ประวัติ "ศิธา ทิวารี" แด๊ดดี้ฝ่ายประชาธิปไตย จากนักบิน F-16 สู่เส้นทางสายการเมือง
หนึ่งในตัวตึงของฝ่ายประชาธิปไตยที่กุมหัวใจของคอการเมืองไทย คงหนีไม่พ้น “ศิธา ทิวารี” หรือ “แด๊ดดี้ปุ่น” ผู้เป็นเสมือนตัวแทงก์ท้าชนกับคนอื่นไปทั่ว ไม่ว่าแด๊ดดี้จะพูดอะไรก็มักจะได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง 2566 ที่ศิธากลายเป็น “ตัวแทนหมู่บ้าน” ขึ้นดีเบตสู่กับตัวแทนจากพรรคอื่นๆ อย่างถึงพริกถึงขิง แถมหลังเลือกตั้งก็ยังเป็นคนยกมือถาม “หมอชลน่าน” เรื่อง MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล จนเกือบวางมวยกันมาแล้ว และยังมีวีรกรรมอีกมากมายที่ทำให้ศิธากลายเป็นแด๊ดดี้ของใครหลายคน
Sanook เปิดประวัติ “ศิธา ทิวารี” สุภาพบุรุษฝ่ายประชาธิปไตย และเส้นทางการเมืองที่ไม่เคยง่ายของเขา
“ศิธา ทิวารี” คือใคร
น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ “ผู้พันปุ่น” คือนักการเมืองและอดีตนายทหารอากาศ เขาเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 สืบเชื้อสายมาจากรัชกาลที่ 4 เป็นบุตรของมานพ ทิวารี กับหม่อมราชวงศ์จารุวรรณ ทิวารี พระนัดดาของหม่อมเจ้าดุลภากร วรวรรณ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
ศิธาสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก รุ่นที่ 15 ก่อนจะเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 24 (ตท.24) และคว้าปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จากโรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 31
จากนั้น ศิธาเข้ารับราชการในสังกัดกองทัพอากาศ และได้เป็นนักบินขับไล่ F-5 ก่อนจะค่อยๆ ไต่เต้ามาเป็นนักบินขับไล่ F-16 โดยรับราชการเป็นนักบินกว่า 8 ปี ซึ่งระหว่างที่รับราชการ ศิธาเคยมีผลงานในวงการบันเทิงด้วย ทั้งร่วมแสดงละครโทรทัศน์ ถ่ายแบบนิตยสาร และถ่ายโฆษณา
เส้นทางสายการเมือง
ศิธาตัดสินใจลาออกจากราชการกองทัพอากาศ และเบนเข็มมาลงสมัครเลือกตั้งเป็น สส.กทม. เขต 9 คลองเตย สังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ.2544 และ 2548 สองสมัยติดต่อกัน โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
อย่างไรก็ตาม ศิธาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทย เมื่อปี พ.ศ.2549 ภายหลังได้เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยรับหน้าที่ผู้ประสานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมาก็ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และเข้าร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย
แด๊ดดี้ศิธาของทุกคน
หลังเข้าร่วมพรรคไทยสร้างไทย ศิธาลงสมัครผู้ว่า กทม. เบอร์ 11 ในปี พ.ศ.2565 แม้จะไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ แต่ศิธาก็ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป ด้วยลีลาการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วยฝีปากที่เฉียบคมและตรงไปตรงมา จนทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของใครหลายคน ถึงกับเกิดแฟนด้อม “แด๊ดดี้ศิธา” และมีการจัดงานแฟนมีตติ้งชมภาพยนตร์เรื่อง Top Gun 2 ร่วมกับแฟนคลับ
ในช่วงการเลือกตั้งทั่วไป 2566 ก็เป็นอีกครั้งที่ศิธาได้แสดงฝีไม้ลายมือการดีเบต จนถูกอกถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก แม้ศิธาจะลงสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในสังกัดพรรคไทยสร้างไทย แต่เขาก็ไม่ได้รับเลือกตั้งให้เข้าสภา
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ