เปิดภาพล่าสุด "เหมิงเหมิง" ตัวตึงฮาโลวีน แต่งผีจนเพื่อนร้องไห้ โตมาอย่างมีคุณภาพ!

ยังจำกันได้ไหม?  "เหมิงเหมิง" ตำนานแต่งผีจนเพื่อนร้องไห้ สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลก ล่าสุดผ่านมา 7 ปีโตขึ้นเยอะมาก

เมื่อเทศกาลฮาโลวีนเวียนมาถึงในทุกปี หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนึกถึง "เหมิงเหมิง" เด็กน้อยจากไต้หวัน ที่เคยสร้างตำนานเอาไว้เมื่อปี 2559 กลายเป็นปรากฏการณ์ทางอินเทอร์เน็ตไปทั่วโลก ด้วยการคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนผีไร้หน้า จากเรื่อง Spirited Away ไปร่วมงานวันฮาโลวีนที่โรงเรียน เรียกได้ว่าทั้งชุดทั้งอินเนอร์จัดเต็ม จนเพื่อนร่วมชั้นเห็นแล้วร้องไห้จ้าเลยทีเดียว

7 ปีผ่านไปนับตั้งแต่วันนั้น ปัจจุบัน "เหมิงเหมิง" อายุ 9 ขวบแล้ว กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และผลการเรียนที่ก็ดีมากด้วย อยู่ใน 5 อันดับแรกของระดับชั้นเสมอ ในแง่ของบุคลิคและรูปร่างหน้าตา แน่นอนว่าเธอสูงขึ้นและสวยขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับน้องสาววัยอนุบาลที่ยังคงหลงใหลในเรื่องตลก เธอกลายเป็นพี่สาวที่เงียบขรึมและอ่อนโยนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับเทศกาลฮาโลวีนในทุกปี คุณแม่ของเหมิงเหมิงยังคงลงทุนกับเครื่องแต่งกายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้กับทั้งเหมิงเหมิงและน้องสาวตัวน้อยของเธอ กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว เหมิงเหมิงเริ่มรับผิดชอบในการออกแบบการแต่งตัวของตัวเอง และสมัครเข้าร่วมการประกวดแต่งกายของโรงเรียนอย่างกล้าหาญด้วย

คุณแม่ของเหมิงเหมิงเล่าว่า ลูกสาวของเธอสนิทกันมาก แม้ว่าบุคลิกจะค่อนข้างตรงกันข้ามกันก็ตาม น้องสาวเกิดราศีธนู เป็นเด็กปากหวานพูดจาไพเราะ ทุกวันจะหอมแก้มแม่และพูดว่า "แม่คะ หนูรักแม่มาก" ในขณะที่คนพี่แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่ง แต่เธอยังคงมีวิธีดูแลแม่เป็นของตัวเอง ตัวอย่างเช่น นำเงินเก็บมาแอบซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แล้ววาดแผนที่สมบัติให้แม่ออกตามหา

คุณแม่ยังบอกด้วยว่า เธอและสามีปล่อยให้ลูกๆ เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย เช่น โมเดิร์นแดนซ์ บัลเล่ต์ โต้คลื่น เปียโน ตีกอล์ฟ ปีนเขา โดยหลักการเลี้ยงลูกสำหรับครอบครัวนี้คือ ไม่ใช่การอธิบายให้ลูกฟังมากเกินไป แต่ปล่อยให้ได้สำรวจและทำความเข้าใจทีละน้อยๆ ได้ประสบกับเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเธอเอง เช่นเดียวกับเรื่องเรียนที่ไม่บังคับลูก แต่เธอกลับเลือกที่จะรับฟัง ติดตาม และเคารพลูกๆ

ทั้งนี้ ทุกครั้งที่เธอรู้สึกไม่อยากอดทนกับลูกอีกต่อไป เธอจะหายใจลึกๆ เป็นเวลา 10 วินาทีเพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วจึงแก้ไขปัญหาต่อไป ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกต่อต้านการเรียนว่ายน้ำ หาข้ออ้างสารพัดอยู่เสมอที่จะขาดเรียน ในตอนนั้นเธอก็ต้องเริ่มเผชิญหน้ากับจิตวิทยาของตัวเอง อดทน ใจเย็น และอธิบายให้ลูกฟังว่านอกเหนือจากการเรียนว่ายน้ำแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้ที่จะเอาชนะความยากลำบาก เผชิญหน้าด้วยตัวเอง ต้านทานความกดดัน และแก้ไขปัญหาต่างๆ

คุณแม่เชื่อว่าเพียงแต่ใช้เวลากับลูกให้มากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจ ลูกก็จะรู้จักเห็นอกเห็นใจ รักตัวเอง และกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่และลูกได้