เอ๊า ผู้บริหารไล่นักเรียนออกจากหอพักกลางดึก ไม่พอใจเด็กกดไลค์อดีตครูที่ออกไปแล้ว

ผู้บริหารไล่นักเรียนออกจากหอพักกลางดึก ไม่พอใจที่เด็กไปกดไลค์เฟซบุ๊กครูที่ออกไปแล้ว อ้างครูคนนั้นสร้างความเสื่อมเสียให้วิทยาลัย

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองรายหนึ่งว่า ลูกสาวที่เรียนอยู่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกไล่ให้ออกจากหอพักเนื่องจากไปกดไลค์เฟสบุคอาจารย์คนหนึ่งที่ได้ออกจากวิทยาลัยไปแล้ว ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนไม่พอใจเรียกออกมาพบ และได้ต่อว่าพร้อมทั้งไล่ให้ออกจากหอพักภายใน 5 นาที โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นคืนวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

โดย น.ส.เอ (นามสมมุติ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเรียนอยู่ระดับ ปวช.ปีที่ 1 และอาศัยพักอยู่หอภายในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ได้มีอาจารย์และเพื่อนรุ่นพี่โทรเข้ามาหาตน แต่ตนไม่ได้รับสายเนื่องจากตนนอนหลับแล้ว แต่ก็ได้มีอาจารย์ขี่รถจักรยานยนต์มาตามที่หอ ให้ลงไปคุยกับผู้บริหาร โดยผู้บริหารได้ด่าตนเองว่า ไปกดไลค์ในเฟซบุ๊กของอาจารย์ที่ออกไปแล้วทำไม ซึ่งเป็นโพสต์ที่อาจารย์ได้โพสต์ไว้ ซึ่งมีข้อความว่า “ดีแต่ตัว คนอื่นชั่วหมด อีงัว...การให้อภัยเป็นทานอันสูงสุด ทราบค่ะ แต่ไม่ให้”

ที่ตนไปกดไลค์เนื่องจากว่ารักและเคารพอาจารย์ท่านนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ระบุหรือโจมตีใคร แถมผู้บริหารท่านนั้นก็ยังพูดว่า “ถ้าเป็นผู้ชายผมจะตบให้คว่ำเลย” และให้ออกจากหอภายใน 5 นาที ตนจึงโทรศัพท์บอกแม่ แต่แม่ไม่สามารถมารับได้เพราะดึกแล้ว จึงรอถึงรุ่งเช้าแม่จึงมารับ และตนก็คงไม่กลับไปเรียนอีกแล้ว ที่ออกมาร้องเรียนเพราะต้องการให้มีการตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้

ด้าน ผู้บริหาร ซึ่งเป็นคู่กรณี เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าว ตนได้ให้ครูขึ้นไปตามเด็กนักเรียนคนดังกล่าวมาคุยจริง ในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม แต่ก็ไม่ได้มาตามลำพัง มีนักเรียนคนอื่นและครูดูแลหออยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยมานั่งคุยกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างๆ หอพัก ซึ่งตนได้แจ้งว่าทำไมไปกดไลค์และคอมเมนต์ข้อความของครูคนที่ออกไปจากโรงเรียนแล้ว ซึ่งครูคนดังกล่าวก็ได้โพสต์หลายอย่างที่ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย จึงไม่ควรที่จะไปส่งเสริมหรือสนับสนุนโพสต์ดังกล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้บอกว่าให้ออกภายใน 5 นาที บอกเพียงว่าพรุ่งนี้ให้ผู้ปกครองมารับไม่ให้พักอยู่ในหอของวิทยาลัยแล้ว แต่ก็ยังให้มาเรียนได้ตามปกติ และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีโอกาสได้คุยกับแม่ของนักเรียนแล้ว และพร้อมที่จะให้กลับมาอยู่ในหอพักเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ต้องหยุดพฤติกรรมในการสนับสนุนผู้ที่ให้ร้ายวิทยาลัยด้วย ทั้งๆ ที่ตนดูแลนักเรียนเป็นอย่างดีทั้งพอพักฟรี เรียนฟรี เลี้ยงอาหารเย็น บางครั้งก็ยังให้เสื้อผ้านุ่งห่มด้วย