สาวใหญ่เจ็บใจ จับคู่เพื่อนรักกับลูกชาย แค่ครึ่งปีบ้านลุกเป็นไฟ สะใภ้โชว์อิทธิฤทธิ์ทุกวัน!

สาวใหญ่ดีใจ ได้เพื่อนสนิทเป็นสะใภ้ แต่ผ่านมาแค่ครึ่งปี แผลงฤทธิ์ใส่กันจนบ้านแตก บทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต

ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ เป็นปัญหาที่ซับซ้อนทุกยุคทุกสมัย หากทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจ และเห็นใจซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

เรื่องราวล่าสุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ในเหอหนาน ประเทศจีน ทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะลูกสะใภ้และแม่สามีเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ความสัมพันธ์ดีมากถึงขนาดแนะนำเพื่อนรักให้ได้แต่งงานกับลูกเลี้ยง แต่ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปไกล จนแม้แต่หน้ายังไม่อยากมองกันเลย

ตามรายงานพบว่า ผู้หญิงแซ่ซ่งแต่งงานเป็นครั้งที่สอง สามีของเธอมีลูกเลี้ยงที่อายุน้อยกว่าเธอเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงค่อนข้างดี ดังนั้นเมื่อถึงวันที่ลูกเลี้ยงอยากแต่งงาน เธอก็นึกถึงเพื่อนสนิทที่อายุน้อยกว่าตนเอง 2 ปี ซึ่งค่อนข้างจะเข้ากันได้ดีกับเธอ จึงเกิดแนวคิดเรื่องการ "จับคู่" ขึ้นมา

สุดท้ายการจับคู่ประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย เพราะทั้งสองฝ่ายค่อนข้างชอบกัน งานแต่งงานก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้นางซ่งมีความสุขมาก อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังจากงานแต่งงาน ความขัดแย้งก็เริ่มเกิดขึ้น

นางซ่งและสามีตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหญ่ และให้ลูกๆ ทุกคนอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยพื้นฐานแล้วห้องนอนใหญ่ควรจะเป็นของเธอและสามี แต่ "ลูกสะใภ้" กลับยืนกรานที่จะใช้ห้องนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่มีความสุข คิดว่าลูกสะใภ้กำลังแสดงอำนาจอยู่เหนือเธอ ทั้งที่เพิ่งแต่งเข้ามาอยู่ในครอบครัว แต่กลับกล้าคิดแย่งชิงห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่สามี

ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องห้อง นางซ่งเพิ่งค้นพบว่าแท้จริงแล้วเพื่อนสนิทของเธอนั้น เป็นผู้หญิงที่ไร้ซึ่งความสุภาพ เมื่อมาอยู่ในบทบาทของลูกสะใภ้ ส่วนอีกฝ่ายนั้นมองว่าถึงแม้นางซ่งจะเป็นแม่สามีในนาม แต่จริงๆ แล้วพวกเธอยังคงเป็นเพื่อนสนิทกัน และที่สำคัญคือความจริงเธอเป็นแค่แม่เลี้ยงของสามีเท่านั้น ไม่ใช่แม่แท้ๆ

เรื่องการตกแต่งภายในและการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ก็ยังทำให้แม่สามีและลูกสะใภ้เกิดปัญหากันอยู่เรื่อยๆ แต่ละคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง เถียงกันดุเดือดจนสามีและลูกชายไม่รู้ว่าจะเลือกข้างไหน

อีกทั้งยังมีประเด็นที่ลูกสะใภ้ไม่เคยเรียกหรือเคารพเธอในแบบ "แม่สามี" เพราะมองว่ามีความสัมพันธ์แบบเพื่อนมาก่อน ทำให้ยากที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ด้วยเหตุนี้กลับทำให้ฝ่ายของนางซ่ง เริ่มคิดว่าเพื่อนสนิทของเธอไม่สุภาพมากเกินไป จึงเริ่มวางตัวชัดเจนว่าอยู่ในตำแหน่ง "แม่สามี" ที่เหนือกว่า

จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้เริ่มตึงเครียดมากขึ้น ถึงขนาดอยู่บ้านหลังเดียวกันแต่ทั้งสองกลับหมางเมิน เมื่อพบเจอก็ไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยเหมือนอย่างเคย สุดท้ายด้วยผิดหวังมากๆ นางซ่งจึงตัดสินใจโพส์บ่นลงในชุมชนออนไลน์ ระบายถึงความผิดพลาดในการจับคู่ให้ลูกเลี้ยงได้แต่งงานกับเพื่อนสนิท

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นจากชาวเน็ตไม่ได้เข้าข้างเธอ หลายคนเชื่อว่านี่คือผลจากทางเลือกและการกระทำของเธอเอง และเธอต้องยอมรับผลลัพธ์นี้ นอกจากนี้การให้เพื่อนสนิทเปลี่ยนมาเรียกว่า "แม่สามี" ก็เป็นเรื่องยากมาก บางคนยังแนะนำให้เธอใจเย็น จัดการกับสถานการณ์อย่างรอบคอบ และยอมรับลดทิฐิลงเพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการแต่แรกเหรอใช่ไหม? อย่าใส่ใจกับสรรพนามที่เธอต้องใช้เรียกคุณมากเกินไป ท้ายที่สุดคุณสองคนเป็นเพื่อนกัน ในความคิดของฉัน คุณควรอยู่แยกกันเพื่อความสัมพันธ์ที่ดี และคนสองคนอาจไม่จำเป็นต้องเรียกกันและกันว่า แม่สามี - ลูกสะใภ้ เพราะท้ายที่สุดแล้วคุณเป็นเพียงแม่เลี้ยง ไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด แล้วบังคับให้เรียกแบบนั้นทั้งสองฝ่ายจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไร?”

“เปิดใจและมองเธอที่เพื่อนของคุณเหมือนเมื่อก่อน ถ้าคนสองคนสบายใจและมีความสุขกันเหมือนเมื่อก่อน อุปสรรคก็จะหมดไปด้วย อย่าเอาอีโก้ของตัวเองไปอยู่เหนือคนอื่น แต่อย่างว่าแหละ ความสัมพันธ์จะยังคงดีอยู่เสมอ ตราบใดที่ไม่ได้กระทบต่อประโยชน์ของกันและกัน แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนสนิทไม่ใช่แบบนั้นแล้ว”