ย้อนรอยคดีดัง "นักฆ่า BTK" เมื่อลูกสาวฆาตกรต่อเนื่อง ลุกทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ

ย้อนรอยคดีดัง "นักฆ่า BTK" เมื่อลูกสาวฆาตกรต่อเนื่อง ลุกทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ

ย้อนรอยคดีดัง "นักฆ่า BTK" เมื่อลูกสาวฆาตกรต่อเนื่อง ลุกทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“พ่อฆ่าพวกเธอใช่ไหมคะ”, “เขาไม่ใช่พ่อฉันคนเดิมอีกต่อไป” เมื่อลูกสาวนักฆ่า BTK ลุกทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ

เคอร์ริ รอว์สัน (Kerri Rawson) ใช้เวลาหลังจากปี 2005 กับจิตแพทย์ เธอหย่าขาดจากสามี ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง แต่หญิงสาวไม่เคยปิดบังตัวเอง ไม่เคยซ่อนความลับจากความจริงอันเจ็บปวดจากสังคม

ในปี 2022 รอว์สันได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่สำนักงานโอเซจเคาน์ตี้ (Osage County) พวกเขากำลังสืบสวนคดีค้างเก่าที่ปิดไม่ลงมากว่า 45 ปี และต้องการความช่วยเหลือจากหญิงสาวคนนี้ ทีแรกรอว์สันยินดีอย่างมาก แม้จะเป็นคำขอร้องที่ใครก็ไม่อยากทำ แต่เธอตัดสินใจว่าจะให้ความร่วมมือกับทางการ “เราจะออกเงินให้คุณไปโอคลาโฮมา” คำของ่ายๆ ของเจ้าหน้าที่ก็คือ รอว์สันจะต้องเดินทางข้ามรัฐไปที่เรือนจำแห่งหนึ่ง เพื่อพบชายที่เธอไม่เคยพบหน้ามากว่า 18 ปีแล้ว

หญิงสาวเดินทางไปที่คุกแห่งนั้น ณ ห้องเยี่ยม ชายชราวัย 78 ปี ในชุดนักโทษมาพบเธอ สภาพโรยรา ต้องนั่งรถเข็น เดิมทีเฒ่าคนนี้ ได้สั่งย้ำห้ามรอว์สันมาพบเด็ดขาด นับตั้งแต่ถูกจับกุมในปี 2005 หญิงสาวปฏิบัติตามคำขอนี้อย่างเคร่งครัด แต่ครั้งนี้ เธอต้องละเมิดกฎ เพราะเจ้าหน้าที่ร้องขอและตัวเองก็ยินดีจะถามเขา

ประโยคของเธอเปล่งออกมาอย่างเรียบๆ แต่ทรงพลัง ภาพจำทั้งหมดก่อนปี 2004 แล่นพล่านเข้ามาในก้อนความทรงจำ และผ่านไปอย่างรวดเร็วราวลมพัด รู้สึก แต่ไม่อยากจดจำอีกต่อไป ทั้งสองสบตากันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี จากนั้นรอว์สันก็พูดออกมาว่า “พ่อฆ่าพวกเขาใช่ไหมคะ”

  • จุดเริ่มต้นของฝันร้าย

เช้าตรู่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2005 เคอร์ริ รอว์สัน (Kerri Rawson) ซึ่งไม่ได้พบพ่อมาปีกว่าแล้ว หลังจากเรียนจบก็มาทำงานเป็นครู แยกมาอยู่ห้องพัก เลี้ยงชีพด้วยตัวเอง วันนั้นเธอได้พบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ที่มาเคาะประตูแล้วแจ้งข่าวร้ายว่า “เราจับพ่อคุณ เพราะเขาคือนักฆ่า BTK” โลกของรอว์สันพังทลายลงทันที หลังจากประโยคนี้ถูกพูดออกไป

นักฆ่า BTK เป็นฉายาที่สื่อตั้งให้ มันย่อมาจากคำว่า Bind, Torture, Kill หรือแปลว่า มัด ทรมาน และฆ่า เขาก่อเหตุเป็นฆาตกรต่อเนื่องในรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1974-1991 โดยเขียนจดหมายไปแนะนำตัวกับสื่อย้ำให้เรียกเขาด้วยชื่อนี้ ตำรวจไม่เคยจับผู้ก่อเหตุได้ ไม่เคยรู้ร่องรอย ไม่มีผู้ต้องสงสัย นับเป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดชาญฉลาด เขารู้จังหวะ หลังฆ่าเหยื่อนับ 10 ศพมาเกือบ 20 ปี ก็หยุดฆ่า

จากนั้นในปี 2004 ครบรอบ 30 ปี ที่ออกอาละวาด เขาก็ส่งจดหมายพร้อมแนบแผ่นดิสก์ไปให้สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นด้วย และนี่เอง ตำรวจจึงแกะรอย ไล่วงจรปิด เจอรถที่นำของมาส่งหน้าสำนักข่าว สืบไปจนเจอชายผู้ต้องสงสัย นำดีเอ็นเอไปเทียบ พบว่าตรงกับดีเอ็นเอฆาตกรที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ 31 ปีแห่งการไล่ล่า ในที่สุด ตำรวจก็จับกุม เดนนิส เรเดอร์ (Dennis Rader) ชายที่มีครอบครัวสุดอบอุ่น ภรรยาสุดน่ารัก พ่อของลูก 2 คน หัวหน้ากลุ่มลูกเสือ ประธานโบสถ์ท้องถิ่น ในฐานะนักฆ่า BTK ได้สำเร็จ

เหตุการณ์นี้ทำให้โลกของรอว์สันเข้าสู่ฝันร้ายในทันที เธอบอบช้ำ ต้องไปพบจิตแพทย์ เพื่อบำบัดความเจ็บปวด มันเป็นบาดแผลที่มีน้อยคนในโลกจะเข้าใจและเคยเป็น นั่นก็คือการมีพ่อเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แถมยังไม่ใช่นักฆ่าธรรมดา แต่เป็นนักฆ่าระดับโหดเหี้ยม ที่ปกปิดตัวตนมาได้เกือบทั้งชีวิต

สิ่งที่รอว์สันรับมือ นอกจากพบหมอแล้ว เธอยังเปิดตัวกับสื่อ พยายามไปพบครอบครัวเหยื่อที่ถูกพ่อตัวเองฆาตกรรม ทั้งหมดที่ทำลงไปเพื่อตอกย้ำให้โลกได้เห็นว่า ครอบครัวเธอไม่ได้มีความเกี่ยวข้องในการร่วมปกปิดความเลวของพ่อแต่อย่างใด รอว์สันย้ำว่า แม่ เธอ และน้องชาย ต่างเป็นเหยื่อของนักฆ่าคนนี้เช่นกัน “ครอบครัวของฉัน ก็เป็นผู้ถูกกระทำทารุณกรรม ทั้งทางกาย จิตใจ คำพูดและอารมณ์ โดยนักฆ่า BTK”

  • ไม่ใช่พ่อคนเดิมอีกต่อไป

เมื่อปลายปี 2022 นายอำเภอ เอ็ดดี เวอร์เดน (Eddie Virden) นั่งดูสารคดีฆาตกรรมในเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แล้วก็คิดถึงคดีค้างเก่าที่โอเซจเคาน์ตี้ ระหว่างนั้นเขาตรวจสอบหลักฐานทางคดีบางอย่างแล้วพบว่า นักฆ่า BTK อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

เขาตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมเดนนิสถึงเรือนจำ ตลอด 3 ชั่วโมงแห่งการพูดคุย นักฆ่า BTK ซึ่งอยู่ในวัยชรา และต้องโทษติดคุกตลอดชีวิต นั่งคุยถึงคดีฆาตกรรมที่เขาก่อเหตุในอดีต มันไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก นายอำเภอเอ็ดดี้ยอมจำนน แต่ขณะที่กำลังออกจากห้องเยี่ยม ฆาตกรต่อเนื่องวัย 70 กว่าปี ก็พูดออกมาว่า “ผมมีเรื่องแฟนตาซี ที่เอาออกจากหัวไม่ได้สักที นั่นก็คือลักพาตัวเด็กสาวจากร้านซักอบรีด”

เอ็ดดี้ขนลุกชัน เขารู้ดีว่านักฆ่าคนนี้ไม่ได้พูดเล่นว่าเป็นเรื่องที่คิดเท่านั้น แต่คือเรื่องจริง เพราะมันตรงกับคดีค้างเก่าของสำนักงานด้วย นายอำเภอกลับไปค้นหลักฐาน ตั้งทีมสืบสวนคดีค้างเก่าทันที มันเป็นเหตุการณ์ในปี 1976 เด็กหญิงวัยแค่ 16 ปี ซึ่งทำงานเสริมอยู่ที่ร้านซักอบรีดหายตัวไป ทางการเชื่อว่าบางทีเดนนิสอาจเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พวกเขาขอสำเนาหลักฐานเกี่ยวกับนักฆ่า BTK ทั้งหมด เหล่านักสืบพบว่าบันทึกของเดนนิสมีการเขียนหัวข้อไว้ในเหตุการณ์หนึ่ง ชื่อเรื่องว่า ‘วันซักผ้าที่สุดเลวร้าย’

เจ้าหน้าที่พบว่า ในปี 1976 ฆาตกรต่อเนื่องคนนี้ทำงานเป็นคนติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านซักอบรีดที่หญิงสาววัย 16 ปีหายตัวไป หลังจากตรวจสอบประวัติการทำงาน พวกเขาพบเรื่องน่าตกใจอีกเรื่อง นั่นก็คือนักฆ่า BTK อาจเกี่ยวข้องกับคดีที่สำนักงานยังปิดไม่ลงอีกคดี นั่นก็คือการพบศพหญิงสาวอายุ 22 ปี ถูกลักพาตัวหายไป ก่อนจะถูกฆาตกรรมแล้วเอาศพไปทิ้ง เมื่อปี 1990

โดยละแวกบ้านที่ผู้หญิงคนนี้หายตัวไปนั้น เดนนิสเคยทำงานใกล้ๆ ด้วย แถมในข้าวของสะสมที่นักฆ่า BTK เก็บไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าวของเหยื่อที่ถูกเขาสังหาร มีภาพผ้าพันคอสีแดง ซึ่งทางครอบครัวหญิงสาว อายุ 22 ปีแจ้งไว้ว่า เป็นชุดที่เธอใส่ก่อนหายตัวไป เจ้าหน้าที่ขอผ้าพันคอนี้จากเอฟบีไอที่เก็บหลักฐานไว้ เมื่อตรวจดีเอ็นเออย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นของหญิงสาวอายุ 22 ปี

คราวนี้ทางการกลับไปที่พักของเดนนิสอีกครั้ง แล้วลงมือขุดสวนหลังบ้าน เพราะคิดว่า อาจมีข้าวของเหยื่อที่ถูกฝังกลบดินไว้ และแล้วก็พบเสื้อผ้ามากมายที่คาดว่าน่าจะเป็นหญิงสาวที่ถูกนักฆ่ารายนี้สังหาร นี่จึงสอดคล้องกับข้อสงสัยที่สังคมคาดคิดกันมานานแล้ว นักฆ่า BTK น่าจะฆ่าคนมากกว่าที่บันทึกไว้ 10 รายแน่นอน

เมื่อความจริงปรากฏหลักฐานชัดแน่น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆาตกรต่อเนื่องรายนี้เพิ่มทันที อย่างไรก็ดี คดีเด็กหญิงวัย 16 ปี ยังไม่ถูกคลี่คลาย พวกเขาไม่พบอะไรที่พอจะไขคดีได้ นี่เองจึงทำให้นายอำเภอเอ็ดดีติดต่อไปหารอว์สัน ลูกสาวฆาตกรต่อเนื่อง เขามีเรื่องอยากให้เธอช่วย นั่นก็คือไปถามพ่อที่คุกว่า ได้ฆ่าเด็กหญิงคนนี้หรือไม่

ตอนนั้น รอว์สันอยู่ที่ฟลอริดากับลูก 2 คน น้องชายของเธอสมัครเป็นทหาร และไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องพ่อแม้แต่ครั้งเดียว การติดต่อของเจ้าหน้าที่ ทำให้เธอย้อนรำลึกไปถึงช่วงที่เพื่อนบ้านเธอถูกฆ่าโดยนักฆ่ารายนี้ ทำเอาคนทั้งชุมชนหวาดกลัวมาก รอว์สันซึ่งอายุ 6 ขวบ นอนขวัญผวา เอาแต่พูดว่า มีคนบ้าในบ้านเราอยู่หลายครั้ง จนแม่ต้องมาปลอบใจว่า ไม่มีหรอกลูก ไม่มีคนบ้าในบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน ผ่านไปหลายสิบปี เธอกับแม่จึงรู้ว่า ไม่เป็นความจริง พ่อนี่ไงคือคนบ้าในบ้านหลังนั้น

ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองเจอหน้ากัน คือวันคริสต์มาสในปี 2004 เธอกับอดีตสามีมากินข้าวกัน ตอนจะกลับ พ่อเข้ามากอดรอว์สันแล้วพูดว่า “พ่อรักลูกนะ” หญิงสาวยอมรับว่า กลิ่นกายของพ่อยังติดค้างในความทรงจำเสมอ แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องฝืนทนมีชีวิตต่อไปให้ได้ โดยมุ่งหวังชะล้างความเจ็บปวดให้กับเหยื่อที่ถูกพ่อตัวเองฆ่าอย่างเลวร้าย

ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่โอเซจติดต่อมา หญิงสาวจึงยินดีจะไปพบพ่อ แม้มันจะเป็นสถานการณ์ที่อิหลักอิเหลื่อแค่ไหนก็ตาม พลันที่ได้พบ เธอก็รีบยิงคำถามไปว่า พ่อได้ฆ่าเด็กหญิงวัย 16 ปีคนนี้หรือไม่ แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบไม่ตอบ ทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น นั่นทำให้รอว์สันต้องไปเตรียมตัวมาใหม่ เธออ่านบันทึกของพ่อ หลักฐานทางคดีทุกอย่าง ตรวจสอบอย่างละเอียด ทำการบ้านอย่างหนัก แล้วครั้งที่สอง ลูกสาวก็ไปพบพ่อตัวเองอีกครั้ง

หลังสนทนากันอยู่สักพัก รอว์สันก็เปิดประเด็นถามรายละเอียดทางคดีทุกอย่าง ครั้งนี้พ่อเธอจำนน เขาพูดทุกอย่างออกไป แล้วนั่นนำไปสู่ความจริงที่ทำให้รู้ว่า พ่อของเธอเองนั่นแหละที่ฆ่าเด็กหญิงวัย 16 ปีคนนั้น แต่ความจริงสุดโหดร้ายยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเขาได้พูดเป็นนัยว่า อาจจะฆ่าหญิงสาวเพิ่มอีก 4 ศพด้วยกัน นั่นนำไปสู่ความตกตะลึงของรอว์สันและเจ้าหน้าที่ นี่เองคือเส้นแบ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม “เขาไม่ใช่คนที่เคยกอดฉันอีกแล้ว หลังจากปี 2004 เขาไม่ใช่พ่อฉันคนเดิมอีกต่อไป”

  • ทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ

ทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อสืบสวนคดีค้างเก่า เน้นไปที่หญิงสาวซึ่งหายตัวไป แล้วมีลักษณะตรงกับรูปแบบการฆ่าของฆาตกรต่อเนื่อง BTK เมื่อพวกเขาตรวจหลักฐานทุกอย่างจนแน่ชัด มุ่งโยงได้ว่าเกี่ยวข้องกับเดนนิส รอว์สันจะเป็นคนเดินทางไปถามคำยืนยันจากพ่อในคุกเอง

แน่นอนว่านักฆ่ารายนี้ไม่มีโอกาสได้รับอิสรภาพออกมาสู่โลกภายนอกอีก เขาจะต้องตายคาคุกแน่นอน ไม่ว่าจะโดนข้อหาเพิ่มอีกแค่ไหนก็ตาม แต่การปิดคดีค้างเก่าได้ลง ก็ทำให้ครอบครัวเหยื่อได้รับรู้ความจริงเสียที หลังเฝ้ารอคำตอบมาทั้งชีวิต มันคือการแสวงหาความจริงที่ช่วยทำให้ฝันร้ายสิ้นสุด และรอว์สันก็เต็มใจที่ได้ช่วยทางการ แม้การทำงานตรงนี้จะโยงเธอกลับไปหาพ่ออีกครั้งผ่านคดีฆาตกรรมก็ตาม แน่นอนว่ามันสร้างความเจ็บปวดอยู่เหมือนกัน แต่ทั้งหมดนี้รอว์สันย้ำว่า ยินดีจะทำ

ครอบครัวเหยื่อบางคนที่เคยโจมตีลูกสาวนักฆ่า BTK ว่าหิวแสง ทำเป็นออกสื่อ และหาเงินจากการเขียนหนังสือ แต่พลันที่พวกเขารู้ข่าวการเข้าคุกไปสืบคดีพ่อของตัวเอง ก็ยังยอมรับว่าสิ่งที่เธอทำลงไปน่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง ด้านทางการพอรู้ข่าวนี้ ก็ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำในสิ่งที่กล้าหาญอย่างมาก

ย้อนนึกถึงตัวเรา หากอยู่ในสถานการณ์แบบรอว์สัน จะเป็นอย่างไร จะเข้มแข็งยืนหยัดเหมือนเธอไหม จะกล้าเข้าคุกไปเค้นถามพ่อว่า ฆ่าหญิงสาวเหล่านี้หรือไม่ แต่สำหรับรอว์สันแล้ว เธอบอกว่า การอยู่กับฆาตกรต่อเนื่องคนนี้มากว่า 26 ปี นั่นทำให้เธอรู้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับเขา เหมือนเป็นของชำร่วยในชีวิตสุดเจ็บปวดของตัวเอง

ทุกวันนี้ นอกจากจะช่วยเจ้าหน้าที่ไขคดีของพ่อตัวเองแล้ว เธอยังเดินทางไปบรรยายเรื่องฆาตกรต่อเนื่องในมหาวิทยาลัย ในงานเสวนา มีคนยกมือถามเธอถึงเรื่องพ่อตัวเองมากมาย และรอว์สันจะพูดย้ำเสมอว่า "คุณอาจคิดว่าสิ่งที่ทำลงไป มันบ้ามาก แต่นั่นแหละ มันคือชีวิตของฉัน ชีวิตที่ไม่มีทางเลือกอื่นใดให้กับตัวเอง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook