"เอ้ ชุติมา" สวนกลับเกรียนคีย์บอร์ด โดนทักขอมีอะไรด้วยกลางโซเซียล
สวยแซ่บในวัยใกล้เลข 6 แต่ใครจะไปเชื่อว่าระดับตัวแม่อย่าง เอ้ ชุติมา ไม่ว่าจะผ่านมากี่มรสุมเจ้าตัวก็สามารถฝ่ามาได้แบบสวยๆ ล่าสุดเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 โดนเกรียนคีย์บอร์ดคอมเมนต์ดูถูก ทักขอมีอะไรด้วยกลางโซเซียล งานนี้เจอตัวแม่ตอกกลับเดือด รวมไปถึงประสบการณ์ที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต หนึ่งวันพันเหตุการณ์ ทั้งต้องหนีตาย เกือบเจอผี หวิดไฟดูด รวมไปถึงโดนมิจฉาชีพขโมยแบรนด์เนมกลางเมืองอิตาลี
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ดีเรื่องราวเป็นยังไง ?
“ไปอิตาลีมา 10 กว่าวัน และเวลาไปซื้อของแบรนด์เนม เราก็จะใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง ทั้งทริปมี 42 คน เก็บกระเป๋าเดินทางไว้ใต้ท้องรถปกติ แต่ละคนก็ล็อครหัสกระเป๋าด้วย ตอนที่เกิดเหตุเรายังไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่ช้อปปิ้ง แต่เราเป็นคนเห่อของใหม่ เราไม่ค่อยซื้อไง ซื้อทีก็จะเอามาห้อยคอ (หัวเราะ) ของเราหายแค่แว่นตา
ซึ่งเราโดนกรีดกระเป๋าเดินทาง ที่เก็บอยู่ใต้ท้องรถ แรกๆ ไม่รู้ตัว แต่มารู้เพราะน้องคนนึงที่ซื้อใบละ 3.8 แสน และทาง ตม. ตรงโน้น ขอดูว่าสินค้าเป็นอะไร พอจะเปิดดู กระเป๋าของน้องถูกหยอดกาวเอาไว้ กรีดเสร็จหยดให้เลย และถ้าจะเปิดก็ต้องใช้มีดกรีดซิป ทุกคนก็โดนกันทุกคน มารู้วันสุดท้ายตอนเครื่องจะขึ้นแล้ว เราไม่สามารถตามอะไรได้เลย แจ้งความที่ ตม. ที่อิตาลี มีน้องผู้เสียหาย 8-9 คน รวมๆ เป็นล้าน บางคนก็ร้องไห้เลย”
พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราพุ่งเป้าไปที่คนขับรถเลย ?
“ใช่ คือคนขับรถที่สงสัย เขาเป็นคนอิตาลี เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเปิดปิดรถทัวร์ได้ และใกล้ๆ วันสุดท้ายจะมีเพื่อนเขาช่วยขนกระเป๋า วันแรกๆ ไม่มี และวัดสุดท้ายก็เร่งให้เราลงจากรถบัสเร็วๆ เพราะอ้างว่าจอดนาน ตำรวจจะจับ เราก็ว่าแปลกๆ เรายังพูดกับลูกสาวว่าอิคนขับรถใจดีเนอะ ช่วยเหลือด้วย วันจะกลับใจดีขึ้นมาทันที แถมยังให้ทิปด้วย ยังไปร้องเพลงกับเขาด้วย คือสนุกแต่ทุกข์สงัด
ซึ่งถามว่าตามไหม ก็แจ้งความทั้งที่ ตม.อิตาลี และ ตม.ที่ไทยด้วย ตอนนี้ บ.ทัวร์ ก็ตามตัวคนขับคนนั้นเจอแล้ว เพียงหลักฐานเราอ่อน ของทั้งหมดไม่ได้อยู่กับเขา ตำรวจอิตาลีก็กำลังตามกล้องวงจรปิดว่าเขาไปตรงไหนบ้าง เขาอ้างว่าเขาไม่รู้เรื่องเลย เขาก็บอกว่าเขาโดนงัดเหมือนกัน คนขับจะกินนอนในรถ และบริษัททัวร์ที่ไทย เขารับผิดชอบ 50% ซึ่งจริงๆ เขาไม่ต้องทำก็ได้ แต่เขายังมีน้ำใจ และถ้าทางอิตาลีตามของคืนมาได้ เขาก็ไม่เอาส่วน 50% ที่เขาจ่ายมาให้แล้ว ไม่เอาคืนด้วย”
ถ้าเราจะไปเที่ยวอิตาลี เราจะไว้ใจอะไรได้ ?
“คือไปอิตาลีมา 3 รอบแล้ว เคยไปและโดนขโมยกล้องถ่ายวีดีโอไป เราก็ระวังแต่ข้างนอก กระเป๋าเราก็เอามาไว้หน้าท้องหมดเลย กลายเป็นคนใกล้ตัวที่เราสงสัยคือคนขับรถทัวร์ ซึ่งเขาไม่ยอมรับเพราะหลักฐานมันอ่อน”
จิตใจของผู้ร่วมทริป ?
“ตอนแรกๆ ร้องไห้กันเลย ตอนไปสดใสมาก ตอนกลับคือหดหู่มาก นั่งร้องไห้ กลุ่มเราไม่ได้มีคนผิด ผิดที่คนขับกับทีมงานคนขับ คือถ้าคุณจะแถบยุโรป ต้องระวังเรื่องกระเป๋า ถ้าจะซื้อของแบรนด์เนมหิ้วติดคอไปเลยค่ะ ต้องดูแลตัวเอง เป็นอุทาหรณ์ ซึ่งตำรวจที่นั่นเขาเต็มที่กับเรามาก แต่พวกเราทำใจไว้แล้วว่า 70% เราจะไม่ได้อะไรคืน แต่เราก็ยังกล้าไปอิตาลีอยู่นะ มันเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมาก มีสถาปัตยกรรมดีมาก การสร้างเมืองแบบโรมัน สวยมาก”
เรื่องไฟไหม้ที่เจอล่ะ ?
“หนึ่งวันพันเหตุการณ์ที่อิตาลีค่ะ กำลังกินข้าวอยู่ และได้ยินเสียงเตือนสัญญาณ หนีไปทีละห้อง ไฟลัดวงจร ครั้งแรกคิดว่าซ้อม แต่พอได้กลิ่นไหม้แล้ว ฉันเครียดแล้ว ฉันวิ่งก่อน ก็เลยออกไปหาอะไรกินริมถนนดีกว่า และกลับมานอนที่โรงแรม ที่ไฟไหม้”
และน้ำท่วมห้องล่ะ ?
“พวกแกรู้ได้ไง ฉันกลัวความแคบ ฉันเลยเปิดประตูที่เขาเอาไว้กั้นไม่ให้น้ำออกไป คือถ้าปิดแล้วหายใจไม่ออก เลยเปิดเอาไว้ เหมือนโดนขังในลิฟท์ น้ำก็เลยไหลออกมาข้างนอก และอีท่อน้ำดันตัน ซึ่งฉันไม่รู้ตัวว่าน้ำมันไหล อาบไป 3 ชม. พอออกมา น้ำมันท่วมไปถึงเตียง ท่วมบนพรม น้ำท่วมห้องค่ะ ท่วมถึงตาตุ่ม ฉันวิดน้ำเอง และรถทัวร์รอฉันคนเดียว แต่ไม่รู้เขาคิดค่าใช้จ่ายไหม และท่อที่มันตัน ฉันก็เอาไม้ไปเขี่ย ดันเหม็นตีขึ้นจมูก”
ยังไม่หมด เกือบตกเครื่อง ?
“ที่บ้านเรียกว่าตกไฟล์ทไปแล้ว ตอนไปเราก็อยากจะเอาชุดสวยๆ ไป แต่งถ่ายรูปให้แฟนคลับดู แต่พอน้ำหนักมันเกินต้องเอาเฟอร์ออก เอาโน้นนี่นั่นออก สรุปลูกทัวร์ไปรอเข้าเอ็กซเรย์แล้ว ฉันอยู่กับลูกสาว ก็เลยซื้อตั๋วใหม่ จาก 6 โมง รอบินอีกทีตี 2 ตั๋วใหม่ก็ราคาบาดเจ็บสาหัสอยู่นะ 2 คนแม่ลูกก็หลักแสน จ่ายค่าน้ำหนักเพิ่ม 7 หมื่นไปอีก ฉันภาวนาสวดมนต์ นะโมให้ถึงปลายทาง”
เจอผีที่โรงแรม ?
“เขาเลือก รร. 5 ดาว มีอยู่ที่นึงอยู่ที่วาติกัน เป็นโรงแรมที่ต้องพัก 2 วัน ฉันเริ่มแหละ เป็นโรงแรมอายุหลายร้อยปี และมีคนใส่ชุดเหมือนแม่ชี พูดลอยๆ เข้าไปข้างใน เขามีไม้กางเขนห้อยคอ และห้องเข้าไป เหมือนแมวดิ้นตาย และหัวเตียงฉันมีรูปพระเยซูอยู่ข้างบน มียุงด้วย บรรยากาศเหมือนแวมไพร์กำลังจะมา เงียบสงบมาก ทุกอย่างมันเก่ามาก พอลูกทัวร์บ่น ว่าย้ายไหม จากนั้นคนที่พาเราไป คือย้ายทันทีตอนนั้นเลย ทั้งคณะกลัวมาก”
ทำไมหนุ่มต่างชาติมารุมขอถ่ายรูปด้วย จนคลิปนั้นกลายเป็นไวรัล ?
“ใช่ๆ ใส่ลุคสีเหลือง หนุ่มๆ มารุม ต่างชาติอายุ 16 มาขอถ่ายรูป มาบอกว่ายูสวยมาก มาคุยกับเรา ถามว่าเราเป็นใคร ครูที่พาเด็กๆ เหล่านี้มา มาถามว่าเราเป็นใคร ไกด์ก็อธิบายว่าเราเป็นดาราและเป็นนางงามที่ประเทศไทย รุมชุติมา กลิ่นเด็กมันหอมหวานมาก (หัวเราะ) เขานึกว่าฉันเป็นฟิลิปปินส์ อย่างงี้ฉันก็ว้าวุ่นนะซิ เพราะเมื่อก่อนก็สายฝอ มาขอแต่งงานด้วยนะ บินจากอเมริกามาคุกเข่าขอแต่งงานด้วย
เราก็ปฏิเสธเขาไปก่อน เพราะเราก็ได้หมด ถ้าคนๆ นั้น เขาเป็นคนดี ไม่ใช่จะมาให้เราเลี้ยง ฉันเหนื่อย (ถ้าเป็นคนมีอายุ มาขอเลี้ยงล่ะ?) อายุเยอะเหรอ แต่ไม่เคยลองคบรุ่นใหญ่ แต่ตอนคบ เขาชอบมาตีกรอบไง เราไม่ใช่คนเรียบร้อย สักพักเขาคงไม่ไหว แต่ถ้าเราคบใคร เราชอบอ้อน จะเปลี่ยนจากเสือเป็นแมว ขาดคนอ้อนมาปีกว่าแล้ว (หัวเราะ)”
มีคอมเมนต์แย่ๆ จนเดือดมาก ?
“หลายคอมเมนต์ก็หยาบคาย แต่คนนี้หยาบคายสุด พิมพ์มาว่าสวยแบบนี้ อยากลองดารา เราก็ตอบกลับไปว่าทำไมพูดจาแบบนี้ เราไม่ชอบคนที่ดูถูกผู้หญิง เรารู้สึกว่าและฉันอยากลองแกไหม เราเป็นคนตรงๆ อย่ามาดูถูก ไม่ใช่ว่าเราต้องลดคุณค่าตัวเองเพื่อจะมีผู้ให้เร็วที่สุด มันไม่ใช่ไง การดูถูกเพศแม่ มันไม่ถูก เราพิมพ์โต้ตอบกลับไป เราไม่ได้เสียใจ เราชินกับเรื่องพวกนี้มากๆ
อยากจะบอกไปว่าอย่าไปใส่ใจคอมเมนต์แย่ๆ มันจะทำให้เราเป็นซึมเศร้า พวกนี้เป็นพวกสมองหมาปัญญาควาย มีหูเอาไว้คั่นสมองเท่านั้น รอให้คนอื่นจูงจมูก ด่ามาฉันก็ฟ้องกลับ ฉันโรคจิตกว่า อันไหนบั่นทอนเราก็บล็อคมันไป บอกไอ้โรจิตที่ชอบด่าดารา คุณไม่รู้ว่าเขาเป็นแบบไหน เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน ดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่รอดยัง ก่อนจะมาด่าคนอื่นเขา ว่าคนอื่นไว้ ระวังจะเจ้าตัวเอง”
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ