กกต. เผยไร้อำนาจสอบ ปูอัด ไชยามพวาน ชี้ละเมิดทางเพศไม่เกี่ยวคุณสมบัติ สส.

กกต. เผยไร้อำนาจสอบ ปูอัด ไชยามพวาน ชี้ละเมิดทางเพศไม่เกี่ยวคุณสมบัติ สส.

กกต. เผยไร้อำนาจสอบ ปูอัด ไชยามพวาน ชี้ละเมิดทางเพศไม่เกี่ยวคุณสมบัติ สส.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.) ถึงกรณี ปูอัด-นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ที่ระบุพร้อมให้ กกต. ตรวจสอบกรณีถูกกล่าวหามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ตามที่นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี จากพรรคภูมิใจไทย ยื่นคำร้องว่า เห็นแต่เป็นข่าว ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริง

เลขาธิการ กกต. อธิบายกรณีนี้ว่า ตามโครงสร้างการทำงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง และสำนักงาน กกต. นั้น กกต. จะติดต่อกับพรรค ไม่ได้ติดต่อกับสมาชิก ถ้าการดำเนินการของพรรคไม่เป็นไปตามที่กฎหมาย หรือข้อบังคับพรรคกำหนด สมาชิกพรรคหรือบุคคลภายนอกสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้

นายแสวง พูดต่อไปว่า เท่าที่ติดตามข่าว ลักษณะพฤติกรรมที่มีการกล่าวหาไม่ใช่คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกพรรค รวมทั้งไม่ได้เป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็น สส. ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ที่จะเป็นเหตุให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ได้ แต่อาจเป็นพฤติกรรมซึ่งเป็นเรื่องจริยธรรมที่มีอยู่ 2 ส่วน ดังนี้

  • ส่วนแรก ถ้าเป็นสมาชิกรัฐสภาก็จะมีมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา ที่สภาจะเป็นผู้ดำเนินการสอบ เช่น ใช้กลไกกรรมาธิการต่างๆ
  • ส่วนที่สอง เป็นจริยธรรมตามข้อบังคับพรรคการเมือง ที่พรรคจะกำหนดเพิ่มเข้าไป จากที่กำหนดว่าต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ล้อมาจากกฎหมาย 

นายแสวง ให้ความเห็นอีกว่า พฤติกรรมจริยธรรมมันจะมากกว่าและลึกกว่าลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกพรรคที่กฎหมายกำหนด แต่ย้ำว่านายทะเบียนพรรคการเมือง หรือสำนักงาน กกต. ไม่มีอำนาจเข้าไปตัดสิน มีหน้าที่เพียงดูแลความเป็นอยู่หรือการดำเนินการของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย มีแค่นั้น 

เลขาธิการ กกต. รายนี้ กล่าวว่า ถ้าไม่ใช่คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม นายทะเบียนพรรคการเมือง หรือสำนักงาน กกต. ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบเหมือนเรื่องขัดจริยธรรมของสภา ไม่ได้ยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยื่นไปที่ ป.ป.ช. ถ้าขัดจริยธรรมตามข้อบังคับพรรค ก็เป็นเรื่องที่พรรคต้องดำเนินการ เช่น พรรคมีมติขับออก แต่ถ้าสมาชิกที่ถูกขับเห็นว่า เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม การขับไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ก็มาร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ เพราะมีหน้าที่ดูแลให้พรรคดำเนินกิจการทางเมืองให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคและกฎหมาย

ส่วนกรณีที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส. จ.ปราจีนบุรี ที่บอกว่าผิดหวังกับมติขับออกของพรรคก้าวไกลนั้น นายแสวง กล่าวว่าสามารถยื่นร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ ถ้าเห็นว่าการประชุมเพื่อมีมติขับและเหตุผลในการขับไม่ชอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook