เจ้าสาวช็อกเผ่นหนี เพิ่งรู้เงินเดือนเจ้าบ่าวในคืนวิวาห์ หายไปเป็นปี แต่ยังรับเงินจากสามี

เจ้าสาวช็อกเผ่นหนี เพิ่งรู้เงินเดือนเจ้าบ่าวในคืนวิวาห์ หายไปเป็นปี แต่ยังรับเงินจากสามี

เจ้าสาวช็อกเผ่นหนี เพิ่งรู้เงินเดือนเจ้าบ่าวในคืนวิวาห์ หายไปเป็นปี แต่ยังรับเงินจากสามี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวเพิ่งรู้เงินเดือนสามีในคืนแต่งงาน เก็บกระเป๋าเผ่นหนี ฝ่ายชายส่งเงินให้-พยายามง้ออยู่ 1 ปี สุดท้ายเจอเรื่องที่ทำให้โกรธจัด ตัดสินใจฟ้องหย่า 

เว็บไซต์ docnhanh ได้รายงานเรื่องราวสุดดราม่าของชีวิตแต่งงานของหนุ่มสาวชาวจีนคู่หนึ่ง ซึ่งฝ่ายหญิงเพิ่งรู้เงินเดือนฝ่ายชายหลังแต่งงาน ทำเอาเจ้าตัวถึงกับช็อกกับไม่ได้ และเผ่นหนีหายตัวไปเป็นปี ๆ แม้ฝ่ายสามีจะพยายามง้อและส่งเงินไปให้ใช้ แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมกลับมา แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจฟ้องหย่า เพราะเรื่องราวบางอย่าง

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน นายเจียง อายุ 30 ปี (นามสมมุติ) และ นางเล่อ อายุ 27 ปี ได้รู้จักกันผ่านการจับคู่ ทั้งสองตัดสินใจคบหาดูใจกัน แต่ในช่วงเวลา 1 ปี ทั้งคู่เจอกันเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

กระทั่งวันหนึ่ง นายเจียง และ นางเล่อ ได้พบกัน เธอเล่าให้ฟังเรื่องที่ครอบครัวกระตุ้นให้แต่งงาน ซึ่งฝ่ายชายก็ถูกครอบครัวรบเร้าเช่นกัน จึงตัดสินใจขอฝ่ายหญิงแต่งงาน

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง นางเล่อก็ตอบตกลง แต่ก็บอกตรง ๆ ว่า ไม่ได้รู้สึกรักฝ่ายชาย ซึ่งนายเจียงก็บอกว่าค่อยมาพัฒนาความรู้สึกหลังแต่งงานก็ได้ หลังจากนั้นทั้งสองก็กลับไปคุยกับครอบครัวและเข้าพิธีแต่งงานกัน

ในคืนแต่งงาน จู่ ๆ นางเล่อก็ถามถึงเงินเดือนของสามี ซึ่งนายเจียงก็บอกว่าตนเองเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนอยู่ที่ 1,800 หยวน (ประมาณ 8,900 บาท) คำตอบนี้ทำเอานางเล่อถึงกับอึ้ง เธอปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้ข้ออ้างที่ว่าเธอรู้สึกไม่สบาย รู้สึกเหนื่อยและรีบเข้านอน

หลังจากงานแต่งงาน 3 วัน นางเล่อเก็บสัมภาระและบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ได้กลับไปบ้านสามีเลย โดยเธอมักจะผัดวันประกันพรุ่ง อ้างว่าเพราะคิดถึงพ่อแม่

นายเจียงเริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาโทรหาภรรยาและขอให้เธอกลับมา แต่นางเล่อปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาและพูดว่า "ถ้าคุณซื้อบ้านให้ฉันไม่ได้ ฉันจะกลับไปได้อย่างไร"

วันรุ่งขึ้นนายเจียงไปสมัครซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับหน่วยงานของเขา แต่บริษัทขอให้เขารอข้อมูลเพิ่มเติม

1 เดือนผ่านไปนางเล่อก็ยังไม่กลับมา นายเจียงโทรหาภรรยาอีกครั้ง แต่ฝ่ายหญิงก็ยังอ้างเรื่องบ้าน นายเจียงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วรู้สึกว่าการแยกกันอยู่แบบนี้ไม่ดี เพื่อรักษาชีวิตแต่งงานของเขาไว้ เขาตัดสินใจเก็บกระเป๋าและย้ายไปอยู่บ้านพ่อตาโดยไม่ลังเล

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ดีขึ้น คืนนั้นนายเจียงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เมื่อพบว่าภรรยาของเขาหายไป แม่สามีบอกเขาอย่างช่วยไม่ได้ว่า "ตอนกลางวันเขาอยู่บ้าน กลางคืนไปอยู่กับป้าและลุง"

นายเจียงโกรธมากจนหน้าซีด และพลิกตัวนอนไม่หลับทั้งคืน สิ่งที่ทำให้เขายอมรับไม่ได้ยิ่งกว่านั้นคือนางเล่อไปอาศัยอยู่กับป้าและลุงนานกว่า 1 เดือนนับตั้งแต่เขาย้ายมาที่นี่ ด้วยความสิ้นหวังเขาจึงกลับบ้านของตนอง

ผ่านไปกว่า 1 ปีแล้ว นางเล่อก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปหาสามีของเธอ ในช่วงเวลานี้นายเจียงแม้จะโกรธและเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะพยายามรักษาชีวิตแต่งงานของเขาไว้

ทุกวันหยุดเขาจะส่งเงินให้ภรรยา โดยหวังว่าจะกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นางเล่อยังได้รับซองอั่งเปาจากสามีของเธออย่างมีความสุข แต่ไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปหาสามีเลย

กระทั่งเพื่อนบ้านพบนางเล่อที่บ้านยายของเธอ พวกเขาเริ่มซุบซิบกันว่านายเจียงคงทำเรื่องผิดศีลธรรมบางอย่าง ภรรยาถึงทนอยู่ด้วยไม่ได้ เมื่อเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์และข้อกล่าวหาจากเพื่อนบ้าน เขารู้สึกเศร้าโศกมากและเก็บความโกรธและความเจ็บปวดไว้ในใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในที่สุดวันหนึ่งนายเจียงรู้ว่าภรรยาของเขาใช้เงินซื้อรถยนต์และจดทะเบียนภายใต้ชื่อพ่อของเธอ เขาไม่สามารถซ่อนความโกรธไว้ได้ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า "นี่เป็นการแต่งงานที่ฉ้อโกง! การโกหกที่โจ่งแจ้ง" เขาตัดสินใจว่าจะไม่ตามหาภรรยาอีกต่อไป แต่เลือกที่จะฟ้องหย่าในศาล

ทันทีที่มีการแชร์เรื่องราวดังกล่าว ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากชุมชนออนไลน์ที่มีความคิดเห็นหลากหลาย อาทิ

"ถ้าใส่ใจเรื่องเงินมาก ทำไมต้องรอให้ถึงวันแต่งงานแล้วทำให้ทุกอย่างแย่ลงล่ะ เธอทำตัวเกินไปจริง ๆ"

"ถ้าคุณไม่สามารถเลี้ยงตัวเองด้วยเงินเดือน 1,800 หยวน (ประมาณ 8,900 บาท) คุณจะเลี้ยงใคร มันอาจฟังดูเกินจริง แต่การแต่งงานมีแต่จะทำให้ภรรยาและลูกของคุณต้องลำบาก"

"ผู้ชายคนนี้ทำงานอะไรเงินเดือนถึงต่ำขนาดนี้ ภรรยาคนนี้เป็นคนเห็นแก่เงินก็จริง แต่จริง ๆ แล้ว ในฐานะผู้ชาย ฉันยังคิดว่าเงินเดือนนี้ยากที่จะยอมรับ"

"จริง ๆ แล้ว สาว ๆ หลายคนแต่งงานกันเพียงเพื่อเงินและความมั่งคั่งเท่านั้น คนเช่นนี้เชื่อว่าจะมีแต่เงินเท่านั้นที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook