เมียขนหัวลุก ผัวเพิ่งตายหมาดๆ เฮี้ยนเคาะประตูทุกคืน ใจกล้าเช็กวงจรปิดถึงรู้ คนน่ากลัวกว่าผี!
ย้ายหลับบ้านเก่าหลังสามีเสียชีวิต ภรรยาหลอนได้ยินเสียงเคาะประตูทุกคืน ขนลุกจนนอนไม่หลับ ตัดสินใจติดกล้องหน้าบ้าน พิสูจน์ชัดๆ คนแกล้งหรือผีตามมา
คุณหลี่ หญิงชาวจีนที่เพิ่งสูญเสียสามี กลัวว่าการเห็นของเก่าของสามีจะทำให้เธอคิดถึงเขา จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์อื่น อย่างไรก็ดี ทุกคืนเวลา 01.00-02.00 น. เธอจะได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงเคาะประตู และเสียงรถเข็นเด็ก เสียงเหล่านี้ดังก้องอยู่ในหูของเธอ และทำให้เธอนอนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
คุณหลี่เล่าว่า หลังเทศกาลเต็ตปี 2022 สามีของเธอก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลง หลังจากจัดงานศพแล้วลูกชายเสนอว่าจะพาแม่ไปอาศัยอยู่ด้วย แต่เพราะเธอกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของลูก โดยเฉพาะลูกสะใภ้ที่อาจไม่สะดวกใจ เธอจึงปฏิเสธไป อย่างไรก็ดี เมื่อต้องกลับมาเผชิญหน้ากับห้องว่างเปล่าที่มีภาพของสามีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เธอก็รู้สึกหมดหนทางจนต้องตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านเก่า ก่อนซึ่งครอบครัวของเธอปล่อยทิ้งไว้เมื่อหลายปี
เมื่อเธอไปถึงบ้านหลังเก่าก็พบว่าโคลงกลอนที่เคยติดไว้บนผนังนั้นหลุดไปหมดแล้ว แม่จะสงสัยเล็กๆ แต่คิดว่าเป็นเพราะแถวนี้มีเด็กๆ วัยซุกซน จึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก กระทั่งตกดึกมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ขณะที่เธอกำลังงีบหลับ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูปลุกให้ตื่น ในเวลานั้นหัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วและมือสั่นเล็กน้อย ถึงกระนั้นก็ยังคงเดินไปที่ประตูและมองออกไปด้านนอก แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ หรือใครเลย เมื่อคิดว่ามันอาจเป็นเพียงเสียงที่ดังมาจากระยะไกล เธอจึงตัดสินใจไปนอนต่อ แต่ก็นอนไม่หลับเลย
คืนถัดมา เธอยังคงได้ยินเสียงเดิมในเวลาเดียวกัน แม้ว่าเธอจะกลัวมาก แต่เธอก็ยังเขยิบเข้าใกล้ประตูมากกว่าเดิม ต่อให้จะรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย และหัวใจของก็เต้นเร็วด้วยความหวาดกลัว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องกลอนหน้าบ้านที่ถูกทำให้หลุดไป เพราะหลังจากอาศัยอยู่ที่นี่มาเป็นวันๆ ก็ไม่เคยเห็นเด็กสักคนเลย และเริ่มคิดว่าอาจมีคนจงใจกลั่นแกล้งเธอ ทันใดนั้นภาพของ "สามีผู้ล่วงลับ" ก็ปรากฏขึ้นในใจ และทั้งคืนนั้นเธอก็นอนไม่หลับอีกเลย
เธอตัดสินใจลงไปชั้นล่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ ในเวลานี้บังเอิญเจอกับเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ชั้นล่าง เข้ามาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเสียงแปลกๆ ที่ได้ยินเมื่อคืนก่อน ซึ่งเสียงที่เพื่อนบ้านได้ยินก็เป็นสิ่งที่นางหลี่ได้ยินทุกคืนเช่นกัน แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ในฐานะนักวัตถุนิยมเธอคิดว่าจะต้องมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ ที่ไม่ใช่เรื่องเรื่องราวเหนือธรรมชาติ บางทีอาจไม่ก็มีคนตัวเป็นๆ ที่จงใจแกล้งเธอ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจวางกล้องวงจรปิดไว้เงียบๆ เพื่อบันทึกภาพที่ประตูบ้านของตัวเอง
คืนนั้น เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง แต่คืนนี้เธอเลิกที่จะเพิกเฉย ไม่แม้แต่หันไปมองที่ประตู รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นจึงเปิดกล้องเพื่อตรวจสอบ และต้องตกใจเมื่อค้นพบความจริง คนที่แกล้งทำเสียงต่างๆ ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนบ้านที่เธอพบเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อเธอเข้าไปพูดคุยเรื่องนี้อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันใหญ่โต ท้ายที่สุดแม้ภาพหลักฐานจะทำให้เพื่อนบ้านก็ไม่สามารถปฏิเสธการกระทำของตนเองได้ แต่ก็ยังโทษว่าเป็นเพราะบ้านของคุณหลี่ก่อความวุ่นวาย จึงทำเช่นนั้นเพื่อตอบโต้
เมื่อได้ยินคำแก้ตัวเช่นนี้คุณหลี่ก็เสียใจมาก เธออาศัยอยู่คนเดียว ไม่มีญาติ และไม่เคยส่งเสียงดังมากเกินไป ในขณะที่ชั้นที่เธออาศัยอยู่มีอีก 3 ครัวเรือน ทำไมเพื่อนบ้านถึงยืนกรานที่จะตำหนิเธอ? ด้วยความโกรธมากจึงตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้ให้ตำรวจทราบ เมื่อเผชิญหน้ากับตำรวจเพื่อนบ้านชั้นล่างต้องยอมสารภาพความจริง ปรากฎว่าเขาเป็นโรคเกลียดเสียง (Misophonia) เป็นอาการทางจิตรูปแบบหนึ่ง แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ ก็ทำให้เขานอนไม่หลับได้ ดังนั้นเมื่อคุณหลี่ย้ายเข้ามาที่นี่ จึงวางแผนจะข่มขู่เพื่อที่ให้เธอกลัวและย้ายออกไป
หลังจากรู้ตัวว่าทำผิดเพื่อนบ้านก็ขอโทษคุณหลี่ และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ในขณะที่คุณหลี่เมื่อเห็นถึงความจริงใจของเพื่อนบ้าน ก็ตัดสินใจปล่อยวางเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง จนกลายเป็นเพื่อนบ้านที่เห็นอกเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกัน