"สส.ปูอัด" น้อมรับมติพรรค โค้งคำนับ 3 รอบ ลั่นยังไม่ลาออก รอ กกต. ชี้ขาด
“สส.ปูอัด” น้อมรับมติพรรคโค้งคำนับ 3 รอบ ขอโทษพรรค และพร้อมขอโทษ-เยียวยาผู้เสียหาย ลั่นยังคงไม่ลาออก สส. รอ กกต. ชี้ขาด ปัดตอบละเมิดหรือไม่
นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล หรือ สส.ปูอัด เดินทักทายประชาชนในพื้นที่เขตจอมทอง พร้อมโค้งขอโทษกรณีที่ถูกกล่าวหา คุกคามทางเพศและโดนพรรคก้าวไกลคาดโทษ โดยชาวบ้านเข้ามาสวมกอดให้กำลังใจ
จากนั้น นายไชยามพวาน แถลงว่า ได้รับเอกสารมติของพรรคก้าวไกลเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้ววันนี้ตั้งใจจะมาชี้แจงและนำเสนอหลักฐานต่อสื่อและพี่น้องประชาชนทุกคน หากเป็นการคุกคามทางเพศโดยใช้อำนาจบีบบังคับจริง ตนก็ต้องขอโทษ และพร้อมที่จะน้อมรับในมติพรรค
โดยมีผู้ร้องทั้งหมด 3 คนขอชี้แจง ดังนี้
สำหรับผู้ร้องที่ 1 ที่ระบุว่า มีการใช้อำนาจคุกคามทางเพศ โดยที่ผู้ร้องคนดังกล่าวเป็นผู้ช่วย ที่ร่วมกันทำพื้นที่ในเขตจอมทองมาตลอด 2-3 ปี พร้อมเปิดเผยแชท ซึ่งผู้ร้องเป็นฝ่ายถามมาว่า จะไปกินเลี้ยงที่ไหนต่อ จะไปร้านไหน
โดยระบุว่า คืนนี้หนักมากไม่ได้นะ เพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า ซึ่งต่อมา ได้แจ้งว่า คนอื่นยกเลิกนัด หรือเพียงตนกับผู้ร้องแต่ก็ได้ตอบกลับมาว่า 2 คนก็ Enjoy หลังจากนั้นก็คุยกันตลอด เสมือนทีมงานคนหนึ่ง
จนกระทั่งวันที่ชนะเลือกตั้ง ผู้ร้องก็แสดงความยินดีกับตน และขอบคุณที่สอนให้ตนเติบโตทั้งความคิดการทำงานและความรับผิดชอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา และว่าตนเป็นมากกว่าหัวหน้าในที่ทำงาน เป็นทั้งพี่ชาย พี่เลี้ยงเด็กและที่ปรึกษา และยินดีจะทำงานกับตน และถ้าสมัยหน้าลงเลือกตั้งต่อสัญญาจะมาช่วยงาน
แล้วตลอดเวลาก็คุยกันตามปกติและทางที่บ้านยังเอ็นดูตนนำสูทมือสองและเนคไทที่ทนใส่อยู่ ก็เป็นของคุณพ่อของน้องผู้ร้อง ยังใส่เหมือนเดิมและหลังจากนี้ตนจะนำรายละเอียดชี้แจงกับ ป.ป.ช.ต่อ ไปและหากเป็นการคุกคามทางเพศ ตามที่พรรควินิจฉัยก็ต้องขอโทษด้วย และพร้อมน้อมรับในมติพรรค
ส่วนกรณีที่ 2 ว่า ตนแอบถ่ายรูปนั้นขอยืนยันว่า ผู้ร้อง รู้ตัวตลอดว่า มีการถ่ายคลิป ผูกเนคไทและจากเงา ก็เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสอง และสลิปเงินเป็นเงินเดือนและช่วยเหลือค่าครองชีพระหว่างว่างงานไม่ใช่เป็นเงินปิดปาก แต่หากกรณีดังกล่าว เป็นการคุกคามทางเพศตามที่พรรควินิจฉัยตนก็ต้องขอโทษ
ส่วนกรณีที่ 3 ที่ร้องเรียนว่าตนแตะเนื้อต้องตัวเป็นการคุกคามทางเพศ ต้องชี้แจงว่าเวลาลงพื้นที่ หรือเวลาอื่น ๆ สัมผัสตัวคนอื่นค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะสัมผัสตัวใครก็ตามเพื่อเป้าประสงค์ทางเพศ
และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้องนั้น เป็นการใส่เนื้อต้องตัวตามธรรมดาของเพื่อนร่วมงานไม่ได้เข้าร่วมในสิ่งที่พึงประสงค์ ท้ายสุดหากผิดพลาดไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงขอบเขตเหล่านี้ให้ดีพอว่าแต่ละคนมีขอบเขตในการยอมรับที่ต่างกัน ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง
ทั้งนี้ หากการกระทำของตนทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และอาจจะไม่เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสามารถแสดงความรู้สึกความไม่สบายใจออกมาได้มากพอ ก็ต้องขออภัยและจะระมัดระวังตัวมากขึ้น และท้ายสุดตนเคารพในการตัดสินใจต่อมติพรรค และฝากทุกฝ่ายช่วยพิจารณาตามหลักฐานตรงนี้ด้วยว่าเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศหรือไม่
และต้องขอโทษเพื่อน สส.ที่ทำให้วันนี้มีรอยร้าวขึ้นมา และขอโทษประชาชนในพื้นที่ที่เพิ่งนำหลักฐานออกมาให้ทราบ และหลังจากเสร็จแถลงข่าวก็จะไปลงพื้นที่ต่อและยังคงเดินหาพี่น้องประชาชนที่ตนรัก
สำหรับกรณีที่เพื่อน สส. กดดันให้ลาออกนั้น นายไชยามพวาน ปฏิเสธว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ และหลังจากนี้ ก็ขอให้ทุกคนเราดูตามเอกสาร และจะไปชี้แจงกับ กกต. เพราะมีการไปร้องตรงที่ กกต. ซึ่งวันนี้อยู่ระหว่าง กกต. เรียกตนไปชี้แจงเมื่อกกตตรวจสอบถ้าตนบริสุทธิ์ก็ต้องว่าไปตามบริสุทธิ์ และถ้าตนผิด ตนก็พร้อมที่จะพิจารณาลาออกจากพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้ จะสามารถทำงานร่วมกับเพื่อน สส. ได้หรือไม่ นายไชยามพวาน ขอไม่พูด บอกเพียงว่า ตนมาจากอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกล ส่วนการเยียวยาผู้ เสียหายและขอโทษโดยตรงนั้น
นายไชยามพวาน กล่าวว่า กระบวนการนี้ได้คุยกับทางพรรคโดยพรรคจะเป็นคนกลางที่จะเรียกมาคุยเรื่องยาว ๆ เพราะส่วนนี้ภาพก็จะให้ตนชี้แจงว่าการเยียวยาเป็นอย่างไรเยียวยาไปแล้วเท่าไหร่ สนใจเยียวยาเท่าไหร่ อย่างไร ขึ้นอยู่ที่พรรค
ส่วนจะเคลียร์ข้อสงสัยอย่างไรนั้น การส่งลงพื้นที่ ตนพบปะกับประชาชนประชาชนเข้ากอดตน ตนก็เข้ากอดต่อ และการทำงาน 7 วันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ 7 วันและเป็นคำถามของประชาชนในพื้นที่ที่รอคำตอบ ตนจึงต้องมาแถลง
ถึงขั้นนั้นล่วงละเมิดทางเพศ หรือไม่ เพราะในเอกสารมันพูดแค่ว่า “มันจบ” แค่ชวนกันไปทานข้าวแค่นั้น นายไชยามพวาน “ขอไม่ตอบ” เพราะซ้ายก็ทีมงาน ขวาก็พรรค จึงไม่อยากขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เมื่อถามว่า สส. กว่า 100 คน โหวตขับ เป็นดุลพินิจของเพื่อน ๆ จะไม่ขอตอบอะไร เพราะตนโตมาจากพรรคอนาคตใหม่