่นั่น แล้วภรรยาก็อาจจะไปด้วย แค่นั้นเอง เรายังอยู่ที่นี่ ทำงาน และจะบินไปบ้าง 

แต่พี่ขายบ้านหมดแล้วนะ คนไม่ไปจริงๆ จะขายบ้านทำไม?

วิลลี่ : พี่มีความจำเป็นต้องขายบ้าน เพราะยุคของฮวงจุ้ยกำลังจะเปลี่ยนเป็นยุค 9 พี่ต้องทำบ้านใหม่ พี่ตัดสินใจดูว่าท้องมังกรอยู่ตรงไหน อยู่ตรงข้ามบ้านเป๊กกี้กับฐา (หัวเราะ) ก็ไปสืบหาว่าบ้านอยู่ตรงนี้ พยายามไปหาที่เพื่อฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านที่ดีได้ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ก็ไปดูด้วยกันนี่แหละ (หัวเราะ) 

บ้าน 7 ชั้นที่ทำอย่างสวยเลยที่เอกมัยขาย?

วิลลี่ : ครอบครัวเหลือเล็กแล้ว เมื่อก่อนกะอยู่ด้วยกันเยอะ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนพ่อแม่ลูก หมาอีกตัว ฉะนั้นพื้นที่ไม่ต้องใช้ใหญ่แล้ว ก็จะย้ายมาให้มันเล็กลง เพื่อดูแลง่ายหนึ่ง สองพอย้ายมาเล็กลงแล้ว ประจวบเหมาะกับฮวงจุ้ยกำลังจะเปลี่ยนยุค ทำมันร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มาทุกอย่าง จัดทุกอณู 

หอย : เอาตรงๆ ตอนเขาพูดกับผมครั้งแรก เขาโทรมาพูดอย่างเดียวเลยว่าหอย กูย้ายอยู่อเมริกานะ คำๆ นี้ต้องบอกว่าใจเต้นตุ๊บๆ ชีวิตเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราจะอยู่กันคนละครึ่ง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร 

วิลลี่ : นี่อยากเล่นละครใช่มั้ย โชว์ให้พี่บอยดูใช่มั้ย (หัวเราะ) 

หอย : วันนั้นมันพูดคำนี้จริงๆ แล้วเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ชีวิตของเรารู้สึกเลยว่าเราอยู่กันคนละครึ่งอยู่แล้ว วันนั้นพอเขาพูดแบบนั้น โดยที่ไม่พูดอะไรต่อเนื่อง เขาพูดเสร็จก็วางหู 

ความรู้สึกพี่หอยตอนนั้น?

หอย : กูจะย้ายตาม ไม่ได้แล้ว ต้องหาที่เรียนภาษาอังกฤษ กูจะย้ายตามไปที่อเมริกา เหมือนอะไรถล่มลงมา จริงเหรอวะ นี่กูต้องอยู่คนเดียวเหรอ ธรรมดาต้องเจอกันและคุยกันทุกวัน เช้านี้เมียเขาชอบโทรมาว่าเย็นๆ จะกินอะไร วิลลี่ชอบไม่สบายใจให้โทรมาถามว่าจะกินอะไร

วิลลี่ : เหมือนกันโทรคุยกับเค้กส้ม เขาโทรมาถามอะไรนะ 

หอย : วันนี้จะเอาอะไรกิน (หัวเราะ) ผมไม่รู้จะตอบเค้กส้มยังไงให้ดูอบอุ่น (หัวเราะ) 

ทำไมถึงโทรหาพี่หอยสั้นๆ แค่นั้น?

วิลลี่ :   บอกล่วงหน้าไง เพราะจริงๆ ภรรยาเป็นคนบอกว่าน่าจะให้ลูกไปเรียนเมืองนอก 

ถ้าเปิดมาแค่นั้น สนิทกันผมก็ช็อก?

วิลลี่ : เราไม่ได้คิดว่าจะแยกจากเขาหรอก คนเราเกิดมาแล้วมีเนื้องอก เราก็ต้องอยู่กับเนื้องอกไปเรื่อยๆ ถึงแม้หมอจะทักแล้วว่าผ่าออกเถอะ เราก็บอกว่าผ่าไม่ได้ ข้างในมีฟัน มีผมด้วย มันเป็นตัวแล้ว แต่ตัวแค่นี้ อยู่กับมันไปก่อน ไม่ได้คิดเลยนะว่าจะห่างกัน แต่มันมีความจำเป็น เราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเลือก ก็ประคับประคอง จะเรียนที่นี่ก็ไป แล้วเขาก็ถามว่ายูมาด้วยมั้ย หรือไปๆ มาๆ เราก็บอกว่าไป เราจะไปอยู่เยอะ เราจะเบางานลง 

หอย : เขาวางหูไป แล้วก็ยาวจนอีกวันนึง เขาเป็นคนที่ไลน์ไม่เคยตอบใคร คนไม่ต้องตกใจนะ ขนาดกูเนี่ย มันไม่เคยตอบกูเลย รุ่งขึ้นก็เลยถามว่ายังไงวะ มันก็บอกว่าจะไปแบบเดือนเว้นเดือน พาลูกไปอยู่นี่แล้วจะหยุดทำงานเดือนนึง เป็นแพลนแบบนี้ ผมกังวลมาก 

ลูกกับเมียไปที่โน่นแต่พี่ไปเดือนเดียวแล้วก็กลับ?

วิลลี่ : จริงๆ ต้องแล้วแต่เมียนะ ถ้าเมียบอกว่าอยู่นานหน่อย มันก็ต้องอยู่นานหน่อย คุณไม่เห็นโซ่ที่รัดคอผมอยู่เหรอ (หัวเราะ) 

ถ้าพี่ต้องไปตามที่เมียสั่งก็ต้องพักงานที่นี่บ้าง รอบนี้พี่หอยนั่งห่างพี่วิลลี่เพราะโกรธกันใช่มั้ย?

หอย : ทำไมช่างสังเกต 

วิลลี่ : เดี๋ยวจะดราม่านะหอย แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก (หัวเราะ) 

หอย : นี่คือการเข้าเพลง ผมบอกเลยวันนั้น ใจผมดิ่งมาก โทรไปหาฝ่ายบัญชี ว่าเคลียร์หนี้กันหมดหรือยัง (หัวเราะ) 

วิลลี่ : (หัวเราะ) กลัวหนี 

เรื่องจริงคือภรรยาพี่วิลลี่จะพาลูกไปเรียนต่อที่บอสตัน แล้วพี่ก็ต้องไปแต่ก็ยังกลับ อาจไปเดือนนึงกลับเดือนนึงหรือไปสองเดือนกลับเดือนนึง ซึ่งก็ต้องทิ้งให้พี่หอยอยู่กับแฟนที่นี่?

วิลลี่ : มีความจำเป็น จะให้เค้กส้มมาอยู่กับผม เขาก็ไม่ยอมไง ผมก็บอกว่าหอยไม่งอนใช่มั้ยถ้าลูกต้องไปอยู่เมืองนอก และผมต้องไปๆ กลับๆ เขาบอกไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวหอยก็ไปอยู่อังกฤษ ซื้อแมนยูบริหารก็ได้ 

จะไปเมื่อไหร่?

วิลลี่ : ต้องให้ภรรยาไปดูโรงเรียน ตอนแรกกะไว้ว่าสิ้นปีนี้หรือประมาณกลางปีหน้า ก็ไม่ได้รีบ ไปเรื่อยๆ ตัดสินใจว่าจะเอาแบบไหน เดี๋ยวก็จะบินไปดู จริงๆ ต้องเลือกโลเกชั่นที่เขาโอเคด้วย ผมไม่สามารถเอาภรรยาสุดที่รักของผมไปทิ้งไว้ในทุ่งได้ เราก็ต้องวางแผน พอเขาไปผมก็ต้องทำงานอยู่ สิ่งที่ต้องจัดการคือคิวงานแค่นั้นเอง ยังอยู่ไม่ไปไหน ผมแค่วางแผนปรึกษาเขา ว่าต่อจากนี้ไป เวลาซื้ออะไร เดี๋ยวนี้ต้องเปลี่ยนเครดิตการ์ดแล้วนะ เพราะต้องเก็บพ้อยท์ เพื่อแลกบิน (หัวเราะ) วางแผนไง 

ระหว่างที่พี่วิลลี่เล่า พี่หอยเศร้าหรือเปล่า?

หอย : ใจหายมากกว่า ว่าจะไม่ได้ทำงานกัน เขาก็บอกว่าไปเดือนเว้นเดือนก็ใจหายนะ เพราะถึงไม่เจอกันทุกวัน เราก็รู้ว่าเขาอยู่กับเราตลอดเวลา เวลาคุยอะไรกัน หรืออะไรกัน จะไปยังไงต่อ ธุรกิจที่ทำด้วยกันจะยังไงต่อ เขาบอกว่าเหมือนเดิม แค่เว้นว่างเท่านั้น ก็ยังสบายใจ แต่ยังใจหายอยู่ 

เขาไปอเมริกาหลายเดือน กลัวอะไรที่สุด?

หอย : กลัวไม่ได้สบตากันเวลาเจอกัน เวลาเจอกันเราจะสบตากัน ส่วนใหญ่เราสองคนไม่ค่อยได้พูดอะไรกัน เรารู้สึกด้วยมองตา เราก็ทำแบบนั้นมาตลอด ถ้าวันนึงสายตาคู่นั้นอยู่ไกล ถึงเรารู้อยู่แล้วว่าอีกเดือนเขาก็จะกลับ แต่เราก็ใจหาย 

ไม่มองหน้าพี่วิลลี่เลยเพราะอะไร?

หอย : บอกไม่ถูกนะ เราอยู่กันมานานมาก น่าจะ 30 ปีที่รู้จัก วันนึงต้องไปอยู่อีกที่นึง เรารู้สึกใจหาย เขาเป็นส่วนหนึ่ง ผมรู้สึกว่าผมนามสกุลแมคอินทอชด้วยซ้ำไป ตอนแรกเราจะเรียกคุณแม่เขาว่าน้อง เรารู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าวันนึงต้องไป เขาทำหน้าที่ของสามีที่ดี ครอบครัวที่ดี อยากให้เขาอยู่กับลูกและครอบครัวเยอะๆ เพราะฉะนั้นวิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุด 

วิลลี่ : ไปด้วยกัน 

หอย : ขออยู่แคลิฟอร์เนียได้มั้ย 

วิลลี่ : นี่ไง เรื่องมากอีก 

หอย : ใจคิดเหมือนกัน อยากไปด้วย แต่ผมไม่ถนัดเมืองนอกไง 

วิลลี่ : เมืองที่ผมไปอยู่อาจเป็นเมืองของการเรียน มันเป็นช่วงที่ยากเหมือนกันในการเปลี่ยน เหมือนเราตัดสินใจได้ แต่พอจะทำก็หวิวๆ ท้องนะ เราอยู่ที่นี่มานาน คนรอบข้างเราจะยังไง หอยจะยังไงบ้าง เพราะเราไม่เคยมีอะไรที่ไม่ได้ทำด้วยกัน มันทำด้วยกันมาตลอด ผมไม่ตอบไลน์ แต่หอยจะกระดี๊กระด๊าเวลาผมโทรหา ผมก็จะโทรอย่างเดียว (หัวเราะ) เวลาตอบไลน์ผมคิดเยอะ ก็โทรหาดีกว่า ต้องขอโทษเพื่อนๆ ในวงการทุกคน เพราะผมไปไหนมาไหน ทุกคนก็ทักเรื่องนี้ ผมเคยคิดไว้อยู่แล้ว อยากเอาหอยไปด้วยถ้าเขาอยากไปนะ จริงๆ ใจผม ผมไม่ได้บอกหอย ผมรู้ว่าคิวงานเป็นยังไง ถ้าเราจัดการทุกอย่างได้เสร็จ ก็จะบอกเขาว่าหอย จองตั๋วยัง ไปไหน ก็ไปอเมริกาไง แล้วก็ไปด้วยกัน จะมีที่ให้อยู่แล้วกลับด้วยกัน เพราะบนเครื่องจะคุยได้นานมาก เรานั่งอยู่สองคนไม่เคยหลับเลยบนเครื่อง 

หอย : เริ่มจากเมกาบางนาก่อนได้มั้ย ไม่อยากไปเมกาแล้ว อยากไปเมกาบางนา 

วิลลี่ : ผมก็ห่วงความรู้สึกของหอยนะ ปกติผู้ชายไม่พูดเรื่องแบบนี้หรอก ถ้ารายการไม่ซักก็ไม่พูดหรอก แต่พอต้องทำแล้ว หอยก็ต้องเข้าใจ 

พี่หอยไปมั้ย?

หอย : ถ้าเราจัดการอะไรเสร็จแล้วอาจไม่แน่ พาแฟนไปด้วย 

คืนเขาไปอเมริกาจะไปส่งมั้ย?

หอย : ไม่ไป ไม่ชอบบรรยากาศ ไม่เอา เขิน 

พี่ร้องแน่ พี่วิลลี่อยากให้เขาไปส่งที่สนามบินมั้ย?

วิลลี่ : ไม่เอา เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว เขินตายเลย พูดไปไม่กล้ามองหน้าหอยเลย (ดึงมากอด) อย่าโกรธกันนะ ไม่เป็นไรหรอก 

หอย : จริงๆ ตอนเขาขายบ้านเอกมัย ผมอยากซื้อ แต่ติดปัญหาอย่างเดียว ผมติดเครดิตบูโร (หัวเราะ) 

กำไรเยอะมั้ยขายที่เอกมัย?

วิลลี่ : กำไรพอได้ ผมต้องหาให้ลูกเป็นทุน ที่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ซีเรียสกับหอย เพราะเยลหลีบอกว่าไปลองเทสต์ดูก่อนสัก 6 เดือน ถ้ายังไม่ใช่ หรือที่เมืองไทยดีอยู่แล้วก็จะกลับ หรือไปปีนึงแล้วอาจจะกลับ 

ภรรยาไปก่อน พี่อยู่นี่ เขาจะไม่อยู่กับพี่ปีนึงหรือ 6 เดือนเลยเหรอ?

วิลลี่ : ใช่ พี่ต้องอยู่เมืองไทยคนเดียว เยลหลีเขาสบายใจ เพราะตอนผมหลับอยู่ นอนอ้าปาก เขาฝังจีพีเอสในฟันแล้ว เขาได้ยินทุกอย่าง พี่ตั้งใจเลยว่าพอเยลหลีไปเมืองนอกเมื่อไหร่จะไปเที่ยวฟรีบัส 

หอย : ฟรีบัสปิดไปตั้ง 15 ปีที่แล้ว ไม่ทันแล้ว 

บ้านที่อยู่ตอนนี้ขายไปหรือยัง?

วิลลี่ : มีคนจะซื้อแล้ว ตอนนี้ก็เลยไปสร้างใหม่และย้ายไปเมกาแล้ว เมกาบางนา ไปเช่าอยู่ 

ตัวเลขที่ขายบ้านหลังใหญ่ ขายได้เท่าไหร่?

วิลลี่ : 4 หมื่นกว่าล้าน 

หอย : นี่ขายโรงงานอุตสาหกรรมเหรอ 

วิลลี่ : (หัวเราะ) มันขายไปแล้วก็เอาไปเคลียร์แบงก์ มันเหลือพอประมาณ 

หอย : พอขายบ้านหลังนี้แล้วไปซื้อบ้านหลังใหม่ เหนื่อยซินแสมาก เพราะเขาจะยกที่เขาเคยทำฮวงจุ้ยทั้งหมดมาอยู่อีกหลัง ต้องให้ซินแสไปชิมดินก่อน ว่าใช่หรือเปล่า 

ดูไว้ 30 แปลง ตอนนี้ซินแสไส้ตันแล้ว?

หอย :  ลิ้นสากหมดแล้ว เขาต้องไปชิมดินก่อน นี่พูดจริงๆ 

วิลลี่ : ซินแสบอกว่าวิลลี่อยู่ติดน้ำไม่ได้ ในหมู่บ้านมีอยู่ 700 ไร่ ติดน้ำไปกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ) ก็ต้องไปหาที่ติดสนามกอล์ฟ ที่สวยๆ ติดน้ำได้ ถ้าไม่ได้เกิดปีจอก็อยู่ได้ แต่ผมอยู่ไม่ได้ 

ชิมดินเพื่ออะไร?

วิลลี่ : ซินแสอธิบายว่าชิมดูว่าความสมบูรณ์เป็นยังไง ดินฝาด ดินเปรี้ยว ดินอะไรต่ออะไร เหมาะกับดวงชะตาครอบครัวนี้มั้ย ต้องเอาพ่อแม่ลูกมารวมกัน จังหวะดีพอเข้ายุค 9 ตรุษจีนหน้า ตั้งแต่ม.ค. ไปจะเข้ายุค 9 อีก 20 ปี บ้านผมที่ทำอยู่ตรงเอกมัย มันหมดยุคพอดี ทำไว้สำหรับยุค 8 ก็เตรียมอยู่แล้ว ก็เลยขอเมียว่าเราขอทำอันนี้เล็กๆ ให้มันครบถ้วน ก็ไล่ตั้งแต่ชิมดิน ล้างที่บอกเจ้าที่ว่านี่เป็นที่ของเรานะ ขอเคลียร์พื้นที่ใครที่ลอยไปลอยมาแล้วมาอยู่อาศัยแถวนี้ มีวันลงเข็ม มีทอดแห ซึ่งเป็นศาสตร์ฮวงจุ้ย อย่างพีเคให้คิวยาก ไม่ว่างเลย พอเราบอกว่าพีเคเข้ามาหาที่บ้านหน่อย พอเขาเหยียบมาในดินของเรา ซึ่งมีแหฝังอยู่ใต้ดินแล้ว พีเคก็จะติดแห แล้วก็จะหาคิวให้เราง่าย ทำอะไรได้ง่ายขึ้น พี่ก็จะพยายามทำบ้านหลังนี้ให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้พี่ทำไม่ได้ อันนี้เลยจะทำ โดยเอาลูกเป็นที่ตั้ง แล้วทำให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เขาแข็งแรงด้วย 

แล้วหลังเก่าขาดอะไร ที่ทำไม่ได้?

วิลลี่ : ทิศที่ทำไม่ได้ พี่เปลี่ยนทางเข้าบ้านได้ แต่พี่เปลี่ยนรั้วบ้านไม่ได้ มันก็เลยกลายเป็นว่ามันก็ไม่ได้อยู่ดี ก็หาที่ใหม่เริ่มนับหนึ่ง พอพี่อยากทำ ก็เลยเอาให้สุด 

วางงบไว้เท่าไหร่?

วิลลี่ : 20 ล้าน ที่ดินพร้อมบ้านและอินทีเรียแล้วนะ ตอนนี้เหลือเสื่อกับหมอนแล้ว (หัวเราะ) 

พี่หอยกำลังสร้างเรือนหอ จริงมั้ย?

หอย : กำลังหาอยู่ 

แต่พี่เคยพูดว่าชีวิตนี้พี่จะไม่แต่งงาน แต่การสร้างเรือนหอคือพี่ต้องแต่งงานนะ?

หอย : ผมบอกตรงไหนว่าแต่งงาน ผมมีเรือนหอได้โดยไม่แต่งงานได้เปล่า กูไม่แต่ง แต่กูอยากมีเรือนหอ 

วิลลี่ : ที่มึงเอาเงินไปดาวน์ที่หมู่บ้านเดียวกับกู แปลว่าอะไร  ที่มาคุยวันนี้ พูดตรงๆ คือเราไปก็จะได้ฝากบ้านไว้กับมัน แต่ไม่ มันต้องบังคับให้พูดออกทีวีด้วยนะว่าเดี๋ยวไปด้วยกัน แล้วบ้านใครจะดู มึงจะทิ้งส้มให้เฝ้าบ้าน 2 หลังเหรอ 

หอย : นี่มึงเห็นกูเป็นนิโคลัสหรือยังไง จริงๆ แล้วก็วางๆ ไว้ 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ "เสนาหอย" รับสุดใจหาย "วิลลี่" ขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัย เตรียมย้ายประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook