เปิดใจ "ตั้ม" แรงงานไทยแฝดพี่ ทำใจไม่ได้แฝดน้องถูกฮามาสฆ่า ลั่นไม่กลับไปอิสราเอลอีก

"ตั้ม" แรงงานไทยแฝดพี่ กลับถึงบ้านเกิดปลอดภัย ส่วนแฝดน้อง "ต้อม" ถูกฮามาสฆ่าตาย รอตรวจชันสูตรก่อนส่งศพกลับไทย ด้านแรงงานแห่ยืนยันขอรับสวัสดิการหลังกลับถึงบ้านเกิดแล้วเกือบ 200 ราย ส่วนการยืนยันยอดเสียชีวิตต้องรอศพกลับถึงไทย

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ที่ศูนย์ราชการแรงงานจังหวัดนครพนม ยังแน่นไปด้วย แรงงานไทย ที่กลับมาจากอิสราเอล รวมถึงญาติพี่น้อง ที่เดินทางไปขึ้นทะเบียนยืนยันกลับบ้านปลอดภัย พร้อมขอรับสวัสดิการตามสิทธิ์ และขอรับเงินค่าตั๋วเครื่องบินคืน กรณีจ่ายก่อนล่วงหน้า

ส่วนยอดแรงงานไทยในอิสราเอล ของ จ.นครพนม มีจำนวนทั้งมด กว่า 2,100 คน มีกลับถึงบ้านเกิดยืนนยันตัวตนแล้ว กว่า 180 คน มีญาติแจ้งว่าสูญหายขาดการติดต่อแล้ว จำนวน 5 ราย ส่วนการเสียชีวิตยังไม่ยืนยันชัดเจน เป็นเพียงการบอกเล่า ต้องรอผลการตรวจชันสูตร รวมถึงตรวจอัตลักษณ์บุคคล ส่งกลับไทย ให้ญาติยืนยัน

นอกจากนี้ยังพบว่ามี นายเจษฎา โฮมสร หรือตั้ม อายุ 36 ปี ชาวบ้านหนองเดินพัฒนา ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ได้มายืนยันตัวตนที่แรงงานจังหวัดนครพนม เพื่อขอรับสวัสดิการ และขอคืนค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกก่อนล่วงหน้า ถือเป็นคู่แฝดคนพี่ ส่วนคนน้องคือนายเศรษฐา โฮมสร หรือต้อม อายุ 36 ปี ทำงานคนละพื้นที่ มีเพื่อนในแคมป์คนงานแจ้งข่าวว่า ถูกจับตัวไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ และถูกทำร้ายจนเสียชีวิตเนื่องจากทหารฮามาสฆ่าตาย แต่ยังรอตรวจชันสูตรศพยืนยันอัตลักษณ์บุคคล ก่อนส่งกลับไทยตามขั้นตอน

นายตั้ม แรงงานไทยแฝดคนพี่ เปิดเผยว่า ตนไปทำงานเมื่อปี 2562 ทำงานได้ 4 ปีกว่า เหลือสัญญาจ้าง เกือบ 1 ปี แต่อยู่ในพื้นที่ตอนกลางของอิสราเอล ได้รับผลกระทบน้อย ส่วนน้องชายแฝดน้อง หรือต้อม นายเศรษฐา โฮมสร หรือต้อม อายุ 36 ปี เดินทางไปหลังตน 6 เดือน ทำงานตอนใต้ของอิสราเอล ติดฉนวนกาซา เป็นพื้นที่สงคราม และถูกจับตัวไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ

มาทราบทีหลังจากเพื่อนแรงงาน และนายจ้างว่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ถูกกลุ่มฮามาสฆ่าปาดคอ แต่ยังไม่พบศพต้องรอชันสูตร ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล จากเจ้าหน้าที่ทางการอิสราเอล ประสานขอกลับไทย ถามว่าอยากกลับไปทำงานอีกหรือไม่ ยืนยันไม่ขอกลับไป ยังทำใจไม่ได้สูญเสียน้องชาย อยากให้รัฐบาลไทย หาทางประสานรับศพกลับมาเร็วที่สุด