หนุ่มดีใจไม่ออก เมียบอกท้อง 4 เดือน ถามคำแรก "ลูกใคร?" เพราะมั่นใจทำเมียท้องไม่ได้
หนุ่มไม่อยู่บ้านครึ่งปี แต่เมียท้อง 4 เดือน ยอมรับกิ๊กหนุ่มในเน็ต ยังให้โอกาสเลือก "ทำแท้งหรือหย่า" แต่ฟังคำตอบยิ่งฉุน
"นายไท่" ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทของจีน เขาเกิดและเติบโตในครอบครัวที่ยากจน และกว่าจะได้แต่งงานก็ตอนที่อายุมากแล้ว ดังนั้น เพื่อหารายได้พิเศษมาดูแลครอบครัว จึงตัดสินใจไปทำงานไกลบ้าน แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ หลังจากแต่งงานได้ไม่ถึงปี และไปทำงานไกลบ้านได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น "นางเจือง" ภรรยาของเขา ก็แจ้งข่าวว่าตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ทำเอาเขาโกรธจนแทบยืนไม่อยู่เมื่อรู้ว่าตัวเองกลายเป็น "สามีซึ่งภรรยามีชู้" เขาจำได้ว่าพ่อแม่ใช้เงินทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่องานแต่งงานของเขา
และเรื่องราวก็น่าหงุดหงิดใจมากกว่าเดิมไปอีก เมื่อเขาถามภรรยาเกี่ยวกับพ่อของเด็กในท้อง เธอกลับบอกว่า "ไม่รู้" เนื่องจากรู้จักชายคนนั้นผ่านทางออนไลน์ เคยพบกันไม่กี่ครั้ง และทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แม้ว่าเขาจะโกรธมากกับการกระทำของภรรยา แต่เขาจำได้ว่าพ่อแม่ใช้เงินทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่องานแต่งงานของเขา ดังนั้นจึงพยายามอดทนไว้และขอให้ภรรยาทำแท้ง ซึ่งหากเธอตกลงเขาก็จะยอมให้อภัย
อย่างไรก็ตาม ภรรยากลับไม่เห็นด้วย เธอรู้สึกว่าสามีใจแคบเกินไป และยังพูดออกมาตรงๆ ว่า "การเป็นพ่อของลูกมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ไม่ใช่เหรอ?" และยื่นข้อเสนอกลับมาบ้างให้สามีเลือกบ้างว่า จะยอมรับเด็กเป็นลูกหรือจะหย่า เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ นายไท่จึงตกลงที่จะหย่า โดยมีเงื่อนไขว่าภรรยาต้องคืนเงินค่าสินสอดทั้งหมด พร้อมเครื่องประดับที่เจ้าบ่าวมอบให้เธอ แต่ภรรยาก็ยังคิดว่าสิ่งที่สามีพูดนั้นไร้สาระ
สุดท้ายนายไท่จึงต้องขอความช่วยเหลือจากสื่อฯ ให้เป็นคนกลางเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย โดยพาไปที่บ้านเพื่อให้เข้าใจความจริงของสถานการณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งภรรยายังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า "อยากได้ลูกคนนี้" ผู้ไกล่เกลี่ยจึงถามต่อไปว่า “แล้วใครจะเลี้ยงลูกคนนี้ล่ะ?”
“เขา! ถ้าเขารักฉันจริงเขาจะยอมทนต่อสิ่งที่ฉันทำ และยอมรับลูกของฉัน ถ้าเขาไม่อยากเป็นพ่อ ก็ต้องเจอกับสิ่งที่แย่ที่สุดคือการหย่าร้าง ฉันจะหาผู้ชายที่ยินดีจะเป็นพ่อของเด็ก และแต่งงานกับคนนั้น” นางเจืองตอบ
นายไท่ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของภรรยาก็โกรธมาก เขาชี้ไปที่เธอและบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงผิดศีลธรรม แต่นางเจืองเชื่อว่าคนที่เป็นโรคต่อมลูกหมากแบบเขาไม่สามารถมีลูกได้ ดังนั้นเขาควรยอมรับเด็กคนนี้ แม้ว่าสามีของเธอจะอธิบายแล้วว่าเขาได้รับการตรวจจากโรงพยาบาลแล้ว อาการป่วยของเขามีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแพทย์แจ้งว่าไม่มีปัญหาเรื่องการมีลูก
และสิ่งที่เหลือเชื่อกว่านั้นอีกคือ จู่ๆ แม่ของภรรยาก็ประณามว่าลูกเขยใจแคบเกินไป พร้อมชี้แนะว่าเขาควรใจกว้างกว่านี้ เมื่อนายไท่ได้ยินก็รู้สึกตะลึง เพราะเมื่อมองจากภายในนอกเขาคิดว่าแม่ของภรรยาจะฉลาดและเป็นคนดีกว่านี้ แต่ทั้งหมดนั้นเขาคิดผิด เพราะจริงๆ แล้ว "แม่กับลูกสาวไม่ได้ต่างกันเลย"
หลังจากคำพูดเจ็บๆ คันๆ นี้ถูกเอ่ยออกมา ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ในเวลานั้นพ่อของนายไท่ก็โกรธมากเช่นกัน แต่เพราะเขาใช้เงินทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ให้ลูกชายแต่งงานไปแล้ว เขาจึงบอกว่าเขาจะยอมให้อภัยหากลูกสะใภ้เต็มใจทำแท้ง แต่นางเจืองยังยืนยันว่าเธอจะไม่ทิ้งลูกของเธอ
เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ผู้ไกล่เกลี่ยจึงพาทุกคนไปที่คณะกรรมการหมู่บ้าน เชิญชาวบ้านบางส่วนมารวมกันด้วย แต่จู่ๆ นางเจืองก็ร้องไห้อย่างหนัก และบอกว่าอายุของเธอถ้าทำแท้งก็คงจะไม่สามารถมีลูกได้อีกในอนาคต ในขณะที่แม่ของเธอก็ช่วยกล่าวเสริม ยังคงตำหนิลูกเขยอย่างหนัก โดยกล่าวหาว่าไม่สนใจภรรยา เป็นผู้ชายที่ไม่มีความอดทน และถ้าจะคืนเอาสินสอดคืนก็ต้องข้ามศพเธอไปก่อน
ทั้งสองครอบครัวมีแต่ทะเลาะกันรุนแรงมากขึ้น และท้ายที่สุดก็แยกย้ายกันไปโดยที่ความขัดแย้งยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งนายไท่บอกว่าจะขอให้กฎหมายคุ้มครองสิทธิของเขา
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ