ม.เที่ยงคืน ระบุ รัฐบาล ผู้ชุมนุมและสื่อควรรู้จักบทบาท

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ระบุ รัฐบาล ผู้ชุมนุมและสื่อควรรู้จักบทบาท และไม่ส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม

นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมเวทีเสวนา ไม่สนับสนุนความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ โดย รองศาสตราจารย์ สมชาย ปรีชาศิลปะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า สันติวิธี กับวินาศกรรม ตั้งอยู่บนฐานเหตุผลคนละชุด แต่ปัจจุบันพบว่าวินาศกรรม หรือความรุนแรง กำลังจะกลายเป็นเหตุผลของสิ่งที่กำลังจะเกิด ซึ่งสันติวิธีคือการแสดงออกเพื่อให้สังคมได้รับรู้ แต่วินาศกรรมเป็นการข่มขู่ให้เกิดความไม่มั่นคง โดยพบว่าปัจจุบันได้ถูกผนวกเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งนี้เห็นว่าการกระทำที่เหลื่อมกฎหมายจะเกิดในสังคมที่มีความเป็นธรรมในระดับหนึ่ง ถ้าในสังคมที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายหยั่งลึก จะทำให้การชุมนุมสำเร็จได้ยาก ซึ่งเมืองไทยในขณะนี้ มี 3 ส่วนที่มีบทบาท คือ รัฐบาล ผุ้ชุมนุม และสื่อ โดยรัฐบาลต้องแยกแยะระหว่างสันติวิธี และวินาศกรรม และไม่ทำให้บรรยากาศรุนแรง ขณะที่ผู้ชุมนุมต้องใช้สันติวิธี ภายใต้หลักการและเหตุผล ต้องไม่ทำให้การชุมนุมกลายเป็นสงคราม ส่วนสื่อต้องสะท้อนความจริงให้มากที่สุด ส่วนจุดอ่อนของสังคมไทย คือ มีความตึงเครียด เกลียดชังกันมากขึ้น และสถาบันการเมืองไม่สามารถรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น หรือยุติปัญหาได้ โดยเห็นว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้ง หรือการรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน

ด้าน นายณัฐกรณ์ วิธิตานนท์ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยแบบปกติ เหมือนเมืองประชาธิปไตยอื่นๆ โดยจากการศึกษาพบว่ากลุ่มคนเสื้อแดง มี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มหวังเฉพาะหน้า เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่มีไม่มากนัก ส่วนกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด คือกลุ่ม ตั้งเป้าทวงคืนประชาธิปไตย และให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนก่อนปี 2549 โดยยอมรับการดำรงอยู่ของสถาบันจารีตภายใต้กฎหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมาชุมนุมใน กทม.และกลุ่มที่มีจำนวนน้อยอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มในโลกไซเบอร์ ซึ่งไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของสถาบันแบบจารีต