ประวัติ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง สัตว์เทพตามตำนานของจีน จากปีศาจสู่เทพเจ้า

ประวัติ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง สัตว์เทพตามตำนานของจีน จากปีศาจสู่เทพเจ้า

ประวัติ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง สัตว์เทพตามตำนานของจีน จากปีศาจสู่เทพเจ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประวัติ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง สัตว์เทพตามตำนานของจีน มีเรื่องเล่าขานทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น จากปีศาจสู่เทพเจ้า

จากประเด็นฮือฮา ณ ศาลครูกายแก้ว รัชดา ที่จะมีเหล่าทวยเทพต่างๆ มาลง ให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพร หนึ่งในนั้นคือ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่า จิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นปีศาจไม่ใช่เทพเจ้าที่ควรกราบไหว้ อีกทั้งยังเป็นเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น

จิ้งจอกเก้าหาง เป็นหนึ่งในสัตว์วิเศษที่เป็นที่รู้จักทั้งในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ตามตำนานของจีน ว่ากันว่าเป็นเทพปีศาจ 1 ในเทพปกรณัมจีน มีชีวิตอมตะและแปลงเป็นมนุษย์ได้หากได้บำเพ็ญตบะมานาน โดยตำนานเล่าขานส่วนใหญ่จะเป็นจิ้งจอกเพศเมียที่แปลงกายเป็นหญิงสาวงดงาม มีไหวพริบเป็นเลิศ หลอกล่อให้ชายลุ่มหลง

ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของจีน

ในพงศาวดารของจีนชื่อว่า “ฮ่องสิน”  หรือ “ห้องสิน” เล่าตำนานของจิ้งจอกเก้าหาง เริ่มจาก จักรพรรดิโจ้ว แห่งราชวงศ์ซาง ได้เสด็จไปถวายสักการะพระแม่หนี่วา แล้วเห็นเทวรูปสลักงดงามประดุจมีชีวิต จึงแต่งเป็นบทกวีชมโฉมองค์เทวีด้วยถ้อยคำที่จาบจ้วงแสดงความกำหนัด แล้วทรงมีพระราชโองการให้นำโคลงนั้นประดับไว้ในเทวสถาน 

การกระทำของ จักรพรรดิโจ้ว ทำให้พระแม่หนี่วาโกรธมาก จึงส่งปีศาจจิ้งจอก ปีศาจพิณ และปิศาจไก่ มาทำลาย จักรพรรดิโจ้ว 

ขณะเดียวกัน จักรพรรดิโจ้ว ก็สั่งให้ตามสาวงามที่มีใบหน้าสวยงามดั่งเช่นพระแม่หนี่วา จนกระทั่งพบ ซูต๋าจี ธิดาของมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง สาวงามที่มีใบหน้าคล้ายพระแม่ แต่เคราะห์ร้ายที่ ซูต๋าจี ถูกปีศาจจิ้งจอกสังหารก่อนถวายตัวเป็นสนมแล้วเข้าสิงร่างของเธอ

หลังจากนั้น ซูต๋าจีที่ถูกนางปีศาจจิ้งจอกเข้าสิง ก็ใช้มารยายุยงให้จักรพรรดิโจ้วหลงผิด ไม่เป็นอันว่าราชการ มัวเมาในสตรี จัดงานเลี้ยงหรูหราในวัง ก่อสร้างหอคอยสอยดาวสูงเสียดฟ้าที่มาจากการขูดรีดภาษีประชาชน เกรณฑ์แรงงานมาก่อสร้างจนล้มตายไปมาก ใครขัดหรือโต้แย้งก็ถูกประหารหมด ขณะเดียวกันนางก็แอบพาเหล่าปีศาจเข้ามาสิงสู่ในวังมากขึ้น

เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ร้อนถึง เทพปรมาจารย์เอวี๋ยนสื่อเทียนจวิน และเหล่าเซียนแห่งเขาคุนหลุน จึงบัญชาให้ศิษย์เอกที่ชื่อ ไท่กงฮว่าง หรือที่มีชื่อจริงว่า หลี่ซ่าง หรือ เจียงจื่อหยา มายังโลกมนุษย์เพื่อกำจัดซูต๋าจี

เจียงจื่อหยา พร้อมทั้งศิษย์เอกคือ นาจา ก็ได้รวบรวมพวกพ้องที่เป็นนักพรต จอมยุทธ์ เหล่าขุนนางที่หลบหนีจากราชสำนัก โดยมี จีซาง อดีตเจ้าเมืองที่ต้องเสียตำแหน่งเพราะซูต๋าจี นำทัพเพื่อบุกโจมตีนครเฉาเกอ และโค่นล้มจักรพรรดิโจ้ว

สุดท้าย ปีศาจทั้งสามถูกคุมตัวไปตัดสินโทษ เจ้าแม่หนี่วาบอกว่าให้จัดการแค่จักรพรรดิโจ้ว แต่กลับทำเกินกว่าเหตุ สมควรจะต้องถูกลงโทษ ปิศาจพิณและปิศาจไก่ถูกลงโทษจนถึงแก่ความตาย มีเพียงจิ้งจอกเก้าหางเท่านั้นที่สามารถหลบหนีการลงโทษไปได้ 

ตำนาน ภูตจิ้งจอกเก้าหางของญี่ปุ่น

กล่าวถึงตำนานของญี่ปุ่นไว้ว่า จิ้งจอกเก้าหางเป็นปิศาจที่เข้ามาแฝงตัวในราชสำนักของญี่ปุ่นในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ หลังจากที่จิ้งจอกเก้าหางหลบหนีออกมาจากอินเดียและจีนได้แล้ว ก็แอบแฝงตัวเข้ามาในร่างของ ทามาโมะ โนะ มาเอะ หญิงงามที่ฉลาดล้ำ กลิ่นกายหอมหวนดั่งกลีบซากูระแรกแย้ม และอาภรณ์ไร้รอยยับ ด้วยความงดงามของนาง ทำให้จักรพรรดิโทบะเกิดความลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น สุขภาพร่างกายของจักรพรรดิโทบะก็ทรุดโทรมลงทุกวันๆ จึงได้มีการทำพิธีปัดรังควานโดยการอัญเชิญนักพรตมาช่วยทำพิธี จนได้ทราบว่า ขณะนี้ในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางแฝงตัวอยู่

หิน Sessho-seki

เมื่อความจริงเปิดเผย ทามาโมะ โนะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกสีทองตัวใหญ่มีเก้าหาง เหาะหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่บริเวณภูเขานาสุ เกิดการต่อสู้กัน และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้ กลายเป็นหินเซ็ชโชเซกิ ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ตำนาน กูมิโฮ จิ้งจอกเก้าหางของเกาหลี

กูมิโฮ (Gumiho) หรือ จิ้งจอกเก้าหาง เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีชื่อเสียง และมักถูกพูดถึงบ่อยในนิทาน หรือตำนานพื้นบ้านเกาหลี รวมไปถึง ญี่ปุ่น และจีน จากตำนานเล่าว่า สุนัขจิ้งจอกที่มีอายุถึง 1000 ปี จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเองได้ ส่วนใหญ่จะแปลงเป็นหญิงสาวสวยเพื่อหลอกล่อชายหนุ่ม กูมิโฮ ต้องการที่จะกลายร่างเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงให้ได้ ด้วยการกินหัวใจหรือตับมนุษย์ให้ได้ครบ 100 คน กูมิโฮจึงมักแฝงตัวอยู่ในบ้านกลางป่า คอยหลอกมนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายที่หลงในรูปโฉมงดงามให้มาเป็นเหยื่อ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook