เป็นบุญตา อัศจรรย์บนท้องฟ้า เมฆเคลื่อนคล้าย "พระกริ่ง" ในพิธีปลุกเสก แห่ยกมือร้องสาธุ
เป็นที่ฮือฮา พิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งจอมสุรินทร์ รุ่นที่ 3 ก่อนเริ่มพิธีแดดร้อนจัด หลังจากเริ่มพิธีเมฆเคลื่อนตัวมาบังพระอาทิตย์ จนจบพิธีแล้วเกิดอัศจรรย์ มีรูปเมฆคล้ายพระกริ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ที่ผ่านมา (23 ต.ค.66)ที่บริเวณมณฑลพิธี วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ได้มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งจอมสุรินทร์ รุ่นที่ 3 วาระ ที่ 1 เพื่อสมทบทุนจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประดิษฐานหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ (หลังใหม่) พร้อมกับปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เรียบร้อย สวยงาม สมพระเกียรติ ทั้งที่ศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์และศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ (หลังเก่า) รวมทั้งเพื่อสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลอื่นๆ โดยมีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (มหานิกาย) ประธานสงฆ์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ผู้มีเกียรติ ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพ ร่วมพิธีจำนวนมา
สำหรับพระเกจิที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกฯ ในครั้งนี้ รวม 9 รูป ประกอบด้วย พระพรหมวชิรโมลี (หลวงปู่ทองอยู่) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดศาลาลอยพระอารามหลวง พระเทพวชิรญาณโสภณ (หลวงพ่อเยื้อน) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ฝ่ายธรรมยุติ) เจ้าอาวาสวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร พระราชศีลโสภิต (หลวงปู่หนูอินทร์) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล พระราชพิศาลสุธี (หลวงพ่ออาจ) เจ้าอาวาสวัดทุ่งโพธิ์ พระญาณวิเศษ วิ. (หลวงปู่สุพรรณ) เจ้าอาวาสวัดชำตาโตง ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาทโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง พระครูวิชัยธรรมาภินันท์ (หลวงพ่อชิต) เจ้าอาวาสวัดบ้านสนวน พระอธิการเฮง ปภาโส (หลวงปู่เฮง) เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม และ พระครูสถิต ปัญญาคุณ (หลวงพ่อพิรุณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบูรพารามฯ
พิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งจอมสุรินทร์ รุ่นที่ 3 จะมีขึ้น 3 วาระ โดยวาระที่ 2 จะจัดในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ณ วนอุทยานพนมสวาย ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ และวาระที่ 3 วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ณ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด
ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่แปลกอย่างมาก เป็นที่อัศจรรย์ใจสำหรับผู้ที่เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนเริ่มพิธีแดดร้อนมากแต่ในระหว่างที่ประกอบพิธีการปลุกเสกพระกริ่งจอมสุรินทร์เริ่มขึ้น กลับพบว่ามีเมฆหลายก้อนเคลื่อนมาบดบังพระอาทิตย์ แล้วก็มีลมเย็นพัดเข้าตลอดที่ทำพิธี ทำให้อากาศที่ร้อนจัดกลายเป็นว่าเย็นสบายตลอดจนจบพิธี หลังจากที่จบพิธี แดดก็เริ่มออกทันที แล้วก็มีอากาศที่ร้อน และก็พบความจึงอัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อพบว่ามีรูปเมฆคล้ายกับพระกริ่ง
โดยเมฆคล้ายกับพระกริ่งนั้น อยู่ใจกลางระหว่างเมฆที่บดบังพระอาทิตย์ แล้วมีแสงอยู่ตรงกลาง ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยๆ เลือนหายไป ชาวบ้านที่มาร่วมพิธีต่างยกมือสาธุกันถ้วนหน้า ถือว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์มากและก็อยู่ในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์อีกสถานที่หนึ่งที่ชาวสุรินทร์มีความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวได้สร้างความฮฮืออฮาให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมงานเป็นอย่างมาก บางคนใช้มือถือถ่ายภาพเก็บบไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ