จัดพิธีไว้อาลัยศพ 8 แรงงานไทยในอิสราเอล ก่อนส่งร่างกลับถึงไทยวันนี้
กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ภาพการจัดพิธีไว้อาลัยและส่งศพของพี่น้องแรงงานไทย 8 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามในอิสราเอลกลับประเทศไทย บริเวณลานบินของท่าอากาศยานเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ
โดยพิธีจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) เวลา 15.30 น. (เวลาท้องถิ่นของอิสราเอล) โดยมีผู้แทนระดับสูงทั้งฝ่ายประเทศไทย และ ฝ่ายอิสราเอล เข้าร่วมพิธีด้วย
น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตฯ ได้วางพวงหรีดเพื่อทำความเคารพศพ หลังจากนั้นผู้ร่วมพิธีได้ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย
โดยนาย Michael Ronen อธิบดีกรมเอเชียและแปซิฟิก ได้เป็นผู้แทนฝ่ายอิสราเอลกล่าวแสดงความเสียใจ โดยกล่าวว่า ตนได้เป็นผู้แทนในการกล่าวในพิธีการต่าง ๆ มากมาย แต่การเป็นผู้แทนของอิสราเอลในวันนี้เป็นการกล่าวด้วยความเศร้าสลด ขอแสดงความเสียใจในนามของทางการอิราเอลต่อการสูญเสียชีวิตของแรงงานไทยในครั้งนี้ ตนตระหนักดีว่า แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในอิสราเอลเพื่อส่งเงินเลี้ยงดูครอบครัวในประเทศไทย และแรงงานไทยมีส่วนสำคัญต่อภาคเกษตรของอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง พร้อมขอให้เอกอัครราชทูตฯ แจ้งต่อญาติของผู้เสียชีวิตว่า รัฐบาลอิสราเอลขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียครั้งนี้ พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลอิสราเอลจะดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป
เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาเข้าร่วมพิธี พร้อมกล่าวด้วยว่า สงครามครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อคนไทยอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ไทยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งครั้งนี้ ทั้งนี้ หวังว่าสงครามจะจบโดยเร็วเพื่อมิให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
สำหรับร่างของแรงงานไทย ที่เสียชีวิต จำนวน 8 ราย จะถูกส่งกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 08.50 น. ก่อนจะถูกเคลื่อนย้ายส่งกลับภูมิลำเนา เพื่อให้ครอบครัวประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
โดยศพแรงงานไทยที่เสียชีวิต ทั้ง 8 ราย ที่ถูกส่งกลับมาเป็นกลุ่มแรก ประกอบด้วย นายพงษธร ขุนศรี ชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา นายพิชิต นาจันทร์ ชาวจังหวัดขอนแก่น นายชัยรัตน์ สานุสันต์ (ยังไม่ทราบ จังหวัด) นายอานันต์ เพชรแก้ว ชาวอำเภอจตุรัส จังหวัดชัยภูมิ นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ ชาวอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
นายอนุชา โสภากุล ชาวอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ ชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น และ นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ (ยังไม่ทราบจังหวัด)
โดยทั้งหมด เป็นผู้เสียชีวิตในวันแรกของการโจมตี แต่จนถึงตอนนี้ แรงงานไทยสูญเสียชีวิต จากเหตุสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาส กับ อิสราเอล แล้ว 30 คน ซึ่งทุกศพ จะต้องได้รับการตรวจพิสูจน์ ยืนยันอัตลักษณ์ จากทางการอิสราเอลก่อน จึงจะส่งกลับไทยได้ เพราะว่าทางการอิสราเอล มีเงินชดเชยให้กับญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมายทุกคน
ส่วนเงินเยียวยาที่ทางอิสราเอลมอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จะมีเงินช่วยเหลือ 80,000 บาท เป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 40,000 บาท ช่วยค่าทำศพอีก 40,000 บาท นอกจากนี้จะให้เงินช่วยเหลือครอบครัว 36,000 บาททุกเดือน กรณีเป็นภรรยาก็จะให้เงินดังกล่าวจนกว่าจะแต่งงานใหม่ ส่วนลูกจะได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 6,000-12,000 บาท จนกว่าจะอายุครบ 18 ปี
ส่วนการอพยพแรงงานไทยจากอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.-19 ต.ค. รวมแล้วทั้งหมด 9 เที่ยวบิน และในวันนี้ 20 ตุลาคม จะมีเดินทางมาอีก 2 เที่ยวบิน คือ 1. TG8951 ถึงประเทศไทย ช่วง 04.30 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 280 คน และ 2. LY083 คาดว่าจะถึงประเทศไทย เวลา 08.50 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 266 คน โดยเที่ยวบินนี้ จะมีร่างผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ราย ร่วมเดินทางมาด้วย