หนุ่มสุดช้ำ ได้เสียกับเมียจ๋าทางโทรศัพท์ รักหมดใจให้ 3 ล้าน สุดท้ายเขาเซฟรูปคนอื่นมา
รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับหนุ่มผู้เสียหาย ที่ถูกสาวมาหลอกให้รักทางเฟซบุ๊ก ตกลงเป็นสามีภรรยากันทั้งที่ไม่เคยเจอตัวจริง โอนเงินไป 3.5 ล้านบาท สุดท้ายหลอกลวงทั้งเพ เอารูปของผู้หญิงคนอื่นมาแอบอ้าง
คุณตูน ผู้เสียหายเล่าว่า ผู้หญิงคนนี้ ใช้ชื่อว่า “บุ๋มบิ๋ม” ทักเฟซบุ๊กมาหา มาพูดคุย บอกว่าเคยเป็นแฟนเก่าของเพื่อนตนที่ชื่อ ตะวัน ซึ่งตนมีเพื่อนชื่อตะวันจริงๆ แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้ตัวจริงมาก่อน เห็นโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก สวยถูกใจมาก จึงได้เริ่มพูดคุยกัน และตกลงว่าจะคบหาดูใจกันทางออนไลน์มาเรื่อย กระทั่งความสัมพันธ์พัฒนามาเรื่อย แม้จะไม่เคยเจอตัวจริงกัน แต่ก็มีเซ็กซ์โฟนกันทางโทรศัพท์ จนเรียกกันว่าเป็นผัวเป็นเมียกัน ยอมรับว่าตนไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่คุยกับเขาแล้วรู้สึกชอบพอกันมาก ตั้งใจจะใช้ชีวิตด้วยกัน แรกๆ เขาจะเรียกว่า “ที่รัก”” ต่อมาก็เรียกว่า “ผัวจ๋า ผัวขา” ทุกคำ
ช่วงที่คบหากัน เราจะวิดีโอคอลนานๆ ครั้ง แต่เขาไม่เคยให้เห็นหน้าเลย จะให้เห็นแค่สภาพแวดล้อมรอบๆ แม้แต่เวลาเซ็กซ์โฟนก็ไม่ให้เห็นอะไร เคยขอปหา ไปพบหน้า เขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่าไปดูดวงมา ดวงทั้งสองคนไม่ดีต่อกัน ดวงของตูนนำพาสิ่งไม่ดีมาให้บุ๋มบิ๋ม ถ้ามาเจอหน้ากัน พ่อแม่จะถึงแก่ชีวิต เขาจึงไม่ยอมให้มาเจอกันเลย
นอกจากนี้เขายังบอกว่า ตัวเองต้องผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้น ต้องใช้เงินจำนวนมาก บอกว่าแม่ป่วย แม่เสียชีวิต พ่อเสียชีวิต ทุกอย่างต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งค่าเทอม ค่ารายงาน ค่าใช้จ่ายในการเรียน รับปริญญา อะไรต่างๆ นานา เต็มไปหมด จนเราหมดเงินกับเขา 3.5 ล้านบาท
ที่ผ่านมา เราให้เงินเขาเก็บหมด เพราะรู้สึกว่าเขาคือเมียเรา ตั้งใจให้เขาเก็บเงิน เอาไว้สร้างอนาคตกันต่อไป แต่สุดท้ายมารู้ว่าเขาหลอกลวงทั้งหมด รูปก็ไม่ใช่รูปตัวเอง เอารูปของคนชื่อ “อ้อม” มาหลอกลวงทั้งหมด เป็นรูปที่อ้อมโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก หรือไม่ก็เป็นรูปที่ญาติของอ้อมโพสต์ เขาจะไปเอามาใช้เกือบทั้งหมด แล้วเขียนข้อความแต่งเรื่องไปต่างๆ นานา
พอคุณตูนรู้ว่าถูกหลอก ตามสืบจนไปเจอคุณอ้อม เจ้าของรูปตัวจริง คุณอ้อม มาตามเช็กว่ารูปอะไรบ้างที่ถูกนำไปใช้ ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และไปตามหาว่าคนที่เอารูปตัวเองไปใช้คือใคร
อีกหนึ่งคนที่ได้รับความเดือดร้อน คือ นางสาววาสนา เหลาอ่อน หรือ คุณวาส เป็นคนที่ชื่อนามสกุล ตรงกับชื่อที่รับโอนเงินจากคุณตูน ซึ่งตอนแรก “บุ๋มบิ๋ม” บอกว่าชื่อ วาสนา เหลาอ่อน เป็นชื่อนามสกุลจริงของตัวเอง
คุณวาสบอกว่า ตัวเองเป็นชาวกำแพงเพชร อยู่คนละอำเภอ ไม่เคยรู้จัก หรือเกี่ยวข้องกับใครในเรื่องนี้เลย ตนเรียนจบแล้ว มีแฟน และกำลังจะแต่งงานกัน แต่ต้องมาเดือดร้อนเพราะชื่อนามสกุลไปตรงกับชื่อในบัญชีนี้ จนมีคนทักมาเยอะมาก ได้รับความเดือดร้อนวุ่นวาย จนต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้
ขณะที่ วาสนา อีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่คุณตูนบอกว่า คือ “บุ๋มบิ๋ม” ก็โฟนอินเข้ามาชี้แจงในมุมของตัวเองว่า ตนไม่ได้ใช้ชื่อบุ๋มบิ๋ม ที่บ้านเรียกว่า “พร” ที่ทำงานเรียกว่า “แพร”
ยอมรับว่ารับโอนเงินจากคุณตูนจริง แต่เป็นเงินค่าสินค้า ที่คุณตูนเอาสินค้าของตนไปขาย มีเงินค่าหวยที่ตนถูกหวยกับคุณตูน แต่ถามว่ายอดถึง 3.5 ล้านไหม มันก็ไม่รู้ ตนไม่เคยมานั่งนับรวม ส่วนค่าสินค้าก็ไม่เคยจดไว้ในบัญชี เพราะไว้ใจเขา
ตนรู้จักกับตูนเพราะเราซื้อขายหวยกัน ส่วนน้องอ้อม ก็รู้จักกัน เพราะเขาเป็นเพื่อนของน้องสาว เราเคยทักไปชวนเขามาถ่ายโปรโมตสินค้าให้เรา แต่ตอนนั้นเขาบอกว่าไม่สะดวก
วาสนา (พร หรือ แพร) ยืนยันว่าไม่ได้ไปเอารูปของอ้อม เอามาหลอกใครแน่นอน ซึ่งทางคุณตูนบอกว่า เขาทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ เมื่อถามว่าจะให้ตนเอาเงินมาคืนเขาได้ไหม ก็ต้องถามว่าตนจะไปเอาเงินมาจากไหน 3.5 ล้าน ถ้าตนมีเงินขนาดนั้น ตนจะยังใช้ชีวิตแบบนี้ไหม
วาสนา(พร หรือ แพร) ที่เราพูดคุยกับเขา เขาเคยบอกว่าคุณตูนเคยโดนผู้หญิงหลอกมาก่อน เราก็สงสารเขา แต่ไม่ได้หลอกให้เขารักอย่างที่เขากล่าวหา
ขณะที่อ้อม บอกว่า วาสนา(พร หรือ แพร) เป็นพี่สาวของเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก สิ่งที่ตนคิดว่า เขาคือคนที่เอารูปตัวเองไปหลอกคนอื่น เพราะว่ามีอยู่วันหนึ่งที่ตนโพสต์เตือนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเองว่า มีคนเอารูปไปแอบอ้าง ใช้ชื่อเฟซบุ๊กปลอมว่าบุ๋มบิ๋ม พอตนโพสต์ไปแบบนั้น ปรากฏว่า วาสนาก็บล็อกเฟซบุ๊กตนไปเลย ทำให้ผิดสังเกต
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่คุณตูนมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับคนใกล้ชิดของบุ๋มบิ๋ม ญาติพี่น้องต่างๆ แต่ละคนก็ตรงกับญาติของวาสนาทั้งหมดเลย
ท้ายที่สุดเมื่อวาสนาไม่ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำ ทนายแก้วจึงแนะนำให้คุณตูนไปร้องกับตำรวจไซเบอร์ และให้ดำเนินการในทางคดี เพราะการเอารูป เอาข้อมูลของคนอื่นมาหลอกลวง ฉ้อโกง ให้มีการโอนเงินอะไรต่างๆ นานา มันเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ โอนไป 300 กว่าครั้ง ก็ผิดไป 300 กรรม ถือว่าโทษหนักแน่นอน
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ