หลานชายหน้าคล้ายเพื่อนบ้าน ปู่แอบตรวจ DNA ผลเป็นหลานแท้ๆ แต่ลูกชายยังหย่าสะใภ้
ปู่สงสัยสะใภ้มีชู้ ยืนกรานที่จะพาหลานชายไปตรวจดีเอ็นเอ เมื่อเห็นว่ายิ่งโตยิ่งดูเหมือนเพื่อนบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ผลออกมาปรากฏว่าเป็นหลานชายแท้ๆ ของตัวเอง แต่ตอนจบลูกชายหย่าสะใภ้อยู่ดี ตัวการสำคัญคือ "พี่สาวสามี"
นางโฮ ผู้หญิงจากมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ตัดสินใจออกโทรทัศน์เพื่อเล่าเรื่องราวหลังจากแต่งงานเข้าบ้านสามี โดยบอกว่าเธอมักไม่ได้รับความเป็นมิตรจากครอบครัวสามี โดยเฉพาะพี่สะใภ้ที่มักจะหาสารพัดวิธีมาสร้างปัญหาให้อยู่เรื่อยๆ เพียงเพราะไม่ชอบที่น้องชายคว้าหญิงสาวต่างเมืองมาเป็นภรรยา ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตที่บ้านสามีไม่ใช่เรื่องง่าย
กระทั่งวันหนึ่ง เตียวเปา เด็กชายวัย 4 ขวบ ลูกชายของนางโฮและสามี พูดขึ้นมาระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน "แม่ชอบพาผู้ชายกลับบ้านตอนเที่ยง" คำพูดที่ไม่มีที่มาที่ไปของเด็กชายทำให้เธอโกรธ ครอบครัวเล็กๆ ทั้งครอบครัวเดิมสงบสุข แต่ตอนนี้พายุกำลังถาโถมเข้ามา พี่สาวของสามีพอได้ยินหลานชายพูดคำนี้ก็โกรธมาก และตะโกนใส่หน้าสามีและลูกของเธอว่า “ฉันบอกแกมานานแล้วว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ.. แม่ของเธอเป็นแม่ที่แย่จริงๆ”
ในส่วนของพ่อสามี เดิมทีคนเป็นปู่รักหลานชายของเขามาก เพราะเป็นหลานชายคนโตของครอบครัว แต่เมื่อเขาเห็นว่ายิ่งหลานชายโตขึ้นใบหน้าก็ยิ่งดูไม่เหมือนลูกชาย และเอ่ยปากถามอย่างเย็นชาว่า "เตียวเปาดูเหมือนเพื่อนบ้านของเราว่าไหม?" ทันทีที่พูดจบทั้งครอบครัวก็หันมาสนใจลูกชายของเธอ เมื่อเห็นทุกคนมองเขาเด็กชายก็ยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่เข้าใจความคิดของผู้ใหญ่ ในตอนนั้นแม่สามีของเธอเพิ่งออกมาจากครัวแล้วพูดว่า "ฉันรู้สึกว่าเตียวเปาคล้ายกับลูกชายที่ยังไม่ได้แต่งงานของผู้เฒ่าข้างบ้าน"
กระทั่งบ่ายวันหนึ่ง เมื่อนางโฮไปรับลูกชายที่โรงเรียน ครูกลับแจ้งว่าปู่ของเตียวเปารับเด็กชายไปนานแล้ว เธอรีบโทรหาพ่อตาและก็โล่งอกเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าพาหลานชายไปกินข้าวเที่ยง อย่างไรก็ดี เมื่อลูกชายกลับมาบ้านกลับบอกว่า ปู่และป้าพาตนเองและพ่อไปตรวจ DNA เมื่อรู้ว่าพ่อสามียืนกรานที่จะพาหลานชายและลูกชายของเขาไปตรวจความสัมพันธ์ทางสายเลือด เพื่อยืนยันว่าเตียวเปาเป็นสมาชิกในครอบครัวของเขาหรือไม่ นางโฮก็เลือกที่จะนิ่งเงียบไว้ก่อน
และไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ได้รับผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ ทั้งครอบครัวของสามีมารวมตัวกันเพื่อดูผลลัพธ์ ซึ่งปรากฎว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันจริงๆ พวกเขามีสายเลือดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวสามีของเธอยังคงสงสัยว่านางโฮ เนื่องจากเธอมักจะหายตัวไปในช่วงสุดสัปดาห์ พาชายแปลกหน้ากลับบ้าน และไม่ยอมให้ลูกชายเข้าใกล้และพูดคุยกับบุคคลนั้น
พี่สาวของสามีแอบสะกดรอยตามนางโฮ โดยเห็นว่าเธอนั่งรถบัสไปลงป้ายรถเมล์หนึ่ง ก่อนที่จะพบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง และพากันขึ้นรถบัสไปลงที่อีกป้ายคนเมล์ เข้าไปในย่านที่เต็มไปด้วยบ้านเช่า ก่อนไขกุญแจเปิดประตูหายเข้าไปในบ้านหนึ่งด้วยกัน แม้ว่าพี่สามีจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าคนทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่หลังจากเห็นเหตุการณ์นี้ก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าภรรยาของน้องชายแอบออกเดทกับ "คนรัก" จึงรีบวิ่งกลับบ้านเพื่อบอกทุกสิ่งที่เธอเห็น ต่อมาเมื่อนางโฮกลับมาถึงบ้าน เธอก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นสามีอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์โกรธ และมีเอกสารข้อตกลงการหย่าวางอยู่บนโต๊ะ แต่แทนที่เธอจะพยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางโฮกลับยอมรับการหย่าร้าง
ก่อนที่ความจริงจะปรากฎว่าหลังจากนางโฮแต่งงานเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของสามี เธอต้องพบเจอกับความโดดเดี่ยวมากมาย ตอนตั้งครรภ์ไม่มีญาติคอยช่วยดูแลดูแล และหลังจากให้กำเนิดบุตรชายแก่ครอบครัวได้สำเร็จ ครอบครัวของสามีก็ทำเหมือนเธอไร้ตัวตน ในเวลาเดียวกัน อดีตเพื่อนร่วมงานของเธอล้มป่วยและไม่มีใครดูแล เธอจึงมักจะมาช่วยเขาทำความสะอาดบ้านและทำอาหารในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะคนผู้นี้คือคนที่เธอรู้สึกขอบคุณ ที่เคยช่วยเหลือเธอทั้งในด้านงานและชีวิต เป็นเพียงการตอบแทนความกตัญญูตามปกติ โดยไม่มีความสัมพันธ์อื่นใดเข้ามาเกี่ยวข้อง