สุเทพ สั่งตรวจค้นยานพาหนะเดินทางเข้า กทม.

สุเทพ สั่งตรวจค้นยานพาหนะเดินทางเข้า กทม.

สุเทพ สั่งตรวจค้นยานพาหนะเดินทางเข้า กทม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุเทพ สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้ามาก่อเหตุ เผยทราบข่าวทุ่มเงินวันละ 70-80 ล้านหนุนการชุมนุม แต่ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงทุนตะวันออกกลาง เตรียมเดินสายชี้แจงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไม่ให้ร่วมเคลื่อนไหวการเมือง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการติดตามความมั่นคง (คตม.) เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า เป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม และได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการใช้รถปิกอัพหรือรถกระบะเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากเพื่อสร้างความ เดือดร้อนในกรุงเทพมหานคร จึงต้องการขอร้องว่าหากนำรถยนต์ของตัวเองมาจะมีผลกระทบต่อระบบการจราจร จึงอยากให้เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางหรือรถไฟจะสะดวกที่สุด หากนำรถส่วนตัวมาจริง ขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จอดรถตามจุดที่เตรียมไว้ให้ตามชานเมือง และจะประสานกระทรวงคมนาคมหารถมาบริการผู้ชุมนุม

"ถ้ายังมีการนำรถเข้ามาจอดขวางการจราจร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายระดมเตรียมรถยกเพื่อที่จะยกรถเหล่านี้ออกไป จากผิวจราจร ซึ่งอาจทำให้รถบุบสลาย ต้องเสียหาย และบริษัทประกันภัยอาจไม่จ่ายค่าซ่อม เจ้าของรถจะเดือดร้อน นอกจากนี้ ยังขอให้กระทรวงมหาดไทยตรวจค้นยานพาหนะที่สัญจรไป-มา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม และตรวจค้นว่าทะเบียนรถที่มาถูกต้องหรือไม่ โดยจะตรวจบัตรประชาชน อาวุธ และทะเบียนรถ เพื่อป้องกันการนำมาก่อเหตุ ขอยืนยันว่าไม่มีการสั่งห้ามรถบัสโดยสารวิ่งรับคนเข้ากรุงเทพมหานคร ส่วนรถอีแต๋นห้ามวิ่งบนถนนหลวงเด็ดขาดและจะออกจากจังหวัดไม่ได้เพราะอันตราย สำหรับรถบัสรถประจำทางก็มีอยู่ปกติ รถไฟก็มาได้แถมรถไฟก็ฟรีด้วย" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวถึงการใช้กฎหมายพิเศษในการดูแลการชุมนุมว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ แต่จะตัดสินใจตามสถานการณ์ ถ้าเห็นว่าสถานการณ์หนักขึ้นและสุ่มเสี่ยง ก็ต้องตัดสินใจใช้กฎหมายพิเศษ ขณะเดียวกันหากแกนนำหรือคนที่มีพฤติกรรมข่มขู่ จะขออำนาจศาลออกหมายจับทันที รวมถึงคนที่เคยอยู่ระหว่างการประกันตัว ก็จะขออำนาจศาลถอนประกัน

สำหรับกรณีที่นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประเมินว่า ในวันที่ 14 มีนาคมนี้จะมีผู้มาชุมนุม 1 ล้านคน นายสุเทพ กล่าวว่า การมาชุมนุมที่นัดกันไม่ได้มาชุมนุมเพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่ดูเหมือนจะมีความพยายามที่จะมาสร้างความปั่นป่วน ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จึงขอให้ประชาชนใคร่ครวญ และส่วนตัวไม่สบายใจ เพราะมีข่าวแกนนำประกาศว่าสู้เต็มที่ จึงรู้สึกว่าคนเหล่านี้เอาประเทศมาเป็นเดิมพัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะเอาประเทศไปเดิมพันเพื่อชีวิตใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่ม ใดกลุ่มหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเคลื่อนไหวเส้นทางการเงินจากประเทศแถบตะวันออกกลางมีความเกี่ยวพันกับ การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นรายงานของการนำเงินเข้ามา แต่ยังไม่มีหลักฐานที่จะไปโยงกับเรื่องของการชุมนุม แต่พอทราบข่าวกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีการเคลื่อนไหวระดมคนเข้ามาในกรุงเทพฯ และมีการระบุต้องใช้เงินถึงวันละ 70-80 ล้านบาทในการบริหารจัดการชุมนุม

ต่อข้อถามว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่า ในวันชุมนุมใหญ่จะมีพระสงฆ์ 20,000 รูปมาร่วมชุมนุมด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งใจว่าจะไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับพระเถระผู้ใหญ่ เพราะเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ก็เอามาอภิปรายในสภาฯ กล่าวหาว่ารัฐบาลไปขึ้นบัญชีดำพระผู้ใหญ่ 11 รูป ซึ่งรัฐบาลไม่เคยมีความคิดที่จะดำเนินการลักษณะนั้นอย่างแน่นอน

"อยากกราบขอความกรุณาพระคุณเจ้าว่าเรื่องของการชุมนุมในทางการเมือง คงไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่ใช่พระ ถ้าใครจะไปนิมนต์มา จะด้วยเหตุผลอะไร ก็ขอความกรุณาพระคุณเจ้าอย่าได้มาร่วมในกระบวนการนี้โดยเด็ดขาด" นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า จะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ นายสุเทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังหน้ามืด การหารือคงทำได้ยาก แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยท้าทาย เพียงแต่เตรียมการไว้เพื่อความไม่ประมาท

ต่อข้อถามว่า ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่เดินสายขยายฐานเสียงมวลชนคนเสื้อแดงไปยังกลุ่มชาวเขาที่ จ.เชียงใหม่ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ติดตาม เพราะหวังว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่ เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีคงคิดอะไรได้ และคงไม่ทำอะไรที่จะเป็นปัญหากับบ้านเมือง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook