ลองโทรหาลูกชายที่ตายไป ช็อกมีคนรับสาย เจอตัวจริงร้องไห้โฮ แม้แต่ไฝยังจุดเดียวกัน

ลองโทรหาลูกชายที่ตายไป ช็อกมีคนรับสาย เจอตัวจริงร้องไห้โฮ แม้แต่ไฝยังจุดเดียวกัน

ลองโทรหาลูกชายที่ตายไป ช็อกมีคนรับสาย เจอตัวจริงร้องไห้โฮ แม้แต่ไฝยังจุดเดียวกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฝังโทรศัพท์ไปพร้อมศพลูก แม่คิดถึงลองกดโทรหา อึ้งปลายสายตอบกลับมา เจอตัวจริงน้ำตาไหลพราก แม้แต่ไฝยังจุดเดียวกัน

แม้ว่าลูกชายจะเสียชีวิตไปแล้ว และได้ฝังโทรศัพท์มือถือไปพร้อมกันด้วย แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังคงโทรหาอยู่เรื่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งมีเสียงจากปลายสายตอบกลับมา พร้อมความบังเอิญเหลือเชื่อ

เจิ้ง ลี่เซีย ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ทุกๆ วัน เธอจมอยู่กับความเศร้าโศกหลังสูญเสียลูกชายคนเดียวไปด้วยอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่เธอเห็นเสื้อผ้าและรูปถ่ายของลูกชายที่บ้าน ก็ยังคงน้ำตาไหลออกมาเสมอ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในการยอมรับความจริง

คุณเจิ้ง และสามีของเธอ เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอู่ฮั่น พวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียว ดังนั้นความพยายามทั้งหมดจึงมุ่งไปที่เขา เพียงหวังว่าลูกชายจะมีอนาคตที่ดี ส่วนลูกชายก็เติบโตมาเป็นอย่างดี เชื่อฟังพ่อแม่ มีความสามารถและเก่งในทุกด้าน ทั้งการใช้ชีวิตและการเรียน อีกทั้งยังมีใจรักการแพทย์ ทั้งคู่จึงหวังว่าลูกชายจะเป็นหมอในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ชีวิตอันสงบสุขของครอบครัวกลับต้องมาเจอโศกนาฏกรรม เมื่อลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เพียงไม่กี่วันก่อนสอบเข้าวิทยาลัย คุณเจิ้งไม่สามารถยอมรับได้ว่าสูญเสียลูกชายไปตลอดการ โดยที่ไม่มีโอกาสได้บอกลากันด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงมีเพียงสามีของเธอเท่านั้นที่คอยดูแลเรื่องงานศพ เพราะเธอเป็นลมจากความโศกเศร้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในวันฝังศพคุณเจิ้งได้ขอให้ฝังโทรศัพท์มือถือของลูกลงไปด้วย เพราะมักปรารถนาให้ลูกชายยังสามารถคุยกับเธอแม้อยู่บนสวรรค์ เธอจึงโทรหาหมายเลขของลูกชายอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงความคิดของแม่ที่คิดถึงลูก โดยที่เธอเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า วันหนึ่งเธอจะได้ยินเสียงปลายสายตอบกลับมาจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้น?

หลังจากปลายสายกดรับ คุณเจิ้งตื่นเต้นมากและรีบถามปลายสายทันที "นั่นคือลูกใช่ไหม นี่แม่เอง" แต่ปลายสายกลับมีเสียงรบกวนดังมาก และไม่มีเสียงตอบรับกลับมา จากนั้นสัญญาณก็ตัดไป ทำให้เธอเชื่อจริงๆ ว่าลูกชายเป็นคนรับสาย ดังนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงโทรไปที่เบอร์ลูกชายอีกครั้ง

ครั้งนี้เธอได้ยินเสียงผู้ชายตอบกลับมา แต่ไม่ใช่เสียงลูกชายของเธออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงพยายามคุยกับบุคคลนั้นต่อไป โดยเล่าว่านี่คือหมายเลขโทรศัพท์ของลูกชายที่เสียชีวิต และเธอรู้สึกขอบคุณที่เขายินดีรับฟังคำพูดของเธอผู้ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พยายามปลอบเธอ และอธิบายว่าเขาเพิ่งเปิดเบอร์นี้มาใช้ นอกจากนี้ เขาอายุมากกว่าลูกชายของเธอเพียง 2 ปี แต่ลาออกจากโรงเรียนแล้ว และกำลังทำงานอยู่

ในระหว่างการสนทนานั้น เธอค้นพบความบังเอิญที่พิเศษมากๆ วันเกิดของผู้ชายคนนี้ตรงกับวันเกิดของลูกชายที่เสียชีวิตไปนอกจากนี้เขายังมีความฝันที่จะได้เรียนโรงเรียนแพทย์เหมือนลูกชายของเธออีกด้วย

ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ “เฉิน เหว่ย” เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ขณะที่เรียนอยู่ในวิทยาลัย แม่ของเขาล้มป่วยกะทันหัน เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของแม่ไปแล้ว ด้วยความสิ้นหวังจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลาออกจากโรงเรียนไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงิน และดูแลแม่

หลังจากได้ยินเรื่องราวชีวิตของนายเฉิน คุณเจิ้งก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและอยากจะพบหน้ากัน เมื่อได้พบกันจริงๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมาก เพราะนายเฉินดูค่อนข้างคล้ายกับลูกชายที่เสียชีวิตไป แม้แต่ตำแหน่งของไฝบนใบหน้าก็ยังเหมือนกันเธอถึงกับโอบกอดเขาแล้วร้องไห้ออกมา

จากนั้นเธอก็พาเขากลับบ้านไปพบกับสามี อย่างไรก็ดี  เมื่อเห็นท่าทีของสามีคุณเจิ้ง นานเฉินก็ใจฝ่อเพราะคิดว่าถูกไม่ชอบหน้า แต่ความจริงเขาเพียงแค่ตกตะลึง เพราะเมื่อมองนายเฉินทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายที่หายไปกลับมา และก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจ แต่กลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจออกไปตลาด ซื้ออาหารมากมาย และปรุงอาหารจานโปรดให้นายเฉินได้ทาน

ต่อมา นายเฉินมักจะไปเยี่ยมคุณเจิ้งและสามีของเธอ เช่นเดียวกับคู่สามีภรรยาที่แวะเวียนไปเยี่ยมแม่ของนายเฉินด้วย ทั้งสองครอบครัวสนิทสนมกันเพราะรูปร่างหน้าตาของลูกๆ ที่คล้ายคลึงกัน กระทั่งในที่สุดนายเฉินก็กลายเป็นลูกทูนหัวของคุณเจิ้งและสามี อีกทั้งพวกเขายังช่วยให้ชายหนุ่มได้กลับไปเรียนหนังสือด้วย

คุณเจิ้งยังพูดเสมอว่า การที่เฉินปรากฏตัวในชีวิตของพวกเขา อาจเป็นเพราะลูกชายบนสวรรค์กลัวว่าพ่อแม่จะเหงา ในขณะที่นายเฉินก็สัญญากับตัวเองว่า เขาจะดูแลพ่อแม่ทูนหัวจนกว่าพวกเขาจะจากไป

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ลองโทรหาลูกชายที่ตายไป ช็อกมีคนรับสาย เจอตัวจริงร้องไห้โฮ แม้แต่ไฝยังจุดเดียวกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook